:::     :::

โค้งสุดท้ายของยอดแข้ง

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน 2565 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
633
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ หนนี้อาจจะเป็นหนสุดท้ายของสุดยอดแข้งของโลกที่เราเห็นผลงานกันมานานกว่า 10 ปี

         โดยเฉพาะกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ สองสุดยอดสตาร์ของโลกที่อยู่ยงคงกระพันมานานกว่าทศวรรษ และถ้วย "จูลส์ ริเมต์" เป็นรายการเดียวที่พวกเขายังไม่เคยได้มาครอบครอง

         แน่นอนว่านี่ไม่ใช่แค่สองคนที่อยู่ในช่วงปลายอาชีพค้าแข้ง ยังมีอีกหลายคนที่ เวิลด์ คัพ หนนี้อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่ได้วาดลายบนเวทีที่ไหยที่สุดในโลก

         ดูกันว่ามี "บิ๊กเนม" คนไหนกันบ้าง (อาจ) จะทิ้งทวนในศึกครั้งนี้

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส)


         หนึ่งในนักเตะที่ได้ชื่อว่ามีความฟิตมากที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับช่วงอายุ แม้ว่าในช่วงหลังจะไม่ได้วิ่งเยอะมากมายเหมือนสมัยก่อนก่อนตาม

         ปัจจุบันในวัย 37 ปี หากเจ้าตัวบอกว่าเป้าหมายคือการไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 ก็คงจะไม่เกินเลยไปหน่อยเมื่อมองจากการดูแลตัวเองตลาดเส้นทางอาชีพที่ผ่านมา

         เมื่อถึงปี 2026 เจ้าตัวจะมีอายุ 41 ปี สำหรับนักเตะที่เป็นกองหน้าต้องบอกว่ายากเพราะต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอด แตกต่างจากผู้รักษาประตูที่สามารถเป็นไปได้

         ก่อนหน้านี้เจ้าตัวอออกมายืนยันด้วยตัวเองว่าจะอยู่เล่นจนถึงศึกยูโร 2024 รอดูเมื่อถึงเวลานั้นแล้วว่าจะขยับเป้าหมายออกไปรึเปล่า แต่หากจะมีใครทำได้ คนนั้นก็คงต้องเป็น โรนัลโด้ นี่แหละ

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (โปแลนด์)

  

         ในบรรดานักเตะที่อยู่ในลิสต์ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นคนที่มีโอกาสไปถึงฟุตบอลโลกในอีก 4 ปีข้างหน้ามากที่สุด ซึ่งในเวลานั้นเจ้าตัวจะมีอายุ 37 ปี แต่หากมองจากปัจจุบันยังอยู่ในสภาพที่ยอดเยี่ยม

         เช่นเดียวกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์จาก บาร์เซโลน่า ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมเอาไว้ ต่อยอดจากการค้าแข้งที่เยอรมันไปสู่สเปน

         ในฐานะผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของชาติ เป้าหมายของเขาคือการทำผลงานให้ดีที่สุด แม้อาจจะเป็นเรื่องที่ยากเกินไปที่จะเข็นทีมไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้

         ที่น่าแปลกและน่าเหลือเชื่อก็คือ เลวานดอฟสกี้ ยังไม่เคยทำประตูได้ในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกมาก่อนเลย กับครั้งนี้ที่มีเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง อาร์เจนติน่า, ซอุดิอาระเบีย และ เม็กซิโก หวังว่ามันจะเกิดขึ้น

ติอาโก้ ซิลวา (บราซิล)


         กองหลังวัย 38 ปีที่มีความสำเร็จกับ บราซิล คือแชมป์โกปา อเมริกา เมื่อปี 2019 และ ฟีฟ่า คอนเฟเดเรชั่นส์ คัพในปี 2013 คงจะเป็นโอกาสสุดท้ายในการเล่นฟุตบอลโลกแล้ว

         ปัจจุบันเป็นเวลานานถึง 20 ปีแล้วที่ "แซมบ้า" ไม่ได้แชมป์โลก ในฐานะชาติที่ได้แชมป์มากที่สุด 5 สมัย ปีนี้ยอมตั้งเป้าหมายในการกลับมาคว้าแชมป์ให้ได้อีกครั้ง

         แน่นอนว่ามันคือเป้าหมายของ ติอาโก้ ซิลวา เช่นกัน ที่หวังจะได้ชูถ้วยแชมป์โลกสักครั้งหลังจากที่ประสบความสำเร็จในระดับสโมสรมามากมายแล้ว

ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนติน่า)


         หลังจากที่แฟนๆคอยตามเชียร์และเอาใจช่วยกันมาเป็นเวลายาวนานในที่สุด ลิโอเนล เมสซี่ ก็สมหวังกับการคว้าแชมป์รายการเมเจอร์กับทีมชาติอาร์เจนติน่าหลังได้ชูถ้วยแชมป์โกปา อเมริกาเมื่อปี 2021 

         หนึ่งในนักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมาไม่น่าจะต้องมาลุ้นถึงช่วงปลายอาชีพแบบนี้ เพราะเจ้าตัวมีโอกาสได้แชมป์โลกมาแล้วเมื่อปี 2014 ที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแต่ไปแพ้ให้กับ เยอรมัน

         ปัจจุบันด้วยวัย 35 ปีแล้ว มีความเป็นไปได้สูงว่านี่จะเปิดเวิลด์ คัพหนสุดท้าย และด้วยศักยภาพของ อาร์เจนติน่า อาจจะพอได้ลุ้นไปถึงแชมป์จนได้ และมันอาจจะเป็นปิดฉากเส้นทางอาชีพที่สมบูรณ์แบบไปเลย

หลุยส์ ซัวเรซ (อุรุกวัย)


         หลุยส์ ซัวเรซ ถือเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในรุ่นของตัวเอง ทุกครั้งที่ได้ลงสนามความปรารถนาในการเอาชนะของเขาต้องบอกว่าไม่เป็นรองใครเลย

         ในวัย 35 ปี แม้ว่าจะไม่ได้เล่นอยู่ใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปแล้ว แต่นั่นไม่ได้ลดทอนศักยภาพของเจ้าตัวลงไปเลย เพราะนี่คือนักเตะที่ช่วยยกให้ อุรุกวัย ขึ้นไปสู้กับ บราซิล กับ อาร์เจนติน่า สองยีกษ์ใหญ่ของทวีปได้อย่างไม่อาย

         กับฟุตบอลโลก 3 ครั้งหลังถือว่าทีมสามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้ทั้งหมด กับครั้งสุดท้ายนี้เจ้าตัวก็หวังทิ้งทวนพาทีมไปให้ไกลที่สุดเพราะทีมไปไม่ถึงเกมชิงชนะเลิศเลยนับตั้งแต่ได้แชมป์เมื่อ 72 ปีที่แล้ว

         68 ประตูจาก 132 เกมให้กับทีม "จอมโหด" หวังว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีกในรอบสุดท้ายที่ กาตาร์

ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย)


         เจ้าของตำแหน่งนักเตะจากฟุตบอลโลกเมื่อครั้งที่แล้วหลังพา โครเอเชีย ไปถึงรอบชิงชนะเลิศแม้จะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ให้กับ ฝรั่งเศส แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือคนที่เล่นได้อย่างโดดเด่นตลอดทัวร์นาเม้นต์

         นั่นทำให้เจ้าตัวไปถึงตำแหน่งรางวัลบัลลง ดอร์ในปีเดียวกัน ถือเป็นความสำเร็จอย่างสูงสุดที่นักเตะคนหนึ่งจะได้รับจากรางวัลส่วนตัว

         ปัจจุบันในวัย 37 ปีอาจจะไม่โฉบเฉี่ยวเหมือนก่อน แต่วิสัยทัศน์และการอ่านเกมยังต้องยกนิ้วให้ แต่ดูผลงานของ เรอัล มาดริด ก็น่าจะเป็นตัวการันตีได้เป็นอย่างดี

โธมัส มุลเลอร์ (เยอรมัน)


         แม้ว่าจะมีช่วงที่หายหน้าไปหลังจากความล้มเหลวในฟุตบอลโลก 2018 ที่ตกรอบไปแบบพลิกความคาดหมาย แต่ปัจจุบันก็กลับมาเป็นกำลัวหลักอีกครั้งและทำประตูได้อีกครั้ง

         โธมัส มุลเลอร์ หวังจะพาทัพ "อินทรีเหล็ก" ผงาดก้าวไปคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 ให้ได้ เพื่อล้มล้างความผิดหวังจากเวิลด์ คัพครั้งก่อน

         ปัจจุบันที่ทำไปแล้ว 10 ลูกในบอลโลก หากตัวเองและ เยอรมัน เกิดเข้าฝักไม่แน่ใจจะยิงประตูไต่อันดับดาวยิงสูดสุดตลาดกาลไปเทียบเคียงหรือแซงหน้าบรรดารุ่นพี่อย่าง เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ (11), แกร์ด มุลเลอร์ (14) และ มิโลสลาฟ โคลเซ่ (16, มากที่สุด) ก็ได้

คาริม เบนเซม่า (ฝรั่งเศส)


         นับตั้งแต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายออกจาก เรอัล มาดริด ก็เป็นเวลาที่ คาริม เบนเซม่า ได้ก้าวขึ้นมาแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่และพาทีมประสบความสำเร็จไม่น้อยหน้าเลยแม้ปัจจุบันจะอายุ 34 ปีแล้วก็ตาม

         แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกล่าสุดถือเป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดี และการกลับสู่รั้วทีมชาติฝรั่งเศสอีกครั้งก็ถือเป็นสิ่งที่คู่ควรหลังจากที่ไม่มีส่วนร่วมเมื่อปี 2018 จากคดีเซ็กซ์เทปของ มาติเยอ วัลบูเอน่า อดีตเพื่อนร่วมทีม 

         ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมเขาอาจจะเป็นกุญแจสำคัญพา ฝรั่งเศส ไปถึงแชมป์โลกอีกครั้ง และจะเป็นทีมแรกนับตั้งแต่ปี 1962 ที่สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้ด้วย

เอดินสัน คาวานี่ (อุรุกวัย)


         คู่ขาในแดนหน้าของ หลุยส์ ซัวเรซ ที่ต้องบอกว่ารวมอายุกันแล้วน่าจะเป็นคู่หน้าที่อายุมากที่สุดคู่หนึ่ง แถมยังเป็นดาวยิงระดับชั้นนำที่กองหลังคู่แข่งต้องระวัง

         แต่กับ เอดินสัน คาวานี่ ถูกตั้งคำถามอยู่บ้างหลังไม่ได้รับโอกาสลงสนามากนักกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไหนจะปัญหาบาดเจ็บที่รบกวนมาตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันในวัย 35 ปีถือเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ไม่ยาก

         ปัจจุบันกับการย้ายไปเล่นกับ บาเลนเซีย ในสเปน กับช่วงเวลา 2 เดือนก่อนถึงศึกที่ กาตาร์ หวังว่าจะเรียกความฟิตและเค้นฟอร์มการได้เล่นทันเวลา

มานูเอล นอยเออร์ (เยอรมัน)


         ได้รับการยกย่องเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของโลกมานานหลายปี แม้ว่าจะถูกมองว่าเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ที่เหนือกว่าคู่แข่งร่วมลีกมากเหลือเกิน

         เช่นเดียวกับ โธมัส มุลเลอร์ ความล้มเหลวจากฟุตบอลโลก 2018 รวมถึงในยูโร 2020 ที่จอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งกุนซือจาก โยอาคิม เลิฟ ที่อยู่มานาน 15 ปี มาเป็น ฮันซี่ ฟลิค

         แน่นอนว่าด้วยความเป็น มานูเอล นอยเออร์ และนี่อาจจะเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายในวัย 36 ปี เจ้าตัวคงหวังที่จะลมล้างความผิดหวังจากสองทัวร์นาเม้นต์หลังสุด



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด