'ศูนย์หน้า' คือตำแหน่งที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนบอลได้มากกว่าตำแหน่งอื่นๆ เสมอ และทุกช่วงตลาดซื้อขาย ใครๆ ต่างก็หวังได้เห็นกองหน้าตัวใหม่
แฟนๆ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังเห่อ เออร์ลิง ฮาแลนด์
แฟนๆ ลิเวอร์พูล กำลังเนื้อเต้นกับ ดาร์วิน นูนเญซ
แฟนๆ อาร์เซน่อล กำลังอิ่มเอมกับ กาเบรียล เชซุส
แฟนๆ ท็อตแน่ม กำลังรอยลฟอร์ม ริชาร์ลีซอน
และแฟนๆ เวสต์แฮม ก็กำลังรอการประเดิมสนามของ จานลูก้า สกามัคค่า
ค่าตัวทะลุหลัก 30 ล้านปอนด์ เป็นตัวเลขที่สูงไม่ใช่น้อยสำหรับสโมสรระดับกลางอย่าง เดอะ แฮมเมอร์ส
นี่จึงเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญในตัวศูนย์หน้าทีมชาติอิตาลี ที่ถูกยกย่องให้เป็น 'นิว ซลาตัน'
อะไรที่ทำให้ สกามัคค่า ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ศูนย์หน้าระดับตำนานของสวีเดน ไอดอลของใครหลายๆ คน ที่นอกจากฝีเท้าเป็นที่ยอมรับแล้ว ยังมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน
ส่วนสูง 6 ฟุต 5 นิ้ว หรือ 195 เซนติเมตร ความแข็งแกร่งของร่างกาย ลูกยิงอันทรงพลัง การมีส่วนร่วมกับเกม ที่ไม่ใช่ปักหลักอยู่แต่ในกรอบเขตโทษ ทั้งการผ่านบอล เก็บบอล ครองบอล
แต่ สกามัคค่า ก็เชื่อมั่นว่าเขามีสไตล์การเล่นเป็นของตัวเอง ที่ไม่เหมือนกับ อิบราฮิโมวิช อย่างแน่นอน
หากพิจารณาจากเส้นทางของ สกามัคค่า ตั้งแต่เริ่มแรก อาจยังมีข้อสงสัยอยู่บ้าง เขาจากลา โรม่า ไปอยู่ในทีมเยาวชนของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ตั้งแต่ปี 2015 หรือตอนอายุ 16 ปี ด้วยมุมมองที่แตกต่างจากคนอื่น
แต่ยังไม่ทันได้เล่นกับทีมชุดใหญ่ ก็ถูก ซาสซูโอโล่ ดึงกลับมาร่วมทัพในอีกสองปีต่อมา
ระหว่างนั้น ซาสซูโอโล่ ส่ง สกามัคค่า ไปเพาะบ่มฝีเท้ากับ เกรโมเนเซ่ ในเซเรียบี ลงเล่น 14 เกม ยิงได้เพียงประตูเดียว
กลับไปเล่นในลีกเนเธอร์แลนด์ส กับ ซโวลล์ 10 เกม ยิงไม่ได้เลย
หลังจากนั้นไปอยู่กับ อัสโคลี่ ในเซเรียบี ผลงานเริ่มดีขึ้น มี 13 ประตูจาก 35 เกม
จนได้ไปเล่นกับ เจนัว ซีซั่น 2020-21 ยิงไป 8 ประตูจาก 26 เกมในเซเรียอา และเป็น 12 ประตูจาก 29 เกมรวมทุกรายการ จุดนี้เองที่ทำให้ชื่อของ สกามัคค่า กลายเป็นที่หมายปองของหลายทีมใหญ่
ถึงจะมีข้อเสนอเข้ามา แต่ ซาสซูโอโล่ เลือกที่จะเก็บ สกามัคค่า เอาไว้ใช้งานเองในฤดูกาล 2021-22 เป็นซีซั่นแรกที่ได้เล่นแบบเต็มตัวให้กับ เนโรแวร์ดี้
สกามัคค่า มีฤดูกาลที่ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้งของตัวเอง ตะบันไป 16 ประตูจาก 38 เกมรวมทุกรายการ
และช่วงเวลานี้เอง สกามัคค่า ก็ได้ประเดิมสนามให้กับทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่ แต่จนถึงเวลานี้ 7 เกม ยังยิงประตูไม่ได้เลย
เมื่อตัวเลขการยิงประตูเป็นเช่นนี้ แล้ว เวสต์แฮม มองเห็นอะไรในตัว สกามัคค่า
ศูนย์หน้าตัวเป้าที่ เดวิด มอยส์ ตามหามานาน ความแข็งแกร่งในลูกกลางอากาศที่น่าจะสอบผ่านในเกมพรีเมียร์ลีกได้ไม่ยาก และเท้าขวาอันทรงพลัง
ดูจากรายละเอียดของ 16 ประตูที่เกิดขึ้นในฤดูกาลที่ผ่านมา เป็นลูกยิงจากเท้าขวามากถึง 13 ประตู ลูกโหม่งอีก 3 ประตู ไม่มีลูกยิงจากเท้าซ้ายปรากฏให้เห็น
ขณะเดียวกัน เป็นการยิงในกรอบโทษไม่เกิน 6 หลา 5 ประตู, ในกรอบโทษ 7-18 หลา 8 ประตู และนอกกรอบโทษ 18 หลา ก็มีให้เห็น 3 ประตู
โดย 1 ใน 3 ลูกยิงไกล มาจากฟรีคิก และอีก 1 เป็นการยิงไกลเสียบมุมบนใส่ เอซี มิลาน อย่างสุดงาม
อีกจุดเด่นของ สกามัคค่า คือการเป็นศูนย์กลางในแดนหน้า สามารถพักบอล เก็บบอล และผ่านบอลออกให้เพื่อนในตำแหน่งต่างๆ ได้ดี จากตัวเลขการผ่านบอลเข้าเป้าเฉลี่ยสูงถึง 74.6 เปอร์เซนต์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
และตัวเลขการเอาชนะคู่แข่งในการดวลกันกลางอากาศ สกามัคค่า ทำได้สูงถึง 55.7 เปอร์เซนต์ มากกว่า มิเคล อันโตนิโอ จอมถึกที่มีตัวเลขอยู่ที่ 40.9 เปอร์เซนต์ แต่อาจวัดผลอะไรไม่ได้มากนัก เพราะเป็นการเปรียบเทียบข้ามลีก เซเรียอา กับ พรีเมียร์ลีก
เดิมที แฟนๆ เดอะ แฮมเมอร์ส คาดหวังที่จะได้ยลฝีเท้า สกามัคค่า ในเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายของช่วงปรีซีซั่น ที่บุกเยือน ล็องส์ ที่ฝรั่งเศส 4 วันหลังจากยืนยันการเซ็นสัญญา แต่ไม่ปรากฏเงาของศูนย์หน้าชาวอิตาเลียน
มอยส์ และทีมสต๊าฟฟ์โค้ช เชื่อว่าจะเป็นการดีกว่า หาก สกามัคค่า อยู่ฝึกซ้อมและเรียกความฟิตที่ รัช กรีน ต่อไป เพื่อให้ปรับสภาพร่างกายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
และแฟนๆ เวสต์แฮม ต่างก็หวังที่จะได้เห็น สกามัคค่า ประเดิมสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรก ซึ่งเป็นเกมใหญ่ในลอนดอน สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วัดความคมกับ ฮาแลนด์
