หลังก่อนหน้านี้เคยถูกส่งมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับ ทีมซากุระแห่งคันไซ ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และมีโอกาสได้ลงปล่อยของประปราย

แต่หนนี้ที่ ๆ "อินซ์" จะไปไม่ใช่ทีมชุด U-23 ทว่าเป็นทีมชุดใหญ่อย่างทางการ

มองในแง่ขวบวัย "อินซ์" มีการเติบโตขึ้นทั้งทางร่างกาย และฟอร์มการเล่นที่แจ่มวาวหลังกลับจากญี่ปุ่น ถีบตัวเองขึ้นมาเป็นแกนหลัก บีจี ปทุมฯ อย่างสง่าผ่าเผย

ทำให้การกลับมายัง โอซากา รอบ 2 หนนี้ หลายฝ่ายคาดหวังว่าอาจได้เห็น "อินซ์" วาดลวดลายบนสนามในนามทีมชุดใหญ่เสียที

การบ้านฉบับเร่งด่วนของ "อินซ์" คือการปรับตัวเข้ากับทีมให้ไวที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สปีดบอล ความฟิต สภาพอากาศ หรือแม้แต่เรื่องระบบการหายใจ สิ่งเหล่านี้คือเบสิคพื้นฐานที่ต้องผ่านไปให้ได้ด่านแรก

ด่านต่อมาคือการโชว์ฝีตีนเอาชนะใจ อากิโอะ โคงิกุ เฮดโค้ชทีมให้ได้

ที่ต้องใช้คำว่า "ชนะใจ" อากิโอะ ให้ได้ นั่นเพราะว่า เฮดโค้ชวัย 46 รายนี้ มีคู่มิดฟิลด์ในใจตัวเองอยู่แล้ว นั่นคือ  ริกิ ฮาราคาวะ กับ ฮิโรอากิ โอกุโนะ

ตลอด 17 เกมบนเวที "เจลีก" อากิโอะ ใช้ ริกิ ยืนคู่กับ โอกุโนะ เป็นตัวจริงถึง 16 เกม มีเพียงเกมที่บุกไปแพ้ นาโงยา แกรมปัส 0-1 ที่ ริกิ ได้รับบาดเจ็บไม่มีชื่อ เป็น โทคุมะ ซูซูกิ ที่ลงเล่นแทน

ซึ่งหากไม่บาดเจ็บ หรือ ติดโทษแบน คู่มิดฟิลด์ของ เซเรโซ โอซากา ก็ยังคงเป็น 2 คนนี้เช่นเดิม แทบไม่มีการ "โรเตชั่น"

ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า  ริกิ และ โอกุโนะ ทำผลงานได้ดี ฟอร์มการเล่นสม่ำเสมอ ทั้งคู่เล่นกันได้อย่างรู้ใจ

ริกิ เปรียบเสมือนแม่ทัพบัญชาเกมในแดนกลาง แม้ฟอร์มการเล่นไม่หวือหวา แต่เป็นกลางที่ทีมขาดไม่ได้ เล่นบอลง่าย และมีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะ ฤดูกาลนี้ทำไปแล้ว 3 แอสซิสต์

ขณะที่ โอกุโนะ มิดฟิลด์วัย 32 คนโอซากาแท้ แต่ไปเติบโตบนเวทีลูกหนังกับ เวกัลตา เซ็นได ก่อนกลับมาบ้านเกิดปี 2019 เป็นกองกลางสไตล์เล่นบอลง่าย ๆ แม้สูงแค่ 171 ซม. แต่ลูกกลางอากาศเด่น ฤดูกาลนี้ทำไปแล้ว 3 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์

นอกจากนี้เมื่อมองไปยังม้านั่งสำรองที่สโมสรส่งชื่อแต่ละเกม ตำแหน่งมิดฟิลด์พบแค่ โทคุมะ ซูซูกิ เป็นตัวสำรองเพียงคนเดียว กองกลางวัย 25 คือ "อะไหล่" ที่คอยมาสลับลงสนามกับคู่ตัวจริงอย่าง ริกิ และ โอกุโนะ แม้จะได้ลงเล่นไปมากถึง 8 เกม แต่เวลาอยู่ในสนามรวมกันทั้ง 8 เกมแค่ 118 นาทีเท่านั้น

อีกคนคือ โคเซย์ โอกาซาวา เด็กปั้นสโมสรวัย 18 ปี ที่แม้มีชื่อลงเล่นในบอลถ้วย แต่บอลลีกได้โอกาสอยู่บนม้านั่งสำรองเพียง 4 นัด และไม่เคยลงเล่นสักนาที

จริงอยู่ "คู่แข่ง" เชาว์วัฒน์ กองกลางอาจมีไม่มาก แต่โอกาสสอดแทรกลงสนามในตำแหน่งมิดฟิลด์เรียกว่า "ยากเอาการ" เพราะ อากิโอะ เลือกใช้ 2 ทหารคู่ใจที่เขามีคู่มือใช้งานเป็นหลัก โดยมี โทคุมะ เป็นตัวเลือกแรกบนม้านั่งสำรอง

นั่นทำให้ผู้เขียนถึงบอกว่า นอกจากการ "ปรับตัว" เข้ากับทีมให้ได้แล้ว สิ่งสำคัญสุดคือรีดฟอร์มเก่งของตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด หากต้องการลงสนาม

พิสูจน์ตัวเอง เอาชนะใจโค้ชให้ได้ หรืออย่างน้อยก็พาตัวเองเป็น "ตัวเลือก" บนมานั่งสำรองให้ได้ก่อน

ที่เหลือให้คนเป็นกุนซือตัดสินใจจาก "ฝีเท้า" เอา

ภาพ : Twitter / Cerezo Osaka