:::     :::

สัมผัสตัวตน โธมัส มุลเลอร์

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,460
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ยืนระยะกับบาเยิร์น มิวนิค มาอย่างยาวนาน

สำหรับโธมัส มุลเลอร์ ตั้งแต่ก้าวมาเล่นกับบาเยิร์น มิวนิค ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก ในช่วงฤดูกาล 2008-09 โดยนี่ถือเป็นฤดูกาลที่ 14 แล้ว ที่เขาลงเล่นให้กับยอดทีมจากเยอรมัน ถือเป็นการต่อยอดที่ยอดเยี่ยมมาก


เพราะอย่าลืมว่า เขาถือเป็นเด็กปั้นอันน่าภาคภูมิใจ ที่พลพรรคเสือใต้เพาะบ่มฝีเท้ามาตั้งแต่เป็นเด็กเยาวชนเลยทีเดียว ก่อนจะผลักดันขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ และยืนระยะได้อย่างยาวนาน


อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มุลเลอร์ จะก้าวมายืนในตรงจุดนี้ เขาต้องผ่านอะไรมาอย่างมากมาย ทั้งการเกือบโดนบาเยิร์น มิวนิค ปล่อยตัวออกจากทีม หรือการถูกสบประมาทว่า เป็นนักฟุตบอลที่เล่นแล้ว ดูเหมือนว่าไม่ค่อยมีทักษะเท่าไหร่นัก


ช่วงนี้ เราลองไปหาคำตอบกันหน่อยว่า ทำไมนักเตะที่ดูเหมือนเล่นฟุตบอลธรรมดาๆอย่างมุลเลอร์ ถึงก้าวมาเป็นตัวจบสกอร์ และสร้างสรรค์เกมชั้นยอดได้ 

ย้อนกลับไปช่วงปี 2008 บาเยิร์น มิวนิค มีแผนการปล่อยตัวมุลเลอร์ ที่เวลานั้นเป็นเพียงแค่ดาวรุ่งวัย  19 ปี  ออกไปให้กับสโมสรร่วมลีกอย่างฮอฟเฟ่นไฮม์


อย่างไรก็ตาม เฮอร์มันน์ เกอร์ลันด์ อดีตผู้จัดการทีมสำรอง "เสือใต้" ที่ติดตาม และเห็นถึงพัฒนาการของมุลเลอร์ มาตลอด เป็นคนยับยั้งความคิดดังกล่าว


เกอร์ลันด์ ออกมาเล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า เขายอมทำทุกวิถีทาง เพื่อเป็นการเก็บตัวมุลเลอร์ เอาไว้กับทีมต่อไปให้ได้ โดยกล่าวว่าผมรีบเข้าพบผู้บริหารอย่างอูลี่ เฮอเนส ผมเดินไปบอกกับเขาว่า สโมสรไม่ควรปล่อยตัวหมอนี่ออกจากทีม เราจะทำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด"


"อูลี่ ตอกกลับผมว่า -นายสามารถการันตีได้มั้ยว่า ทีมอย่างบาเยิร์น มิวนิค จะสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยนักเตะแบบเจ้าหมอนี่ ?- ผมเลยตอบว่า ผมไม่สามารถการันตีเรื่องนี้ได้ แต่สิ่งที่ผมยืนยันได้คือ เขาจะถล่มประตูได้อย่างมากมายให้กับสโมสรแน่นอน" 


เกอร์ลันด์ ปิดท้ายว่า "ครั้งแรกที่ผมเห็นมุลเลอร์ ลงสนาม นี่เป็นนักเตะที่คาดเดาไม่ได้เลยว่า จะทำอะไรในจังหวะต่อไป ? เขาผสมผสานระหว่างการมีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม กับท่าทางที่ดูเหมือนแข้งห่วยๆ !!! แต่ทุกครั้งคือ เขาจะส่งบอลเข้าไปนอนที่ก้นตาข่ายเสมอ"


ผลสุดท้าย บาเยิร์น มิวนิค มุลเลอร์ เอาไว้กับทีมต่อไป พร้อมกับคำทำนายของเกอร์ลันด์ ที่กลายมาเป็นความจริง เมื่อเขายิงประตูอย่างถล่มทลาย ทั้งในนามสโมสร และทีมชาติ ที่สำคัญ มุลเลอร์ สามารถลบคำสบประมาท ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นผลสำเร็จ

ขณะที่มุลเลอร์ นิยามการเล่นฟุตบอลของตัวเองว่าผมไม่ชอบการถูกจัดว่าเป็นกองหน้า ผมไม่ได้มองตัวเองเป็นแบบนั้น ผมชอบเล่นตรงพื้นที่ด้านหลังกองกลางฝ่ายตรงข้าม นั่นคือจุดที่ผมสามารถโจมตีคู่แข่งได้ดีที่สุด ผมถือเป็นลูกผสมระหว่างกองหน้า กับกองกลาง ผมเป็นนักค้นหาช่องว่าง  มันเป็นเรื่องของสัญชาตญาณ


กุญแจสำคัญคือจังหวะเวลา ระหว่างผู้เล่นที่จ่ายบอล กับผู้เล่นที่กำลังวิ่งเข้าไปในพื้นที่ที่ถูกต้อง สำหรับโลกลูกหนัง มีพื้นที่ที่อันตรายอยู่ หากคุณใช้เวลามาศึกษาพื้นที่เหล่านี้ คุณจะได้เรียนรู้ว่า อะไรสามารถทำร้ายคู่ต่อสู้ได้มากที่สุด บ่อยครั้ง มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการวิ่งระหว่างไลน์ โดยทำในช่วงเวลาที่เหมาะสม


สิ่งเหล่านั้น ถือเป็นจุดแข็งที่สุดของผม นั่นคือการเล่นโดยที่ไม่มีบอล ระหว่างไลน์ กับช่วงพื้นที่สุดท้าย ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย มันขึ้นอยู่กับตำแหน่งการเล่น, ความคิดที่เร็ว และความมั่นใจในทักษะของตัวเอง ผมจะไม่พูดว่าตัวเองผิดปกติ สิ่งเดียวที่ดูเหมือนจะผิดปกติ นั่นคือภาพรวมของผม หากคุณตัดสินที่ทักษะของผมเพียงอย่างเดียว


ดาวเตะวัย 32 ปี กล่าวต่อไปว่าผมมีเทคนิคที่ดี แต่ผมเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งไม่เก่ง มีกองหน้าที่ยิงดีกว่า และวิ่งเร็วกว่าผม สิ่งที่ไม่ธรรมดาคือ แม้ว่าผมเองจะมีจุดอ่อนแบบนั้น ผมยังพาตัวเองมาอยู่ในระดับสูง เพราะการเล่นในแง่มุมอื่นของผมยังคงดีอยู่


นั่นคือสิ่งที่ดูเหมือนไม่มีใครเข้าใจ แทนที่จะคิดว่าผมเป็นนักฟุตบอลประเภทไหน พวกเขาควรถามว่า นักเตะคนนี้สามารถเล่น และประสบความสำเร็จในศึกบุนเดสลีกาได้อย่างไร รวมถึงเล่นกับสโมสรยักษ์ใหญ่ หรือเป็นดาวซัลโวฟุตบอลโลกได้ยังไงมุลเลอร์ ทิ้งท้าย

ขณะที่ คาร์โล อันเชล็อตติ อดีตผู้จัดการทีม บาเยิร์น มิวนิค ระหว่างปี 2016-17 ออกมากล่าวถึงมุลเลอร์ เช่นเดียวกันว่า นี่คือนักเตะที่หาได้ยากมากในโลกลูกหนังปัจจุบัน พร้อมกับเป็นนักเตะที่กุนซือส่วนใหญ่อยากมีเอาไว้ภายในทีม เพราะนี่คือคนที่สามารถตอบโจทย์การโจมตีเชิงเทคนิคได้อย่างยอดเยี่ยม 


โดยกล่าวว่ามุลเลอร์ ถือเป็นดาวเตะที่ยอดยอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับทักษะที่แหกคอก ผมมองว่าเขามีความผิดปกติ ... เพราะเราต่างคาดหวังกันว่า กองหน้าชั้นเลิศ ต้องโดดเด่นในแง่ของความเป็นนักกีฬา, เทคนิค และความคิดสร้างสรรค์ ทว่าสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่จุดเด่นของเขาเลย


อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของเขาคือ ความเข้าใจในยุทธวิธี รวมถึงความสามารถในการอ่านเกม พูดง่ายๆก็คือ เขาคือคนที่สามารถพาตัวเอง เข้าไปอยู่ในจุดที่เรียกกันว่า -ถูกที่ และถูกเวลา-“

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})