:::     :::

เล่าเรื่องคล็อปป์

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2565 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
899
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สำหรับเจอร์เก้น คล็อปป์

นี่คือกุนซือที่แฟนบอลลิเวอร์พูล หลงรักเป็นอย่างมาก เพราะนี่คือคนที่เข้ามาแปลงโฉมทีมให้กลายบเป็นเครื่องจักรสีแดงอีกหนึ่งครั้ง ผ่านการคว้าแชมป์รายการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก, ลีก คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และสโมสรโลก 


แน่นอนว่า กว่าที่คล็อปป์ จะเดินทางมาถึงจุดนี้ เขาต้องเพาะบ่มฝีมือกับสโมสรที่บ้านเกิดอย่างประเทศเยอรมัน ซึ่งทีมที่สร้างชื่อให้เขาเป็นอยางมาก นั้่นคือการกุมบังเหียนโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ระหว่างปี 2008-2015 


ช่วงนี้ อดีตลูกศิษย์ของเขาที่พลพรรคเสือเหลืองอย่างโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ จะมาบอกเล่าถึงตัวตนของผู้จัดการทีมวัย 54 ปีรายนี้ บอกเลยว่า มันเต็มไปด้วยเรื่องราว และแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปฟังเรื่องเล่าจากปากของเลวานดอฟสกี้ กันเลย 

เขาเป็นทั้งพ่อ และคุณครู


โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ บรรยายความรู้สึกที่มีต่อเจอร์เ้น คล็อปป์ กุนซือที่เรียกได้ว่า เคียงบ่าเคียงไหล่กันที่สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยถือว่าเป็นบุคคลสำคัญ ที่สั่งสอนอะไรหลายอย่าง ทั้งในเส้นทางลูกหนัง และชีวิตส่วนตัว


เขาไม่ได้เป็นกับเหมือนพ่อของผมเท่านั้น แต่เขายังสวมบทครูจอมโหดของผมอีกด้วย ผมมอบคำนิยามนี้ ในแง่มุมที่ดีที่สุดเลวานดอฟสกี้ กล่าวต่อ


ผมขออธิบายหน่อย ลองย้อนกลับไปสมัยที่คุณยังเป็นเด็กนักเรียน ครูแบบไหนที่คุณจดจำได้มากที่สุด ? ไม่ใช่ครูที่คอยทำให้ชีวิตของคุณง่าย และไม่ใช่ครูที่ไม่คาดหวังอะไรจากตัวคุณ ไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย


คุณจะจดจำครูจอมโหด ที่คอยมาเข้มงวดกับคุณ พร้อมกับกดดันไล่บี้คุณอย่างหนัก เพื่อเป็นการงัดเอาสิ่งที่ดีที่สุดของคุณออกมา !!! นี่คือครูที่ทำให้คุณกลายเป็นคนที่ดีขึ้น ถูกมั้ยล่ะ ? ... เขาเป็นแบบนั้นเลย


เขาจะไม่พอใจหรอก หากคุณทำคะแนนแค่ 8 เท่านั้น เพราะเขาต้องการให้นักเรียนของเขาได้คะแนนเต็ม 10 เขาไม่ได้ทำสิ่งนั้น เพื่อตัวเขาเอง แต่เขาทำแบบนั้น เพื่อตัวของคุณ

เลวานดอฟสกี้ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า พ่อคนที่สองคนนี้ คอยแนะนำหลายอย่าง ที่จำเป็นในการเล่นฟุตบอล พร้อมกับคอยยกระดับให้กลายเป็นนักเตะที่มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น


เขาสอนอะไรผมมากมายเลย ตอนที่ผมย้ายไปร่วมทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ผมชอบทำอะไรให้รวดเร็วที่สุด อาทิ การจ่ายบอลแรงๆ และเล่นบอลแบบจังหวะเดียว


เขาคอยสอนให้ผมกลายเป็นคนที่ใจเย็นมากขึ้น อาทิ การลองเล่นบอลแบบ 2 จังหวะดูบ้าง หากเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็น โดยสิ่งเหล่านั้น ขัดกับธรรมชาติของผมโดยสิ้นเชิง แต่ในไม่ช้า ผมเริ่มผลิตสกอร์ได้มากขึ้น


เลวานดอฟสกี้ ทิ้งท้ายเรื่องราวที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้ว่า ผู้จัดการทีมคนนี้ไม่ได้มองเด็กในทีมเป็นแค่นักฟุตบอล แต่มองเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่ต้องการความเข้าอกเข้าใจ


เขาไม่เคยลืมว่า เราเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง จากนั้น ค่อยมองเราในฐานะของนักฟุตบอล ผมจำได้เสมอว่า ครั้งหนึ่ง เราอยู่ในห้องแต่งตัว หลังจากวันหยุดสุดสัปดาห์


คุณรู้อะไรมั้ย เคล็ดลับสุดคลาสสิกของเรา เมื่อนักเตะไปดื่มเหล้ากันมา เราชอบกินกระเทียมในตอนเช้า เพื่อเป็นการดับกลิ่นแอลกอฮอล์ เขาก็จะเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว ก่อนที่การซ้อมประจำวันจะเริ่มต้นขึ้น จากนั้น เขาก็เริ่มดมกลิ่น !!”

เขาเหมือนกับสุนัขล่าสัตว์เลยล่ะ ดม, ดม, ดม และก็ดมไปทั่วห้องเลยล่ะ ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็พูดขึ้นมาว่า -ฉันได้กลิ่น อะไรสักอย่าง มันคือกระเทียมใช่มั้ย ?-“


แน่นอนว่า เขารู้ว่ามันคืออะไร และเราทุกคนก็คิดว่าเขารู้อยู่แล้ว แต่เขากลับทิ้งคำถามเอาไว้ในอากาศ พร้อมกับเดินจากไป แบบไม่พูดอะไรสักคำ


บรรยากาศเงียบไปสักครู่หนึ่งเลย จากนั้น นักเตะต่างมองหน้ากัน และระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ฮ่า ฮ่า ฮ่า เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าพยายามไปหลอกเขาเลย เพราะชายคนนี้โคตรจะฉลาด !!”


เลวานดอฟสกี้ ทิ้งท้ายถึงเจอร์เก้น คล็อปป์

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด