:::     :::

สูงสุดสู่สามัญ

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2565 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
1,527
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
กลายเป็นประเด็นใหญ่บนหน้าสื่อทั่วโลกเลยสำหรับฟุตบอลทีมชาติอิตาลีที่พ่ายแพ้ให้กับ นอร์ท มาซิโดเนีย ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ ไปหน้าตาเฉย

         นั่นเท่ากับว่าแฟนบอลจะไม่ได้เห็นทัพ "อัซซูรี่" วาดลวดลายในศึกฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเป็นหนที่สองติดต่อกันแล้วหลังจากที่เมื่อปี 2018 ก็ตกรอบไปแล้ว

         ถือเป็นแรกในประวัติศาสตร์ที่แชมป์โลก 4 สมัยไม่ได้ร่วมทัวร์นาเม้นต์สองครั้งติดต่อกัน หลังจากที่เคยพลาดไปเล่นในรอบสุดท้ายย้อนกลับไปเมื่อปี 1958 เลย

         ย้อนกลับไปในเกมที่สตาดิโอ เรนโซ่ บาร์เบร่า ต้องบอกว่าตลอดทั้งเกมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ แทบจะบุกอยู่ข้างเดียวมีโอกาสทำประตูตลอด 90 นาทีมากกว่า 30 ครั้ง แต่กลับส่งบอลเข้ากรอบได้เพียงแค่ 5 หนเท่านั้น


         ในขณะที่ฝั่ง นอร์ท มาซิโดเนีย มีโอกาสแค่ 4 ครั้งเปลี่ยนเป็นเข้ากรอบ 2 หนและได้หนึ่งประตู และที่น่าเจ็บใจก็คือประตูเกิดขึ้นในนาทีที่ 92 แทบไม่มีโอกาสให้แก้ตัวกันเลยทีเดียว

         อย่างที่บอกว่าโอกาส 32 ครั้งของ อิตาลี นั้น แทบจะเป็นการยิงแบบไม่ได้ลุ้นอะไรมากมายนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองว่ามีถึงครึ่งหนึ่งที่เป็นการยิงติดบล็อคคู่แข่ง 

         โอกาสทองของทีมในนาทีที่ 29 จังหวะที่ผู้รักษาประตูของ นอรท์ มาซิโดเนีย จ่ายบอลพลาดไปเข้าเท้า โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ได้ยิงง่ายๆแต่กลับยิงเบาอย่างเหลือเชื่อจน สโตล ดิมิตรีเยฟสกี้ กลับมารับเข้ามือไปได้ซะอย่างนั้น


         ส่วนจังหวะอื่นแม้จะพอเรียกเสียงฮือฮาได้แต่ก็ไม่ได้ลุ้นประตูแบบเน้นๆอะไรมากนัก

         ถึงกระนั้นก็ต้องชื่นชมความมีระเบียบและเล่นอย่างอดทนของ นอร์ท มาซิโดเนีย ซึ่งแม้จะต้องตั้งรับแทบจะตลอดทั้งเกมแต่ด้วยวินัยที่เข้มข้นนั้นทำให้ฝั่ง อิตาลี อึดอัดไปเลย

         แน่นอนว่า บลาโกย่า มิเลฟสกี้ ตระหนักดีอยู่แล้วว่าทีมเป็นรองทุกประตู ดังนั้นทีมต้องมาเน้นเกมรับ แนวรับของทีมได้รับคำสั่งไม่ให้มีการหลุดจากตำแหน่งเลยแม้ในยามที่ทีมจะบุกขึ้นไปก็ตาม


         นั่นทำให้ทีมของ โรแบร์ดต้ มันชินี่ ถึงไม่มีโอกาสแบบจะแจ้งมากนัก แม้จะเปิดเกมบุกทุกทิศทางทั้งริมเส้นสองฝั่ง ตรงกลาง เตะมุม ฟรีคิก ยิงไกล ก็ไม่อาจจะส่งบอลสู่ก้นตาข่ายไปได้

         ประตูชัยที่ได้มาของพวกเขาเป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักในเกมรับ และเล่นอย่างมีวินัยสุดๆ แถมลูกยิงนอกกรอบของ อเล็กซานดาร์ ทรายคอฟสกี้ ก็ต้องบอกว่าให้ยิงอีกร้อยครั้งก็อาจไม่ได้ประตู

         จอร์จินโญ่ ไปหยุดชะงักเพื่อชูมือทำให้เข้าบล็อคไม่ทัน ทำให้ อเล็กซานดาร์ ทรายคอฟสกี้ ได้ยิง และบอลมันก็พุ่งไปอย่างเหมาะเจาะที่เสาประตูชนิดที่ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า พุ่งสุดตัวแล้วแต่ก็ไปไม่ถึง


         ถือเป็นความเจ็บช้ำต่อหน้าต่อตาแฟนบอลในบ้านตัวเอง ทั้งที่เมื่อปีที่แล้วเพิ่งฉลองกันมาหยกๆ เหมือนกับ "From Hero To Zero" อย่างนั้นเลย

         จากที่เป้าหมายผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายพร้อมทั้งก้าวไปคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 5 ด้วยทีมที่ลงตัว กลายเป็นว่าแม้แต่รอบสุดท้ายก็ยังไม่ได้ไป

         แน่นอนว่าคนที่น่าจะเจ็บปวดกว่าใครอาจจะเป็น จอร์จินโญ่ ที่เกมนอกนอกจากประกบช้าแล้ว ในเกมรอบแบ่งกลุ่มก็ทำให้ทีมพลาดแต้มสำคัญไป ทั้งที่ทีมควรจะเป็นแชมป์กลุ่มแต่กลับหล่นมาที่สองด้วยการมีแต้มน้อยกว่า สวิตเซอร์แลนด์ แชมป์กลุ่ม 2 คะแนน


         เหตุผลก็คือทั้งสองนัดที่เจอกับทีมจากแดนนาฬิกาทีมมีโอกาสที่จะคว้าชัยชนะอย่างที่สุดเพราะทั้งสองเกมนั้นทีมได้จุดโทษแต่ว่า จอร์จินโญ่ กลับยิงพลาดทั้งสองเกม ทำให้ผลการแข่งขันจบลงด้วยการเสมอไปอย่างน่าเสียดายมากๆ

         ทั้งหมดทั้งมวลคงโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองเท่านั้นกับการชวดไปเล่นฟุตบอลโลกในปีนี้

         ถึงตอนนี้ก็ "Move On" ไปเริ่มใหม่ที่ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกช่วงกลางปีนี้ก่อนแล้วไปเตรียมตัวป้องกันแชมป์ยูโร 2024 กันไปละกัน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})