ปฏิบัติการคว้า 4 แชมป์ของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มาถึงครึ่งทางแล้วนะครับ คือการซิว ลีก คัพ กับ เอฟเอ คัพ ต่อไปก็ถึงคิวของ พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
คืนวันเสาร์น้าแมวปักหลักอยู่ที่สยามกีฬา Live ซอคเกอร์ ปาร์ตี้ ขยี้บอลสดกับ ตังกุย และ คุณเชอร์รี่ 3 โคก
ตังกุย เป็นตัวแทนทางฝั่งกองเชียร์ ลิเวอร์พูล ส่วนน้องเชอร์รี่เป็นตัวแทนของทางฝั่ง เชลซี โดยมี น้าแมว ทำหน้าที่เป็นคนกลาง
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ! ยอมรับครับว่าคนกลางเชียร์ เชลซี เพราะอยากจะให้แบ่งๆถ้วยกันไป
คู่นี้เจอกันใน คาราบาว คัพ มาทีหนึ่งแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ อย่างที่ทราบกัน หงส์แดง เข้าวินด้วยการดวลจุดโทษที่สกอร์ 11-10
มาคราวนี้ก็ดวลจุดโทษอีก และก็เป็นลูกน้องของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ชนะไปอีกที่สกอร์ 6-5
ต้องยอมรับครับว่าการชิง 2 ถ้วยของทั้งคู่ จัดว่าเป็นเกมคุณภาพสูง ก็ถือว่าเป็น 0-0 ที่ไม่น่าเบื่อทั้ง 2 นัด โดยเฉพาะในถ้วย ลีก คัพ ที่มันส์มาก
ลิเวอร์พูล กับ เชลซี เจอกันในฤดูกาลนี้ 4 ครั้งปรากฏว่าออกเสมอทั้ง 4 ครั้งเลยนะครับ (นับเฉพาะ 90 นาที) ตรงนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นบอลที่ทันกันมากขนาดไหน
นี่เป็นถ้วยที่ ลิเวอร์พูล ไม่ได้มานานแล้ว พวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ครั้งสุดท้ายต้องย้อนไปปี 2006 นู่นเลย ได้คราวนี้ก็จัดว่าเป็นสมัยที่ 8 เทียบกับเท่า เชลซี และ สเปอร์ส แล้วนะครับ
โดย อาร์เซน่อล ถือว่าเป็นเจ้าพ่อบอลถ้วย เอฟเอ คัพ เนื่องจากคว้าแชมป์ไป 14 ครั้ง ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ไป 12 ครั้งด้วยกัน
เจอร์เก้นคล็อปป์ ก็ได้แชมป์ "ครบ" ทุกถ้วยซะทีนะครับ เขาเป็นคนที่ 2 ที่พาทีมประเทศอังกฤษคว้าแชมป์ทั้ง พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ ครบครัน
คนแรกที่ทำได้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือผู้ยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นเอง
ตอนดวลจุดโทษไปเตะกันหน้ากองเชียร์ เชลซี และ เชลซี ยังได้ยิงก่อน น้าแมวว่า สิงโตน้ำเงินคราม ได้เปรียบ 2 เด้งเลยนะนั่น
แต่นี่แหละครับ ! ลิเวอร์พูล ทำได้แน่นอนกว่า มีแค่ ซาดิโอ มาเน่ ที่พลาดไปคนเดียว ส่วน เชลซี เป็น เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กับ เมสัน เมาน์ต ที่ยิงไม่เข้า
เชลซี เลยสร้างสถิติที่ไม่อยากสร้างขึ้นมา 1 อย่างและน้าแมวว่าเป็นสถิติที่ทำลายยากมากๆนะ นั่นก็คือการแพ้ในเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ 3 ปีติดต่อกัน
พวกเขาแพ้ อาร์เซน่อล 1-2 เมื่อปี 2020 ตามด้วยการแพ้ เลสเตอร์ ปี 2021 และ แพ้ ลิเวอร์พูล ในปีนี้
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็เคยแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ 3 ครั้งรวดเช่นกันแต่เป็นการกระโดดข้ามปีคือ 1974, 1998 และ 1999 นะครับ ของ เชลซี ยากกว่าเยอะ
ทีนี้เราก็จะพูดกันถึงเรื่อง 4 แชมป์กัน ซึ่งน้าแมวมองว่าการชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เรอัล มาดริด ในวันเสาร์ที่ 28 เดือนนี้เป็น หงส์แดง ที่ได้เปรียบ 60-40 นะ
ปิด คาริม เบนเซม่า ให้อยู่ก็หวานเจี๊ยบ เพราะน้าแมวเชื่อว่าเกมรับของ ราชันชุดขาว เอาเกมรุก ลิเวอร์พูล ไม่อยู่แน่
ส่วนในพรีเมียร์ลีกจัดว่า "ยากมาก" ครับ !!
แฟนๆ SS ทราบผลการแข่งขันคู่ เวสต์แฮม vs แมนฯซิตี้ เมื่อวันอาทิตย์ไปแล้ว ถ้า เรือใบสีฟ้า เข้าวินได้ น้าแมวว่าจบข่าวอย่างไม่เป็นทางการนะครับ
เพราะก่อนแข่งนัดที่ 37 แมนฯซิตี้ นำ ลิเวอร์พูล 3 แต้มประตูได้เสียดีกว่า 7 ลูก ถ้าลูกน้อง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ชนะที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม ก็เท่ากับว่าจะทิ้ง 6 แต้มและประตูได้เสียที่ไม่น้อยกว่า 8 ลูก
ถ้าเป็นอย่างนั้น ลิเวอร์พูล จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกเพื่อกรุยทางสู่ "4 แชมป์" ได้ พวกเขาจะต้องชนะ 2 นัดทีเหลือคือ เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน) และ วูล์ฟส์ (เหย้า)
และต้องลุ้นให้ แมนฯซิตี้ แพ้ แอสตัน วิลล่า ที่ เอติฮัต สเตเดี้ยม ด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ "ประตูได้-เสีย" จะต้องสวิงกันจน ลิเวอร์พูล กลับมาชนะตรงนี้อีกด้วย ซึ่งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
คอมพิวเตอร์ให้โอกาสที่จะคว้า 4 แชมป์ของ ลิเวอร์พูล อยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์ครับ
"แมวเพชร"