:::     :::

ปรีวิวเกมบิ๊กแมตช์: ซิตี้ vs ลิเวอร์พูล พร้อมทรรศนะ​น่าสนใจจากอดีตแข้งดัง

วันเสาร์ที่ 09 เมษายน 2565 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
1,317
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แม้ทั้ง เป๊ป และ คล็อปป์ ต่างจะพยายามออกมาลดความกดดันว่าเกมคืนวันอาทิตย์​นี้จะไม่ใช่เกมตัดสินแชมป์ แต่ลึก ๆ แล้วเชื่อว่าทั้งคู่รู้ดีว่านี่คือเกมที่สำคัญและอาจส่งผลต่อการเข้าวินในบั้นปลายได้เลยทีเดียว

แมนเชสเตอร์​ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ต่างก็ผ่านศึกหนักในถ้วยยุโรปเมื่อกลาง​สัปดาห์​มาด้วยกันทั้งคู่ โดยฟอร์ม 5 นัดหลังสุดจากทุกรายการ ซิตี้ ชนะ 3 เสมอ 2, ส่วนหงส์แดงค่อนข้างร้อนแรงกวาา เพราะชนะรวด 5 นัดติดต่อกัน


สภาพความพร้อม

แมนฯ ซิตี้ มีเพียงแค่ รูเบน ดิอาส เท่านั้นที่ยังบาดเจ็บลงสนามไม่ได้ ส่วนในรายของ เบนจามิน เมนดี้ นั้นติดโทษแบน ขุมกำลังอื่น ๆ อยู่กันครบ ขณะที่ฝั่งทีมเยือนมีข่าวดีเมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์​-อาร์โนลด์ น่าจะฟิตกลับมาลงสนามได้แล้ว ทำให้ในตอนนี้ ลิเวอร์พูล ไม่เจอปัญหา​เรื่องผู้เล่นบาดเจ็บหรือแบนเลย เรียกว่าสามารถมาเยือน เอติฮัด ได้แบบเต็มสูบ 


Key Player ที่น่าจับตามอง

แมนฯ ซิตี้: เควิน เดอ บรอยน์ ยังคงเป็นคนที่รักษามาตรฐาน​ระดับสูงไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นกำลังหลักในแดนกลางคนสำคัญที่ทีมจะขาดไม่ได้เลย โดยสถิติใน​พรีเมียร์​ลีก​ซีซั่นนี้ลงสนามไป 23 นัด ยิงไป 10 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ อีกทั้งผลงาน 6 นัดหลังสุดจากทุกรายการ ดาวเตะชาวเบลเยียมยิงไปถึง 5 ประตูกับ 1 แอสซิสต์เลยทีเดียว




ลิเวอร์พูล: อาจแปลกไปสักหน่อยที่ผมเลือก ติอาโก้ อัลคันทาร่า เป็นคีย์แมนคนสำคัญในเกมนี้ แต่ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าผลงานของกองกลางชาวสเปนในช่วง 2 เดือนหลังสุดมานี้ เขาทำผลงานได้เข้าขั้น "มาสเตอร์พีซ" แทบทุกนัด


ติอาโก้ เป็นตัวคุมเกมที่สำคัญมาก ๆ ของ ลิเวอร์พูล ด้วยสไตล์การเล่นที่แตกต่างจากกองกลางคนอื่น เขาสร้างมิติใหม่ ๆ และมีการเชื่อมเกมที่ทำให้แดนกลางไหลลื่น แม้จะไม่ได้ยิงหรือแอสซิสต์ด้วยตัวเอง แต่การมีอยู่ของ ติอาโก้ จะทำให้เกมตรงกลางของหงส์แดงต่อกรกับ ซิตี้ ได้สูสีมากอย่างแน่นอน




สถิติที่น่าสนใจ


- นี่คือ 2 ทีมของ​พรีเมียร์​ลีกที่ยิงประตูได้มากที่สุดในซีซั่นนี้ โดย ลิเวอร์พูล เป็นอันดับ 1 (77 ประตู)​ ส่วน แมนฯ ซิตี้ อยู่อันดับ 2 (70 ประตู)


- ซิตี้ มีเกมรับที่เหนียวแน่นกว่า ผ่านมา 30 นัดเสียไปแค่ 18 ประตู ส่วนหงส์แดงเสียไป 20 จากจำนวนนัดที่เท่ากัน


- ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ มีอัตราการได้จุดโทษใกล้เคียงกัน โดยหงส์แดงได้ไปแล้ว 8 ส่วนเรือใบสีฟ้าได้ไป 7 ครั้ง


- ความสูสีอีกข้อก็คือ ทั้งสองทีมสามารถรักษาคลีนชีตได้เท่ากันคือ 18 นัด มากที่สุดในลีก โดยมี อาร์เซน่อล ตามมาไกล ๆ ที่ 13 นัด


- เซตพีซคือทีเด็ดของทั้งสองทีม เพราะว่า ลิเวอร์พูล นั้นในซีซั่นนี้ได้ประตูจากลูกเซตพีซถึง 14 ครั้ง ส่วนฝั่ง ซิตี้ ใกล้เคียงมากนั่นคือ 13 ครั้ง


คาดการณ์ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม


ทรรศนะ​จากนักฟุตบอลดังถึงเกมนี้


- นีล เมลเลอร์ อดีตนักเตะของ ลิเวอร์พูล ปี 2002-06

"ผมคิดว่าเกมนี้จะตัดสินกันในพื้นที่สุดท้ายว่าใครคมกว่า หรือใครจะฺผิดพลาดมากกว่า โดยปัญหาเดียวของ คล็อปป์ ที่ต้องตัดสินใจคือ เขาจะส่ง 3 ตัวรุกคนไหนลงสนาม เพราะนี่อาจเป็นจุดชี้วัดผลแพ้ชนะได้เลย"


- แดนนี่ เมอร์ฟี่ อดีตกองกลาง ลิเวอร์พูล

"แมนฯ ซิตี้ ได้เปรียบมากกว่าเพราะเล่นในบ้าน แต่เราต้องยอมรับว่าผลงานของ ลิเวอร์พูล เองในช่วงหลังมานี้มีความสม่ำเสมอมากกว่า"


"ผมเลืิอกไม่ได้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ผลเสมอจะทำให้การแข่งขันเข้มข้นต่อไป แต่หากมีผลแพ้ชนะขึ้นมา โมเมนตัมจะเอียงไปทางฝั่งที่ชนะค่อนข้างเยอะเลย"


- กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ อดีตนักเตะของ วิลล่า

"ผมคิดว่าคนสำคัญในเกมนี้คือ ไคล์ วอล์คเกอร์ หากเขาลงตัวจริงเขาจะเป็นคนที่สามารถหยุดยั้งเกมริมเส้นของ ลิเวอร์พูล ได้อย่างแน่นอน ผมขอถือหางฝั่ง ซิตี้ ว่ามีโอกาสชนะในเกมนี้มากกว่า"


- เวย์น รูนี่ย์ อดีตนักเตะของ แมนฯ ยู​ไนเต็ด

"เกมนี้สำคัญและมีผลต่อการลุ้นแชมป์ และด้วยความสัตย์จริง ผมคิดว่า ลิเวอร์พูล กำลังฟอร์มดีกว่า พวกเขาจะบุกไปคว้าชัยชนะที่เอติฮัดและแซงนำเป็นจ่าฝูงได้"



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด