อย่างที่กล่าวไปว่า ลอริยองต์ กระเสือกกระสนหนีตกชั้นในฤดูกาลที่ผ่านมาจนถึงช่วงโค้งสุดท้ายชนิดที่เรียกว่ารอดตัวแบบหืดจับ จึงไม่แปลกที่สโมสรจะจัดการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือทันทีด้วยการปลด คริสโตฟ เปลลิสซีเย่ร์ หลังจบฤดูกาลและดัน เรชีส์ เลอ บรีส์ โค้ชหนุ่มวัย 46 ปีมาทำหน้าที่สำคัญแทน

ถือเป็นการเสี่ยงดวงของ ลอริยองต์ เพราะก่อนหน้านั้นฝั่ง เลอ บรีส์ ยังไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมชุดใหญ่ โดยโค้ชวัย 46 ปีโลดแล่นและสร้างชื่อในทีมเยาวชนของ แรนส์ ก่อนจะโยกมาทำงานในทีมสำรอง ลอริยองต์

ระยะเวลากว่า 10 ปีที่ทำหน้าที่ดังกล่าวทำให้ เลอ บรีส์ รู้ลึกตื้นหนาบางในสโมสรเป็นอย่างดี ก่อนที่โอกาสครั้งสำคัญจะมาถึง

ทางฝั่งสโมสรจากตะวันตกเฉียงเหนือตัดสินใจครั้งใหญ่และมันคือการวัดดวงกับอนาคตในฤดูกาล 2022/23 

ณ เวลานั้นไม่มีใครรู้ว่าการตัดสินใจของบอร์ดบริหารจะเป็นเช่นไร ผลที่ตามมาจะเป็นไปอย่างที่คาดหวังหรือไม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 8 นัดในซีซั่นนี้อันดับตารางคะแนนได้ตอบคำถามทั้งหมดแล้ว

แม้จะเป็นช่วงต้นซีซั่นและการแข่งขันยังคงมีไปอีก 30 เกมให้ลงชิงชัย แต่ด้วยผลงาน ชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 1 ถือเป็นสัญญาณที่ดีของ ลอริยองต์ 

จากทีมที่หนีตายอย่างยากลำบาก ไหนจะรูปเกมที่สะเปะสะปะไม่เป็นทรง มาฤดูกาลนี้ เลอ บรีส์ ได้แปลงโฉม ลอริยองต์ ให้กลายมาเป็นทีมที่เล่นเกมรุกน่ากลัวโดยเฉพาะการสวนกลับที่เล่นงานฝ่ายตรงข้ามจนน้ำตาตกมานักต่อนัก

นอกเหนือไปจากนั้นคือผลงานของผู้เล่นที่นัดกันเข้าฟอร์มได้ถูกเวลา แข้งเด่นในช่วง 8 นัดแรกหนีไม่พ้น ด็องโก้ อูอัตตาร่า แนวรุกบูร์กินา ฟาโซ ที่ทำไป 4 ประตูกับ 4 แอสซิสต์

แข้งวัย 20 ปีกลายมาเป็นกำลังหลักในซีซั่นนี้อย่างเต็มตัวด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมและยังมีการสอดประสานกับ เทเร็ม มอฟฟี่ ได้ดีอย่างมาก 

จะว่าไปแล้ว มอฟฟี่ ที่เคยสร้างกระแสในช่วงซีซั่นที่ผ่านมา (ก่อนจะดับหายไป) ได้กลับมาสร้างผลงานที่ดีอีกครั้งด้วยผลงาน 6 ประตูในซีซั่นนี้ จึงไม่แปลกที่ ลอริยองต์ จะไต่ขึ้นมารั้งที่ 3 ณ ปัจจุบัน

ไม่เพียงสองผู้เล่นข้างต้นที่ทำผลงานได้ดี บรรดานักเตะอย่าง เอ็นโซ่ เลอ เฟ ที่สลัดอาการบาดเจ็บออดๆ แอดๆ กลับมาลงสนามต่อเนื่องพร้อมสร้างผลงานโดยเฉพาะทีเด็ดลูกตั้งเตะ ไหนจะ อีวง เอ็มโวโก้ ผู้รักษาประตูตัวใหม่ที่เข้ามากลบจุดอ่อนให้หายไป ยังมีแนวรับที่ได้ มงตาสซาร์ ตาลบี เข้ามาช่วยงาน สิ่งเหล่านี้กลายเป็นการยกระดับ ลอริยองต์ ให้ดีกว่าซีซั่นที่ผ่านมา

แม้สถิติการเสียประตูยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ทุกอย่างถูกกลบไปด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของแนวรุกที่กำลังเข้าฝัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องยกเครดิตให้ เลอ บรีส์ ในการเปลี่ยนโฉม ลอริยองต์ 

ผลงานที่ออกมาทำให้แฟนบอลและบอร์ดบริหารเนื้อเต้นเป็นยกใหญ่ ซึ่งหากจะออกมาเช่นนั้นก็คงไม่แปลกเพราะสัญญาณที่ดีต่างๆ ถูกส่งออกมามากมาย

แต่สำหรับ เลอ บรีส์ ขอเลือกอยู่กับความถ่อมตัวและยังมองว่าทีมของตนเองต้องเจอบททดสอบอีกมากมายที่รออยู่ 

"ในห้องแต่งตัวของพวกเราไม่ได้รู้สึกถึงความตื่นเต้นหรือพึงพอใจอย่างที่สุด แน่นอนพวกเรามีความสุขในการเก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่อง แต่พวกเรายังคงมีงานให้ทำอีกมากมาย"

นั่นคือบทสัมภาษณ์ของ เลอ บรีส์ หลังจบเกมล่าสุดที่บุกชนะ โอแซร์ 3-1 เท่ากับว่าตอนนี้พวกเขาคว้าชัยใน ลีก เอิง 4 เกมติดต่อกันแล้ว

ความปิติยินดีเป็นของธรรมดาเมื่อทีมคว้าชัยหรือเก็บผลการแข่งขันได้ตามที่ต้องการ แต่งาน ณ ตอนนี้ของพวกเขาเพิ่งผ่านไปแค่หนึ่งส่วนเท่านั้น ยังเหลืออีก 30 เกมให้เดินหน้าต่อ และนั่นคือ 'งาน' ที่ เลอ บรีส์ พยายามเน้นย้ำลูกทีมให้ลงมือทำอย่างเต็มที่ทุกนัด

ที่สำคัญคือซีซั่นนี้จะมีทีมตกชั้นถึง 4 สโมสรและไม่มีโควตาเพลย์ออฟหนีตาย สาเหตุสำคัญเพราะการปรับโครงสร้างของลีกที่จะลงขนาดเหลือ 18 ทีมในฤดูกาลต่อไป นั่นทำให้สโมสรต่างๆ ต้องพยายามโกยแต้มหนีโซนแดงให้ได้

การแข่งขันจะเพิ่มความเข้มข้นไปเรื่อยๆ แต่ละทีมจะเน้นเต็มที่ในทุกๆ นัดเพราะแต่ละคะแนนล้วนแล้วแต่สำคัญและมีโอกาสเป็นตัวตัดสินอนาคตช่วงบั้นปลายซีซั่น

ประเด็นสำคัญ ณ ตอนนี้ของ ลอริยองต์ และ เลอ บรีส์ คือการรักษาผลงานเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาพยายามตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับการทำงานที่ถ่อมตัวและเอาจริงเอาจังทุกครั้งเมื่อลงสนาม

ไม่มีใครทราบว่า 30 นัดหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เช่นเดียวกับ ลอริยองต์ ที่อาจจะตกม้าตายหากว่าพวกเขาประมาทหรือหลงระเริงจนเกินตัว 

ที่สำคัญคือการเดินหน้าไปทีละก้าว ทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งในด้านที่ดีและด้านที่ต้องปรับปรุง ผสมผสานการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อเป้าหมายสำคัญในช่วงจบฤดูกาล

หากมองไปยังสถิติที่สื่อฝรั่งเศสทำออกมาคือมีทีมกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ที่เก็บ 19 คะแนนจาก 8 นัดแรกจะรอดตกชั้นในลีก เอิง ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีของ ลอริยองต์ 

กระนั้นอย่าลืมว่ายังมีพื้นที่ของความผิดพลาดอยู่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และนั่นคืองานที่พวกเขาต้องหลีกเลี่ยงหรือตัดเส้นทางนั้นทิ้งไปให้ได้

ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยย้ำเตือน ลอริยองต์ และ เลอ บรีส์ ตลอดการเดินทาง ซึ่งมันอยู่ที่ว่าพวกเขาจะรักษาผลงานที่ดีเช่นนี้ได้นานเพียงใด