:::     :::

ชายผู้นำทัพเชลซี "โธมัส ทูเคิ่ล"

วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2565 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,744
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ถือเป็นหัวหอกในการพาทีมฝ่าวิกฤติ

สำหรับโธมัส ทูเคิ่ลผู้จัดการทีมเชลซี ที่กำลังทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นผลงานในสนาม และการรวบรวมสปิริทนอกสนาม จนพาทีมสิงโตนำ้เงินครามเดินหน้าไปได้ต่อ ท่ามกลางมรสุมสารพัด จากการโดนคว่ำบาตร อันเป็นผลพวงมาจากสงครามระหว่างรัสเซีย กับยูเครน 


ช่วงนี้ เราจะย้อนไปทำความรู้จักกับชายที่ชื่อทูเคิ่ล กันหน่อยว่า เขามีเส้นทางเดิน และที่มาที่ไปอย่างไร โดยกว่าจะมาเป็นสุดยอดกุนซือระดับโลก เขาต้องผ่านพ้นกับแบบทดสอบอะไรบ้าง บอกเลยว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายอย่างแน่นอน แต่เมื่อเขาผ่านมันมาได้แล้ว การพาเชลซี ตะลุยอุปสรรค ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถ

สำหรับนักฟุตบอลสักหนึ่งคน คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการแขวนสตั๊ดตั้งแต่อายุยังน้อย รวมถึงตัวของทูเคิ่ล เองด้วย โดยเขาจำเป็นต้องเลิกเล่นฟุตบอล ด้วยวัยเพียงแค่ 25 ปีเท่านั้น จากอาการบาดเจ็บหนัก ที่เข้ามาพรากการเล่นกีฬาที่เขารักไปตลอดกาล


แน่นอนว่า เงินทองที่ทูเคิ่ล เก็บหอมรอมริบเอาไว้ สมัยเล่นฟุตบอลอาชีพกับอูล์ม สโมสรในบ้านเกิดที่เยอรมัน ถูกนำไปใช้กับการรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า การผ่าตัดผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า พอรู้ตัวอีกที เงินจำนวนดังกล่าวก็ร่อยหรอ จนแทบไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต


หลังจากไม่สามารถไล่หวดลูกหนังเหมือนที่เคยทำได้ ทูเคิ่ล ตัดสินใจออกไปศึกษาเล่าเรียน โดยเน้นไปที่ด้านเศรษฐศาสตร์ เขามองชีวิตของตัวเองในภาพรวมว่า หากอยากเอาตัวรอดจากอุปสรรคต่างๆ จำเป็นต้องหางานพิเศษทำ ควบคู่ไปกับการเรียนหนังสือในระดับมหาวิทยาลัย


ผมไม่มีกรมธรรม์ที่ดี ในการรักษาอาการบาดเจ็บทูเคิ่ล เริ่มเล่าถึงปัญหาเงินที่ผมเก็บออมมาเป็นระยะหนึ่ง ไม่ใช่จำนวนที่มากเลย จำนวนเงินเกือบทั้งหมดถูกใช้ไปในการรักษาหัวเข่าของผม ที่ต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนาน ในการกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง


ผมต้องยอมรับความจริงว่า เส้นทางลูกหนังอาจเป็นไปไม่ได้แล้ว ผมรู้สึกผิดหวังมาก จากนั้น ผมเริ่มต้นเรียนด้านเศรษฐศาสตร์ เพราะว่าผมไม่มีความคิดที่จะทำอย่างอื่น ระหว่างที่เรียนอยู่ ผมต้องการหารายได้เพิ่มเติม ผมจึงออกไปทำงานในบาร์ เหมือนกับที่นักเรียนคนอื่นเลือกทำ 

พร้อมกันนี้ ทูเคิ่ล ยังออกมายอมรับว่า การตระเวนหางานไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยต้องใช้ความอดทนอย่างมหาศาล ท่ามกลางช่วงเวลา และโอกาส ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ สุดท้าย โชคชะตาก็ตอบแทนความมุ่งมั่นเหล่านั้น เมื่อเขาได้งานทำเป็นผลสำเร็จ


ในก้าวแรกนั้น ผมต้องการหาเงินเพิ่มเติมทูเคิ่ล เล่าถึงประสบการณ์การทำงานที่บาร์ ในเมืองสตุ๊ทการ์ทวันหนึ่ง ... ผมเคยออกไปเคาะประตูบาร์-คาเฟ่ ประมาณ 10-12 แห่ง พร้อมกับถามร้านเหล่านั้นว่า -คุณต้องการคนช่วยมั้ยครับ ? ผมยินดีที่จะทำงานร้านคุณนะ-”


ผลสุดท้าย จุดเปลี่ยนของอดีตนักฟุตบอลอาชีพมาจบลงที่เรดิโอ บาร์ที่อ้าแขนรับทูเคิ่ล เข้าทำงาน ในฐานะพนักงานเก็บแก้ว สอดแทรกไปกับการเรียนรู้ด้านการรินเบียร์ และผสมค็อกเทล พร้อมกันนี้ เขายังรับหน้าที่ปัดกวาดเช็ดถู ในช่วงร้านปิดตอนตี 3 อีกด้วย


ผมมองว่ามันเป็นเรื่องดีนะ ผมได้เพื่อนใหม่ และการตอบรับในเชิงบวก คนในร้านไม่รู้ว่าผมเคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อน ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี และเป็นชีวิตที่สวยงามมาก โดยมอบบทเรียนอันแสนล้ำค่า ผมเกิดความมั่นใจในตัวเอง และเติบโตในทางที่ดีขึ้นเขากล่าวถึงชีวิตที่บาร์

กระทั่งช่วงปี 2000 ทูเคิ่ล เดินทางกลับเข้าสู่วงการฟุตบอลอีกครั้ง โดยไม่ใช่ในฐานนักเตะเหมือนเคย แต่เป็นในฐานะการเป็นโค้ชทีมเยาวชนของสตุ๊ทการ์ท จากการชักชวนของราล์ฟ รังนิคซึ่งเคยเป็นเจ้านายของเขาที่สโมสรอูล์ม เขาตอบแทนความไว้วางใจ ด้วยการพาทีมรุ่นยู-19 คว้าแชมป์ลีกเป็นผลสำเร็จ


ชีวิตคนเราเกินคาดเดา ถัดมาแค่ 9 ปี หลังจากที่เป็นเด็กหนุ่มที่ทำงานในบาร์ เขาสัมผัสการเป็นผู้จัดการทีมในบุนเดสลีกา เป็นครั้งแรก ด้วยการกุมบังเหียนไมนซ์ 05 โดยอาศัยจุดเด่นเรื่องการวางแผนแทคติก และการบริหารคน จนเคยพาไมนซ์ 05 จบอันดับ 5 ในลีกสูงสุดของเยอรมัน มาแล้ว


นี่คือเรื่องราวของคนสู้ชีวิต ที่เปลี่ยนจากการเป็นเด็กรินเบียร์ สู่การเปิดแชมเปญขวดใหญ่ เพียงแต่คนรอบข้างไม่ใช่ลูกค้าในบาร์อีกต่อไป แต่เป็นนักฟุตบอลของเชลซี ที่ฉลองแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยมีเขาเป็นแม่ทัพในการคว้าโทรฟี่มาครอง

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด