:::     :::

"แข้งนอก"จิ๊กซอว์เติมสิ่งที่ขาดของ "ช้างศึกU23"

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม 2565 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
865
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังจากผิดหวังพลาดเหรียญทองในซีเกมส์บนแผ่นดินเวียดนาม ทำให้ "ช้างศึกพลังหนุ่ม" ต้องกลับมาโฟกัสภารกิจใหญ่ที่อุซเบกิสถาน กับทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย อย่างจริงจัง

เพราะนี่คือรายการใหญ่ระดับเอเชีย ที่สำคัญทีมชาติไทย ดันถูกจับมาอยู่ในกลุ่มที่มี 2 เพื่อนบ้านอย่าง เวียดนาม และ มาเลเซีย

ซึ่งในช่วงหลังเรามักแพ้ทาง ไม่ค่อยชนะด้วย ยิ่งทำให้ความกดดันถาโถมจากแฟนบอลพุ่งใส่มากกว่าเดิม แถมความล้มเหลวในซีเกมส์ยังทำให้นักเตะต้องกู้ศรัทธาคืนมาให้ได้ 


ส่วน เกาหลีใต้ นั้นอยู่คนละเกรดกับเราไปแล้ว ดังนั้นการเจอขุนพลดาวทอง และแข้งเสือเหลือง เราต้องชนะให้ได้สถานเดียว เพื่อคว้าตำแหน่งอันดับสองที่ดีที่สุด และผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ให้ได้ 

ล่าสุด “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ที่หวนกลับมานั่งเก้าอี้กุนซือทัพ “ช้างศึกU23” อีกครั้ง ได้ประกาศรายชื่อ 30 นักเตะ ก่อนจะหั่นตัวผู้เล่นเพื่อเดินทางไปแข่งขันจริง ซึ่งจะไปเอา อุซเบกิสถาน กี่คนต้องรอยืนยันอีกครั้ง 


โดยผู้เล่นส่วนใหญ่ในโผถูกยกมาจากชุดซีเกมส์ ถึง 12 คน ไม่ว่าจะเป็น ศุภณัฐ ทรวดทรง ผู้รักษาประตู 

แนวรับอย่าง โจนาธาร เข็มดี, ชนภัช บัวพันธุ์ และ นาคิน วิเศษชาติ ส่วนกองกลางก็มี อิรฟาน ดอเลาะ,จักรกริช พาละพล, เอกนิษฐ์ ปัญญา,เบนจามิน เจมส์ เดวิส และ ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช ที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว จนได้รับเสียงชื่นชมจากทุกสารทิศ 

ด้านกองหน้านำทัพมาโดย กรวิชญ์ ทะสา,ธีรศักดิ์ เผยพิมาย และ พาตริก กุสตาฟส์สัน ดาวซัลโวสูงของทีมชาติไทย ในซีเกมส์ 

เมื่อผนึกกำลังกับตัวหลักๆ ที่ตบเท้ามีชื่ออย่างพร้อมเพรียง ทั้ง กฤษดา กาแมน, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, ทรงชัย ทองฉ่ำ,ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร,ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, อชิตพล คีรีรมย์ และ สิทธิโชค ภาโส ยิ่งทำให้ทีมชุดนี้ดูมีความหวังมากยิ่งขึ้น


นอกจากนี้ยังเซอร์ไพรส์มีแข้งลูกครึ่งติดทัพมาด้วยทั้ง นิโคลัส มิเคลสัน จาก โอบี โอเดนเซ่ ในเดนมาร์ก, ยานนิค นาสส์บอม จาก ยัง บอย ในลีกสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทั้งคู่เล่นในตำแหน่งวิงแบ็ค 

ขณะที่แนวรุกมี มาร์เซล ซีกฮาร์ท เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้แนวรุกมีความหลากหลายกว่าเดิม 

ซึ่งทั้ง 3 คนน่าจะตอบโจทย์ทีมได้ไม่น้อย โดยเฉพาะจุดอ่อนทางริมเส้นซ้ายและขวา ที่มีตัวเลือกค่อนข้างจำกัด

ที่สำคัญ “แพสชั่น” ความเป็นนักสู้ รวมถึงความกระหายในชัยชนะและคลาสบอลย่อมทำให้กุนซือได้ประโยชน์มหาศาล 

ซึ่ง โจนาธาร เข็มดี, เบน เดวิส, ชยพิพัฒน์ หรือ ธนวัฒน์ เอง ได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้ว


หากนักเตะไทยแท้ ที่เล่นอยู่ในประกาศยังเฉื่อยชา ไม่เร่งพัฒนาฝีเท้าตัวเอง และไม่สร้างแรงกระหายออกมา ย่อมมีโอกาสหลุดจากทีมชาติ และอาจทำให้อนาคตในทีมชาติดับวูบลงไปด้วย 

เมื่อดูภาพรวมทุกมิติ บางทีนักเตะลูกครึ่งเหล่านี้อาจเป็นจิ๊กซอว์สำคัญพาทีมบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในศึกครั้งนี้ก็ได้ ดังนั้นอย่าเพิ่งด้อยค่าและให้โอกาสพวกเขาพิสูจน์ฝีเท้าก่อน

เชื่อว่าฟุตบอลไทย จะได้ประโยชน์” มากกว่า “โทษ” จากแข้งลูกครึ่งแน่นอน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})