กองกลางวัย 30 ชาวเซอร์เบีย ย้ายมาจาก อาร์เซนอล ตูลา ในรัสเซีย พร้อมโปร์ไฟล์หรูหรา เคยค้าแข้งกับทีมดังอย่าง เรด สตาร์ เบลเกรด ในบ้านเกิด รวมถึง โอซาซูนา ในสแปนิช ลีก รวมถึงมีประสบการณ์ใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก มาแล้ว
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนการมาของ เคาซิช จะไม่ได้เรียกเสียงฮือฮาอะไรจากสาวก “ปราสาทสายฟ้า” มากเท่านักเตะใหม่ในตำแหน่งตัวรุกรายอื่น ๆ
อาจเพราะ เคาซิช คือผู้เล่นในตำแหน่ง “กองกลางตัวรับ” อายุอานามก็หลักเลข 3 แล้ว นอกจากนี้ทีมมีแข้งอย่าง ธีราทร บุญมาทัน กับ รัตนากร ใหม่คามิ รวมถึง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่ทำผลงานได้ดีอยู่แล้ว
กอปรกับหลังจากหมดยุคของ โก ซึล-กี ไป ผู้เล่นต่างชาติในตำแหน่งกองกลางตัวรับ หรือ “บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์” ไม่ว่าจะเป็น ยู จุน-ซู, ฮาจิเมะ โฮโซไก, จอง แจ-ยอง, อัคบาร์ อิสมาตุลลาเอฟ ที่ดึงเข้ามาฟอร์มการเล่นเรียกว่า “สอบตก” เกือบทั้งหมด
ทำให้การมาของ เคาซิช จึงอยู่ในระดับที่ “ไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวัง”
ที่ปังกว่าคือ เกมแรกอย่างเป็นทางการกับ บุรีรัมย์ ในศึก “ไทยแลนด์ แชมเปียนส์ คัพ” ที่พ่ายต่อ บีจี ปทุมฯ เคาซิช ประเดิมด้วยการถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม จากจังหวะเข้าบอลอันตรายใส่ เจสซี่ เคอร์แรน
จบเกมนั้นชื่อของ เคาซิช ถูกยิบยกมาตั้งคำถามจากแฟนบอลแล้วว่า เขาคือคนที่ใช่สำหรับ บุรีรัมย์ หรือไม่ ?
อย่างไรก็ตามเขายังได้รับความไว้วางใจจาก มาซาทาดะ อิชิอิ ส่งลงประเดิมสนามไทยลีก
จากนั้นความอำมหิตบนฟลอร์หญ้าก็เกิดขึ้น
ใบหน้าไร้รอยยิ้ม แววตาที่ดูจริงจังตลอดเวลา เข้าบอลแม่นยำหนักหน่วง แต่ถึงกระนั้นก็เล่นบอลเรียบง่าย คลาสบอลสุดตีน เชื่อมเกมจากแนวรับไปรุกได้อย่างเนียนตา เป็นทั้งมิดฟิลด์ตัวรับ และ กองกลาง บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ในคนเดียว ในแบบที่ทีมโหยหาตั้งแต่ โก ซึล-กี เก็บกระเป๋าออกจากถิ่นอีสานใต้ไป
มากกว่านั้นคือเขาสามารถทำประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ!!!
9 นัดผ่านบนเวทีไทยลีก เคาซิช ลงเล่นครบทุกนาที และยิงให้ทีมไปถึง 7 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ นำดาวซัลโวร่วมคู่กับกองหน้าเพื่อนร่วมทีม ศุภชัย ใจเด็ด
ขณะที่ใบแดงที่เปรียบเสมือน “อุบัติเหตุฟุตบอล” ก่อนเริ่มฤดูกาล จนกลายเป็นภาพจำแฟนบอล ผ่านไป 9 เกมบนเวทีไทยลีก เขารับไปเพียง 1 ใบเหลืองเท่านั้น (ในเกมชนะ พีที ประจวบ 3-1)
เคาซิช กับ บุรีรัมย์ เขาไม่ใช่เป็นเพียงตัวตัดเกมประสบการณ์สูง หรือเชื่อมเกมจากรับสู่รุก หากแต่ยังพาตัวเองเข้าไปป้วนเปี้ยนหน้ากรอบเขตโทษคู่แข่งบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่ทีมได้ลูกเซ็ตพีซ เตะมุม รวมถึงการเติมเกมสอดขึ้นมาเก็บกินจังหวะแถวสอง
เขาสามารถเล่นลูกกลางอากาศได้อย่างดี รวมถึงมีทีเด็ดจากจังหวะยิงไกล เป็นกองกลางสไตล์ครบเครื่อง ตอบโจทย์ฟุตบอลยุคใหม่ และเป็นนักเตะในแบบที่ไม่ว่าสโมสรไหนก็อยากมีติดไว้ในทีม
เรียกว่าการมาของ เคาซิช ช่วยยกระดับแผงมิดฟิลด์ บุรีรัมย์ จากที่โดดเด่นอยู่แล้ว ให้เฟี้ยวเข้าไปอีก
กับฟอร์มปัจจุบันขณะ เจ้าตัวกำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดขีด และเชื่อว่าการพังประตูคู่แข่งคงไม่หยุดที่เพียง 7 ประตูในฤดูกาลนี้แน่
จากนักเตะต่างชาติที่ไม่ได้ถูก “คาดหวัง” ถึงตอนนี้หลายคนมองว่านี่คือดีลสุดคุ้มของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ด้วยซ้ำ
และมันสามารถเป็น “สัจธรรมลูกหนัง” ที่บอกคนดูฟุตบอลได้อย่างหนึ่งว่า
เราไม่สามารถตัดสินใครคนหนึ่งได้ จากใบแดงแค่นัดเดียวจริง ๆ
**ภาพ : FB Buriram United / FB BG Pathum United
