ย้อนกลับไปช่วงหน้าร้อนปีที่แล้วแฟนบอล แร็งส์ ออกอาการเดือดดาลสโมสรที่ปล่อยตัว บูลาย เดีย ดาวยิงประจำทีมออกไป แม้ส่วนหนึ่งจะเข้าใจว่ามันคือวัฏจักรของวงการฟุตบอล แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่ทำใจไม่ได้
เรื่องดังกล่าวดันมาเกิดพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือ ดาวิด กียง ที่อยู่กับทีมมานานหลายปีตัดสินใจลงจากตำแหน่ง บอร์ดบริหาร แร็งส์ เลยหันไปหาเทรนเนอร์สัญชาติสเปนอย่าง ออสการ์ การ์เซีย
ถือเป็นช่วงเวลาสร้างทีมใหม่แม้ว่านักเตะส่วนใหญ่จะคงเดิม แต่กรณีเทรนเนอร์ถือว่าต้องเข้าไปปรับเปลี่ยนและนำสิ่งต่างๆ มานำเสนอผู้เล่น
ทุกอย่างดำเนินไปตามแบบแผน กุนซือใหม่ ระบบการเล่นใหม่ และสิ่งเหล่านั้นกำลังจะถูกหลอมรวมช่วงพรีซีซั่น
การฝึกซ้อมเป็นไปตามปกติ แต่มีเด็กวัย 18 ปี (ในตอนนั้น) คนหนึ่งที่เพิ่งกลับมาจากการยืมตัวในลีกเดนมาร์กแสดงผลงานได้เข้าตา ออสการ์ การ์เซีย จนกุนซือชาวสเปนอดไม่ได้ที่จะเข้าไปเจรจาบอร์ดบริหารว่าให้เก็บตัวไว้ใช้งานเพื่อเป็นอะไหล่แนวรุกทีมชุดใหญ่
เด็กคนนั้นคือ อูโก้ เอกีตีเก้ ที่ถูกทีมปล่อยตัวให้ เวจเล่ สโมสรในเดนมาร์กยืมใช้งาน และที่นั่นเหมือนเป็นสถานที่จุดประกายผลงานของแข้งดาวรุ่ง
"อูโก้ กลับมาในช่วงพรีซีซั่นและเป็นกองหน้าลำดับที่ 4 ในรายชื่อของพวกเรา" การ์เซีย ระบุ
"แต่พวกเราเห็นในช่วงพรีซีซั่นว่าเขามีคุณภาพอย่างมากสำหรับการกลายไปเป็นกองหน้าระดับสูง เขามีเทคนิคที่ดีมากๆ เขารวดเร็ว เขาต้องพัฒนาในเรื่องร่างกายเล็กน้อย แต่สำหรับผมเขาเป็นนักเตะที่สามารถเล่นให้สโมสรชั้นนำได้ พวกเราพัฒนาเขา เขาก็ควรรักษาการพัฒนาฝีเท้าต่อไป"
สำหรับ เอกีตีเก้ มันคือก้าวสำคัญที่ได้กลายมาเป็นหนึ่งในนักเตะทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว แต่เชื่อเลยว่าตัวเขาเองก็ยังไม่คิดฝันถึงเส้นทางที่เปิดออกจะกลายมาเป็นเช่นนี้
จากกองหน้าลำดับที่ 4 กลายมาเป็นแกนหลักในตำแหน่งตัวปิดบัญชี ผลงานในสนามเป็นสิ่งชี้วัดได้อย่างดี 9 ประตูกับ 3 แอสซิสต์จากการลงเล่น 21 เกมบนเวทีลีก เอิง ฤดูกาล ก็เพียงพอให้หลายๆ สโมสรหันควับกลับมามอง
โดยเฉพาะ นิวคาสเซิ่ล ที่ตามจีบ ตามตื๊อ ตามล่าลายเซ็นอย่างหนักช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่เป็นทาง เอกีตีเก้ ปฏิเสธเงินก้อนโตเพื่อขออยู่พัฒนาที่แร็งส์ต่อไป
ไม่มีใครทราบว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะหลังจากนั้นหอกวัย 19 ปีได้รับบาดเจ็บจนพลาดลงสนามมานานกว่า 1 เดือน แต่ทางสโมสรพร้อมสนับสนุนการตัดสินใจและเดินหน้าไปด้วยกัน
ตอนนี้ การ์เซีย และแฟนบอล แร็งส์ หวังว่า เอกีตีเก้ จะสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาช่วยทีมในช่วงโค้งสุดท้ายโดยมีภารกิจหนีโซนแดงและการันตีการอยู่รอด (อันดับ 12 เหนือโซนเพลย์ออฟตกชั้น 9 คะแนน)
ไม่ต่างจากตัวกองหน้าวัย 19 ปีที่คาดหวังว่าจะหายจากอาการบาดเจ็บเพื่อกลับมาสานต่อและพัฒนาผลงานของตนเองให้ดียิ่งขึ้น พร้อมต้องการพิสูจน์ว่าตนเองสามารถยกระดับให้สูงกว่านี้ได้
จะว่าไปแล้วหากพิจารณาจากผลงานและรูปแบบการเล่นในช่วงที่ผ่านมา เอกีตีเก้ ถือเป็นกองหน้าที่ครบเครื่องตามแบบฉบับหอกสมัยใหม่ ถึงจะมีรูปร่างที่สูงกว่า 190 เซนติเมตร แต่ทักษะบนพื้นรวมไปถึงการเลี้ยงบอลไม่ได้ด้อยไปกว่ากองหน้าร่างเล็กหรือบรรดาปีกคนอื่นๆ จะมีก็แค่เพียงศักยภาพทางร่างกายที่ต้องพัฒนาให้แกร่งกว่าเดิม แต่ด้วยวัยเพียง 19 ปี เส้นทางแห่งการพัฒนาและการเรียนรู้ยังคงทอดยาวสำหรับเขา
เด็กหนุ่มที่เป็นแฟนบอล แร็งส์ มาตั้งแต่วัยเยาว์ วันหนึ่งกลายมาเป็นนักเตะแกนหลักของสโมสร มันคือการเดินทางที่เหมือนกับความฝัน กระนั้นสิ่งที่สำคัญคือการสร้างผลงานให้กับทีมอันเป็นที่รัก
ในตอนที่เส้นทางแห่งโอกาสเปิดออกมา มันขึ้นอยู่กับคนๆ นั้นว่าจะสามารถคว้ามาครองได้หรือไม่ และหลังจากนั้นคือการสานต่อเพื่อพัฒนาพร้อมพิสูจน์คุณค่าของตัวเอง
กรณีของ อูโก้ เอกีตีเก้ อาจจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่มันคือการออกตัวที่น่าสนใจว่าท้ายที่สุดจะไปจบที่จุดไหน
