:::     :::

ถึงเวลาสิงห์คำราม ?

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
IT’S TIME THE LION ROARS หรือ ถึงเวลาสิงห์คำราม คือสโลแกนในงานเปิดตัวของ การท่าเรือ เอฟซี

แสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของทีมในฤดูกาลนี้ ที่ต้องการกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้ง ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงทีมเพื่อให้ทีมแกร่งขึ้น

นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร ประกาศกร้าว “สิงห์เจ้าท่า” โคตรตึงจัดสำหรับซีซั่นนี้ ได้ทั้งเฮดโค้ชใหม่อย่าง สก็อตต์ คูเปอร์ เข้ามาทำทีม จ่ายตลาดคว้าผู้เล่นฝีตีนดีมาร่วมทัพอีกมากมาย

และขอลุ้นแชมป์ทุกรายการในปีนี้!!!

ตัดภาพมาที่ แพท สเตเดียม หลังเปิดซีซั่น เสียงบ้วนนกหวีดดังจบ 90 นาที การท่าเรือ เอฟซี ทำได้แค่เสมอ ลำพูน วอริเออร์ แบบไร้สกอร์

ทีมที่ขอลุ้นแชมป์ทุกถ้วยในปีนี้ เปิดบ้านได้แค่ 1 คะแนน จากทีมน้องใหม่

แค่เริ่มก็ยากแล้ว




อาจแย้งว่าทีมขาดดาวยิงคนสำคัญอย่าง แฮมิลตอน โซอาเรส ที่ติดโควิด-19 ไปทำให้ต้องใช้ดาวรุ่งอย่าง ธีระศักดิ์ เผยพิมาย ลงเล่นแทน หากแต่ศักยภาพโดยรวมถ้าจะลุ้นแชมป์ การได้เล่นในบ้านตัวเอง ขี้ริ้วขี้เหร่แค่ไหนก็ควรมี 3 แต้มติดมือ

ในมุมผู้เขียนที่นั่งชมเกม การไม่มี แฮมินตัน ไม่ได้น่าห่วงเท่า “ความสัมพันธ์” ในแผงมิดฟิลด์เกมล่าสุด

คูเปอร์ เลือกใช้ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ยืนเป็นกองกลางตัวต่ำ โดยให้ เนเกบา เข้งบราซิเลียนรายใหม่ กับ เซร์คิโอ ซัวเรส ร่วมกันสร้างสรรค์เกมรุก แต่ปัญหาคือทั้ง 2 ไม่สามารถเชื่อมกันได้อย่างลงตัว มีบอลเสียให้เห็น บาลานซ์เกมตรงกลางขาดหายไปอย่างแรง

เทียบกันกับปีที่ผ่าน ๆ มา การท่าเรือ ใช้งาน โก ซึล-กี กับ ศิวกร จักขุประสาท คู่กันยังพอประคองกันได้ แต่มาปีนี้เป็น ธนบูรณ์ ที่รับบทบาทคนเดียว ทำให้บางจังหวะยังติด ๆ ขัด ๆ ในการเชื่อมบอลขึ้นไปข้างหน้าบ้าง ตรงนี้น่าจะต้องให้เวลา “เจ้าตั้ม” อีกสักนิด เพราะหลายครั้งเราจะเห็น ซัวเรส ต้องดรอปตัวเองถอยมาช่วยเก็บบอล

ส่วนเกมริมเส้นแม้จะหวือหวา แต่บอลสุดท้ายก็ยังไม่สามารถเอาชนะแนวรับ ลำพูน วอริเออร์ ได้

ขณะที่ ธีระศักดิ์ มีจังหวะจบสกอร์ให้เห็นสวย ๆ บ้าง แต่ก็ไม่สามารถเก็บหรือพักบอลเล่นได้เท่าที่ควร

แม้ครึ่งหลัง คูเปอร์ จะเปลี่ยนคู่มิดฟิลด์มาเป็น ชาริล ชัปปุยส์ กับ เบน เดวิส เพื่อเพิ่มมิติเกมรุก แต่ก็แทบไม่ต่างจากครึ่งแรกคือ สมดุลเกมแนวรุกแทบไม่มี ทั้งคู่เชื่อมเกมกันไม่ติด ทำได้เพียงถ่ายบอลสั้น ๆ และเลี้ยงกินตัว




เมื่อเจาะแล้วเจาะอีกยังไม่เข้า ไอเดียสุดท้ายคือครอสเข้าไปวัดดวงในเขตโทษ ซึ่งก็เข้าทางกองหลัง ลำพูน ที่ตั้งกำแพงรอรับมืออยู่แล้ว

สุดท้ายแนวรุกเจ้าบ้าน ก็ไม่สามารถเจาะไข่แดงทีมเยือนได้

อย่างไรก็ตาม ในร้ายยังมีดี สิ่งที่เปลี่ยนไปอีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือ “เกมรับ”

การได้ ฟรานส์ ปูตรอส กับ แอร์ตอน มาจับคู่กันหลังบ้าน กลายเป็นคู่ที่ลงตัวและสุดปึก ทั้งสองอ่านเกมดี ทางบอลได้ แถมมีความเร็ว ดักตัดบอลสกรีนคู่แข่งอย่างหมดจด

สิ่งที่เห็นได้ชัดคือกองหน้า ลำพูน แทบถูกปิดตาย เก็บบอลไม่ได้เลย ตลอด 90 นาทีทีมเยือนยิงตรงกรอบได้เพียงหนเดียว

เกมรับ “สอบผ่าน” แต่เกมรุกยังต้อง “สอบซ่อม”

ความสัมพันธ์ บาลานซ์เกมตรงกลางคือจุดที่ทีมต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นอย่าว่าแต่จะลุ้นแชมป์ทุกรายการ แม้แต่จะ “คำราม” อาจยังไม่มีโอกาสด้วยซ้ำ

และคงไม่ต่างจากปีที่ผ่าน ๆ มา

 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด