โดย “แข้งเทพ” เป็นทีมที่มีเงินสนับสนุนเพียบจากผู้สนับสนุนหลักของพวกเขาอย่างกลุ่ม CP ทำให้มีเงินซื้อนักเตะระดับเกรดเอของเมืองไทยไปอัดแน่นอยู่ในทีม
ไม่ว่าจะเป็นนักเตะดีกรีทีมชาติไทย ทั้ง ทริสตอง โด, มานูเอล ทอม เบียร์ห, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ปกเกล้า อนันต์
หรือนักเตะต่างชาติ อย่าง ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด, เอเวอร์ตัน กอนคัลเวส, วานเดอร์ หลุยส์ และ เฮร์แบตี้ แฟร์นันเดส ต่างมีคุณภาพคับแก้วไม่เป็นรองใคร
สุดท้ายพวกเขามักตกม้าตายในช่วงท้ายฤดูกาล หลุดวงโคจรลุ้นแชมป์อยู่เสมอ จนกลายเป็นภาพชินตาของแฟนบอลตัวจริงและขาจร
หากย้อนไปครั้งสุดท้ายที่ “แข้งเทพ” คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศไทย ก็คือปี 2006 ซึ่งตอนนั้นยังใช้ชื่อ “มหาวิทยาลัยกรุงเทพ” นั่นคือความสำเร็จเดียวในประวัติศาสตร์สโมสร
แต่พอเปลี่ยนชื่อทีมมาเป็น “แบงค็อก ยูไนเต็ด” จนถึง “ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด” ในปัจจุบัน คำว่า “แชมป์ไทยลีก” เป็นเหมือนเส้นขนาน ที่ไม่มีวันบรรจบกันเสียที
ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการได้รองแชมป์ เมื่อปี 2016 และปี 2018
ปีนี้ “แข้งเทพ” ยังถูกจัดให้อยู่ในโผทีม “เต็งแชมป์” เช่นเดียวกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หรือ การท่าเรือ เอฟซี เหมือนเดิม
เพราะนอกจากนักเตะกลุ่มเดิมที่มีคุณภาพอยู่แล้ว พวกเขายังคว้านักเตะระดับพรีเมียมมาเสริมทัพอีก
ไม่ว่าจะเป็น นิติพงษ์ เสลานนท์, รัชนาท อรัญญไพโรจน์, ทัศนพงษ์ หมวดดารักษ์, มามูดห์ ดาอัดฮา, ชญาวัต ศรีนาวงษ์ และ วิลเลน โมตา
ทำให้ขุมกำลังตัวจริงและตัวสำรองสามารถทดแทนกันได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ขณะที่กุนซืออย่าง “ออเรลิโอ วิดมาร์” เองก็มีประสบการณ์คุมทีมในเมืองไทยมาอย่างโชกโชน และได้ชิมลางคุมทีมตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว
ดังนั้นการออกสตาร์ท 4 นัด ด้วยการคว้าชัยชนะรวด และยังไม่เสียประตู นำเป็นจ่าฝูงของตารางร่วมกับ “ราชบุรี เอฟซี” ซึ่งมี 12 แต้มเท่ากัน น่าจะสร้างความมั่นใจให้ทีมไม่น้อย
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทุกปีพวกเขาก็ออกสตาร์ทฤดูกาลได้อย่างสวยหรูอยู่แล้ว
แต่ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลต่างหากที่เป็นโจทย์ให้แก้ไขว่า ทีมจะรักษามาตรฐานให้สม่ำเสมอจนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาลได้อย่างไร
หากพวกเขาแก้ปัญหาได้ ไม่แผ่วปลายเหมือนในอดีต โอกาสที่จะผงาดคว้าแชมป์รีโว่ไทยลีกก็มีไม่น้อย
เพราะปีนี้ทุกอย่างลงตัวทั้งนักเตะตัวจริง, ตัวสำรอง, ประสบการณ์ ดังนั้นทุกอย่างอยู่ที่สองเท้าของพวกคุณแล้ว ว่าจะไปถึงฝันที่วางไว้ได้หรือไม่
