:::     :::

วินาทีแห่งความภาคภูมิใจ

วันพฤหัสบดีที่ 07 กรกฎาคม 2565 คอลัมน์ ฟุตบอลข้างถนน โดย โกสุ่ย
974
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หนุ่มใหญ่วัย 55 ปีกับช่วงเวลาสำคัญในเส้นทางเทรนเนอร์ฟุตบอลของตนเอง

คริสโตฟ กัลติเย่ร์ เปิดตัวเป็นกุนซือคนใหม่ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา หลังมีรายงานต่อเนื่องว่าเบื้องบนสโมสรจิ้มไปที่เทรนเนอร์รายนี้

การเจรจาระหว่าง เปแอสเช กับ นีซ ผ่านพ้นไปด้วยดีในส่วนของค่าชดเชย และหลังจากนั้นได้เข้าสู่ขั้นตอนหารือกับทางเทรนเนอร์

ทุกอย่างดำเนินการไปตามที่หลายฝ่ายต้องการ แม้จะใช้เวลาพอสมควรแต่ท้ายที่สุด กัลติเย่ร์ จะเข้ามทำหน้าที่กุนซือคนใหม่ในรั้ว ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ด้วยสัญญาเบื้องต้น 2 ปี

การทำงานต่อจากนี้จะถูกจับตามองทุกฝีก้าว เพราะขึ้นชื่อทีมอย่าง เปแอสเช ที่เต็มไปด้วยสตาร์ดัง ผลการแข่งขันที่ผิดพลาดเล็กน้อยอาจจะนำมาซึ่งเรื่องราวใหญ่โต

นั่นคือสิ่งที่กุนซือวัย 55 ปีรับทราบเป็นอย่างดีถึงโอกาสที่ตนเองจะโดนแรงกระแทกรอบด้าน แต่เมื่อโอกาสทองมากองอยู่ตรงหน้าการปฏิเสธคงไม่ใช่เรื่องดี มีแต่ต้องลองดูกันสักตั้งว่าจะไปได้ไกลเพียงใด 





โค้ช คุณคือนายใหญ่คนใหม่ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง บอกถึงความรู้สึกแรกหลังจากได้รับการแต่งตั้งให้ทราบหน่อย?

"ก่อนอื่นเลย เมื่อคุณกลายมาเป็นโค้ชปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง คุณก็ได้กลายมาเป็นโค้ชให้กับทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกทีมหนึ่ง ด้วยการปรากฏสู่สายตาชาวโลก ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เมืองหลวง ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง และสีสันที่สวยงาม แน่นนอนว่าจะมีแรงกดดันมากมาย แต่ก็เป็นสิ่งที่ผมรับรู้ถึงความเป็นไป แน่นอนว่ามีทั้งในเรื่องความภูมิใจและความรู้สึกในตอนที่ผมมาที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เพราะผมรู้จักโค้ชหลายคนที่เคยทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้มาก่อนผม มีเรื่องของความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ พวกเรามีเงื่อนไขในการคว้าผลการแข่งขัน ไม่ใช่ในส่วนการเอาชนะเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคุณภาพนักเตะและภาพลักษณ์ของพวกเรา นั่นคือสิ่งที่ผมจะโฟกัสไปยังการทำงานของตนเองร่วมกับนักเตะ ทีมงานฝ่ายเทคนิก และทีมแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเราจะไม่ได้มีแค่ฤดูกาลที่น่าพึงใจ แต่เป็นฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่"



ความประทับใจแรกที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ในฐานะโค้ชปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง คืออะไร?

"มันเป็นสนามที่พิเศษ ผมโชคดีพอที่ได้เดินออกไปในสนามและเห็นสนามที่ว่างเปล่า มันยิ่งใหญ่ สนามที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ บรรยากาศยิ่งใหญ่มากขึ้นเมื่อผ่านไปแต่ละฤดูกาล และแน่นอนว่าความคาดหวังที่เพิ่มมากขึ้นในส่วนของเป้าหมายของสโมสร แต่ผมมีความสุขมากๆ ผมจะมีความสุขกับช่วงเวลาสั่งการลูกทีมบริเวณข้างสนาม มันเป็นหนึ่งในสนามที่ทำให้คุณประทับใจมากที่สุด ทั้งในแง่ของความสวยงามและชื่อของมัน ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ พวกเรามีเจ้าชายในสนามหรือไม่? เหนือทั้งหมดทั้งมวล ผมหวังว่าพวกเราจะมีนักเตะที่มีคุณภาพสูงอย่างมากเพื่อมีส่วนร่วมให้แผนงานสำเร็จตามยินามใหม่ของเจ้าของสโมสร ผมประทับใจและภูมิใจอย่างมากที่ได้อยู่ภายในสนามแห่งนี้"



คุณจะทำอย่างไรในการผสมผสานผลงาน, ความสนุกสนาน, การติดต่อสื่อสารและเจ้าหน้าที่ของสโมสร?

"ทุกๆ อย่างเชื่อมต่อกัน อย่างแรกเลยคือการมีส่วนร่วมรับผิดชอบ ผมต้องแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างร่วมกับทีมงานฝ่ายเทคนิกและทีมแพทย์ของผม แต่ยังมีในส่วนความร่วมมือของนักเตะเช่นเดียวกัน อาจจะมีสิ่งที่ไม่สามารถประนีประนอมในสิ่งที่ไม่เป็นไปตามกฎการดำเนินชีวิตของคุณ แต่ในส่วนที่ทีมต้องเป็นและในส่วนพฤติกรรมบุคคลของนักเตะ บรรดานักเตะต้องมีแนวคิดในทิศทางที่เต็มไปด้วยสปริตที่มีต่อทีม ต่อผู้เล่น ดังนั้นทีมแข็งแกร่งกว่าเดิมด้วยกระบวนการจัดการบุคคลของพวกเรา ถ้าทีมแข็งแกร่ง พวกเราก็มีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น ในตอนที่คุณมีพรสวรรค์และความมุ่งมั่น ความต้องการ ความร่วมมือ ความสามารถส่วนบุคคลก็จะออกมาโดยอัตโนมัติ นั่นเป็นในตอนที่พวกเรามีเกมที่น่าดูชม ในเรื่องของการสื่อสาร ยังมีในส่วนของความสัมพันธ์ ผมจะปรับตัวให้กับทีมและนักเตะที่ผมมี แต่ก็มีในส่วนที่ผมต้องการซึมซับไปยังนักเตะทั้งในเรื่องความเข้มงวดและความเป็นมืออาชีพเพื่อให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง คว้าชัยมาครองได้"





คุณมีประสบการณ์ในเวที ลีก เอิง อย่างมาก แต่ไม่มากเท่าไหร่ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งยังคงเป็นข้อสงสัยจากบางส่วน ... 

"ใช่ ผมมีประสบการณ์ในลีกเยอะมากและจะทำให้ผมปรับตัวได้เร็วกับลีกที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี ผมรู้จักนักเตะในทีมเกือบทั้งหมด เพราะพวกเรามีการพบปะกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หากพวกเราคว้าแชมป์ในช่วงท้ายซีซั่นมาครองก็ไม่มีใครสมควรถูกลืมเลือน พวกเราจะเป็นทีมเดียวที่ได้แชมป์ลีก 11 สมัย ยังมีในส่วน โตรเฟ่ เดส์ ช็องปียงส์ และ กูป เดอ ฟร้องซ์ (เฟร้นช์ คัพ) ซึ่งเป็นรายการที่สำคัญอย่างมาก หลังจากนั้นก็จะมี แชมเปี้ยนส์ ลีก และผมเข้าใจถึงความพิเศษในรายการนี้ ประสบการณ์แรกในรายการนั้นของผมคือการเป็นผู้ช่วยโค้ช จากนั้นหัวหน้าโค้ชที่ลีลล์ พร้อมกับโปรแกรมที่ยากลำบาก แต่ผมได้เรียนรู้มากมาย ผมกำลังจะมีนักเตะระดับโลกให้ใช้งาน และทุกๆ คนจะมุ่งมั่น ก่อนอื่นเลย มาทำให้เกมลีกในประเทศออกมาดีและสนุกน่าดูชม หลังจากนั้นจะมีแชมเปี้ยนส์ ลีก ในตอนที่คุณเริ่มต้นฤดูกาล มี 4-5 สโมสรที่มีศักยภาพในการคว้าแชมป์ ในท้ายที่สุด มีเพียงหนึ่งเดียว และฤดูกาลที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่บ้าคลั่งมากๆ คุณไม่ได้คว้าแชมป์เพราะแค่ชื่อ คุณพูดไม่ได้หรอกว่า 'พวกเราจะคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก' มันเป็นงานที่ต้องลงมือทำเยอะมากๆ พร้อมความต้องการที่มากมาย มันเป็นความต้องการที่ยอดเยี่ยมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทั้งสโมสร แฟนบอล และนักเตะ แต่ยังรวมไปถึงในส่วนของโชคที่ต้องเข้าทางในหลายๆ ครั้ง คุณจะทำให้อย่างไรให้มีโชคเหล่านี้? พวกเราพยายามควบคุมตัวแปรต่างๆ รอบๆ ทีม และมาอยู่ในสภาพที่ดีพร้อม แต่พวกเราต้องยอมรับว่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการคว้าแชมป์ และด้วยภาพที่บ้าคลั่งและน่าเหลือเชื่อทำให้ไม่มีใครสามารถนึกภาพออกมาได้"



คุณจะรับมืออย่างไรกับความจริงในตอนนี้ที่ว่าคุณอยู่กับทีมที่ยามลงสนามต้องเจอคู่แข่งที่เน้นตั้งรับ?

"มันเป็นเรื่องใหม่ที่ผมจะเรียนรู้โดยเร็ว แต่ผมกำลังมีแผนการสำหรับช่วงไม่กี่สัปดาห์ พวกเราจะปรับตัวในส่วนแผนการเล่นของพวกเราให้เข้ากับทีมโดยอัตโนมัติ และนั่นจะเป็นในส่วนการจัดการของผม ไปยังนักเตะที่มีพรสวรรค์ซึ่งจะทำหน้าที่สร้างทีม พวกเราจะไม่สามารถเล่น และผมไม่สามารถให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ลงเล่นในแบบเดียวกับที่ผมทำสำเร็จกับทีมอื่นๆ ในอดีตที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ นีซ แต่รวมไปถึง ลีลล์ และ แซงต์-เอเตียน อย่างไรก็ตาม ขอบคุณประสบการณ์เหล่านั้น ผมรู้ถึงการเตรียมตัวสำหรับดวล ปารีส และผมจะต้องมองหาสิ่งสำคัญอื่นๆ มากว่าตอนที่ผมอยู่กับฝ่ายตรงข้าม ปารีส แซงต์-แชร์กแม็งเป็นทีมที่ครองบอล ดวลกับทีมที่ไปลงตั้งรับลึก และคุณต้องการทั้งในส่วนความอดทนและสมดุลที่ในการแย่งบอลกลับมาให้เร็วที่สุด และทำการกดดันฝ่ายตรงข้ามอยู่ตลอดเวลา"



คุณให้ความสำคัญกับการพัฒนาทีมเยาวชนมากแค่ไหน?

"ทีมงานและตัวของเผมจะแสดงให้เห็น และพวกเราจะพิจารณาให้ความสำคัญไปยังทีมเยาวชนรวมไปถึงทีมก่อนระดับเยาวชนของ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง เป็นอย่างมาก ผมรู้ว่าตัวเองพูดถึงอะไร ที่ ลีลล์ พวกเราเป็นแชมป์ด้วยนักเตะที่ขึ้นมาจากทีมเยาวชนปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง พวกเรารู้ถึงการฝึกสอนที่ปารีส พวกเราทุกคนทราบดี (ทั้งในฝรั่งเศสและยุโรป) ทักษะที่ต้องตามหาและพัฒนาพรสวรรค์ของนักเตะหนุ่มจากภูมิภาค ในมุมมองของผม มีหลายคนที่ย้ายทีมเร็วเกินไป พวกเรามีแนวคิดและพวกเราจะใช้เวลาในช่วงหลายสัปดาห์ต่อจากนี้เพื่อจัดตั้งทีมที่ดีที่สุด เพื่อให้ผมได้เห็นอย่างรวดเร็ว สังเกต และหลอมรวมนักเตะพรสวรรค์จากทีมเยาวชน พวกเราจะมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับบรรดานักเตะที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างทีมที่ดีที่สุด ด้วยนักเตะที่จะเป็นตัวสอดประสานเข้าสู่ทีม พวกเราจะจัดการทีมปัจจุบันเพราะมีหลายๆ คนที่เล่นในตำแหน่งเดียวกัน เพื่อให้ห้องแต่งตัวมีสมดุล มีบรรยากาศการทำงานที่ดีและทำให้ทุกๆ คนรู้สึกว่ามีส่วนร่วมในแผนงานเหมือนกัน พวกเราจะต้องลดจำนวนนักเตะลงมา พวกเราจะลดจำนวน และนักเตะหนุ่มที่สมควรขึ้นมาซ้อมกับพวกเรา ทำไมถึงจะไม่มีส่วนลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่บ้างล่ะ"




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด