:::     :::

อาร์ตูร์ เมโล่: Panic Buy หรือตัวสแตนด์บายที่ช่วยสร้างสมดุล

วันเสาร์ที่ 03 กันยายน 2565 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
814
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ลิเวอร์พูล ปิดตลาดซัมเมอร์ด้วยการทำเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ อย่างการเซ็นสัญญากับ อาร์ตูร์ เมโล่ กองกลางจอมเทคนิคชาวบราซิลมาร่วมทัพด้วยสัญญายืมตัว เขาเป็นใคร? และจะเข้ามาช่วยยกระดับทีมได้มากน้อยแค่ไหน บทความนี้มีคำตอบครับ

อาร์ตูร์ เป็นนักเตะกองกลางชาวบราซิล เขาเริ่มต้นจากการเล่นให้ เกรมิโอ ในลีกบ้านเกิด โดยที่เริ่มติดทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 18 จุดเด่นของเขาคือมีทักษะในการจ่ายบอลที่ดี สัมผัสแรกเนียนตา และได้รับการเปรียบเทียบว่าเป็น อันเดรส อิเนียสต้า แห่งละติน อเมริกากันเลยทีเดียว


อาร์ตูร์ สอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวหลักในทีม เกรมิโอ ได้อย่างไม่ยากเย็น ในปี 2017 เขาลงสนามให้ทีมไปถึง 50 นัดจากทุกรายการ จนทำให้ฟอร์มการเล่นไปเข้าตาแมวมองจากยุโรปมากมายหลายต่อหลายทีม หนึ่งในนั้นคือ บาร์เซโลน่า​ ซึ่งให้ความสนใจจริงจังมาก ก่อนจะย้ายสำมะโนครัวมายังสเปนด้วยค่าตัวราว ๆ 31 ล้านยูโร พร้อมมีโบนัสแอดออนอีก 9 ล้าน อีกทั้งยักษ์ใหญ่แห่งกาตาลันยังมอบสัญญา​ยาวให้ถึง 6 ปีเลยทีเดียว


ชาบี เอร์นานเดซ เคยกล่าวยกย่องรุ่นน้องคนนี้ว่า "ผมคิดว่านี่คือดีลที่ดีมาก ๆ ของ บาร์เซโลน่า​ และ อาร์ตูร์ จะสามารถสร้างความยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน" 


"ผมเหมือนมองเห็นตัวเองเวลาที่ดู อาร์ตูร์ เล่น เขาเป็นนักเตะที่หัวไว แต่เขายังต้องทำงานอย่างหนักที่ บาร์ซ่า​ เพราะที่นั่นการแข่งขันค่อนข้างสูง เขามีดีพอที่จะสร้างชื่อได้ในสเปน และจะเข้ามาแทนที่ของผมกับ อันเดรส ได้ดีเลยทีเดียว"




ทว่า ช่วงเวลาที่ บาร์เซโลน่า​ กลับไม่สวยงามอย่างที่หวัง แม้จะลงสนาม 72 นัด ยิงได้ 4 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ และเคยคว้าแชมป์ลีกกับแชมป์บอลถ้วยได้อย่างละสมัย แต่ภาพรวมถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับบทบาทและความคาดหวัง


อาร์ตูร์ อยู่สเปนได้ 2 ปีก็ย้ายมาในอิตาลีเพื่ออยู่กับ ยูเวนตุส โดยเป็นหนึ่งในดีลที่สลับขั้วกับ มิราเล็ม ปานิช ชีวิตใหม่ในตูรินช่วงแรกถือว่าราบรื่นและสวยงาม เขาเล่นได้ดี เป็นมิติใหม่ ๆ ในแดนกลางให้กับทีม โดยทำประตูแรกให้ทีมได้ในนัดที่พบกับ โบโลญญ่า ก่อนจะมาหยุดชะงักลงเพราะอาการบาดเจ็บจนต้องพักยาวเป็นเดือน ๆ


เมื่อหายเจ็บกลับมา อาร์ตูร์ ไม่สามารถเบียดลงสนามเป็นตัวจริงได้เลย อีกทั้งเขาเองยังมีอาการบาดเจ็บตามรังควานอยู่เป็นระยะ เล่น 4 นัดพัก 4 สัปดาห์ ทำให้ขาดความต่อเนื่องและไม่ได้อยู่ในสายตาของกุนซืออีกต่อไป กลายเป็นตัวเลือกลำดับท้าย ๆ ของทีม ที่ถูกส่งลงสนามในช่วงครึ่งหลังมากกว่าออกสตาร์ตตัวจริง


ครั้งหนึ่ง อันเดรีย ปิร์โล่ ในตอนคุม ยูเวนตุส พูดถึง อาร์ตูร์ เอาไว้อย่างน่าสนใจ เขาบอกว่า "อาร์ตูร์ เป็นนักเตะที่ดี แต่ข้อเสียคือเขาครองบอลไว้กับตัวนานเกินไป" 


"เราได้พูดคุยปรับความเข้าใจกัน เขาบอกว่าต้องการยืนในตำแหน่งที่ถูกดันไปเล่นข้างบนมากขึ้น ซึ่งนั่นจะกลายเป็นการผลักภาระหน้าที่เกมรับไปให้กองกลางอีกคนมากขึ้น เราหาข้อสรุปร่วมกัน ผมพร้อมยอมปรับเพื่อเขา แต่เราก็รอเขาให้ปรับตัวเพื่อเราด้วยเช่นกัน"


เขาปรับตัวและเล่นได้ดีขึ้น หลังการพูดคุยกับ ปิร์โล่ ก่อนที่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรั้วเจ้าม้าลายจะทำให้เขากลับไปอยู่ในจุดที่น่าอึดอัดอีกครั้ง




เมื่อ ยูเวนตุส เปลี่ยนกุนซือจาก ปิร์โล่ มาเป็น แม็กซ์ อัลเลกรี ในปีต่อมา ปรากฏ​ว่าอนาคตของ อาร์ตูร์ มาถึงทางตันเข้าอย่างจัง เขาไม่ใช่นักเตะในสไตล์ที่ อัลเลกรี ชื่นชอบเลยสักนิด เขาได้ลงสนามเพียงแค่ 27 นัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวสำรองอีกต่างหาก ยิ่งในฤดูกาล​นี้ เขายิ่งแทบไม่มีโอกาสได้ซ้อมหรือลงสนามกับทีมเลยด้วยซ้ำ เพราะอาการบาดเจ็บด้วยส่วนหนึ่ง บวกกับสไตล์การเล่นที่ไม่ตรงกับความต้องการของโค้ชด้วยอีกส่วนหนึ่ง


นั่นจึงทำให้ ลิเวอร์พูล​ ที่กำลังมีปัญหา​เรื่องกองกลางตัดสินใจหันมามอง อาร์ตูร์ เพื่อนำมาเสริมทัพในช่วงที่เหลือของฤดูกาล​ด้วยสัญญายืมตัวทันที


สาเหตุหลักที่ ลิเวอร์พูล​ เร่งมาปิดดีลของ อาร์ตูร์ แบบเร็วจี๋นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาการบาดเจ็บของกองกลางในทีมที่เรียงหน้าบาดเจ็บกันเป็นพรืด จนทำให้ทีมเหลือกองกลางใช้งานได้เพียงแค่ ฟาบินโญ่, เจมส์ มิบเนอร์ และ ฮาร์วี่ย์ เอลลียต์ เท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ ก็ยังมีอาการบาดเจ็บติดตัวอยู่แทบทั้งสิ้น


อาร์ตูร์ ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล​ ด้วยสัญญายืมตัว ค่าเหนื่อยของเขาจะเป็นการแบ่งจ่ายกันระหว่างสองสโมสร มีค่ายืมตัวเป็นเงิน 4.5 ล้านยูโร พร้อมโบนัส 3 แสนยูโรจนจบฤดูกาล นอกจากนี้ ยังมีออปชั่นซื้อขาดได้ในราคา 37.5 ล้านยูโร ซึ่งเป็นออปชั่นที่ไม่บังคับและหากใช้ออปชั่นนี้จริงก็สามารถแบ่งจ่ายได้ 2 ปีเลยทีเดียว


อาร์ตูร์ มาแล้วจะเล่นตรงไหนดี?


ตำแหน่งของ อาร์ตูร์ เอาตรง ๆ นั้นค่อนข้างคล้ายกับ ติอาโก้ อยู่พอสมควร เขารับบทบาทเป็นตัวเชื่อมเกมได้สบาย ๆ รับบอลมา ส่งบอลออกไป ปั้นเกมจากแนวลึกได้ดี แต่ข้อเสียคือเขาเล่นเกมรับไม่เก่งเลย ดังนั้นจำเป็นต้องมีลูกหาบคอยสกรีนบอล ตัดบอล แย่งบอลช่วยเขาอีกแรง ถึงจะสามารถเล่นได้ดี สถิติของเขาในลีกกัลโช่ฤดูกาล​ล่าสุดคือจ่ายบอลสำเร็จ 625 ครั้ง คิดเป็น 90%, แท็คเกิ้ลชนะคู่แข่ง 12 ครั้ง และสร้างโอกาสทำประตูให้ทีมอีก 6 ครั้ง ทั้งที่ลงสนามไปเพียง 20 นัด หรือลงลึกเป็นจำนวนนาทีคือลงสนามเพียง 956 นาทีเท่านั้นเอง


ดังนั้น เขาจะเข้ามารับบทบาทเป็นตัวเชื่อมเกมให้ทีมตรงตำแหน่งของ ติอาโก้ ค่อนข้างแน่นอน อย่างน้อย ๆ ก็ในช่วงที่จอมทัพชาวสเปนยังไม่ฟิตสมบูรณ์ แน่นอนว่าการมาของเขาอยู่ในฐานะอะไหล่ แต่ก็เป็นอะไหล่ที่มีคลาสและช่วยทำให้ทีมไม่เสียสมดุลมากนัก ยามที่ ติอาโก้ ลงสนามไม่ได้


อาร์ตูร์ จะสวมเสื้อหมายเลข 29 ซึ่งเป็นเบอร์ที่เขาเคยใส่สมัยอยู่กับ เกรมิโอ มาก่อน เปรียบเสมือนว่าในตอนนี้เขาขอเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง หลังจากประสบกับความยากลำบากมาหลายปี


ดีลฟ้าแล่บแบบนี้ ไม่ใช่ Panic Buy ของ ลิเวอร์พูล แต่เป็นการเสริมทัพที่เรียกว่าเอามาเติมเต็มในขุมกำลังเสริมน่าจะเหมาะกว่า และถ้าทุกอย่างเวิร์ค ดีลนี้อาจเป็นอีกหนึ่งดีลที่ คล็อปป์ ตัดสินใจได้ถูกต้องก่อนตลาดปิดก็เป็นได้


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด