:::     :::

รอดตัวหวุดหวิด

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2565 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
809
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เกือบกลายเป็นประเด็นร้อนหลังจบเกมที่ เดอ บริดจ์ โดยเฉพาะ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่กำลังจะโดนรุมสกรัมผ่าน 'โซเชียล มีเดีย'

กองกลางชาวสกอตแลนด์ถึงกับสวมกอด กาเซมีโร่ หลังจากมิดฟิลด์ชาวแซมบ้าโขกตีเสมอให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในใจคงคิด 'ถึงจะโดนด่าก็แค่ครึ่งเดียวจากโทษเต็มล่ะวะ'

ว่าไปแล้วจังหวะของ แม็คโทมิเนย์ กำลังที่เป็นถกเถียงกันอย่างมาก โดยเฉพาะแฟนบอลที่มีความเห็นทั้งสองมุม (ส่วนตัวมองว่าเป็นจุดโทษเพราะ แม็คโทมิเนย์ พยายามขัดขวางการเล่นของ โบรย่า ชัดเจน) รวมไปถึงบางคนที่มองไปถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินซึ่งเป็นผลมาจากการที่ลีกไม่มีเกณฑ์มาตรฐานหรือมีการตัดสินแบบไม่ต่อเนื่อง

กรณีดังกล่าวยกตัวอย่างจากจังหวะใช้มือช่วยทำประตูที่เคยเป็นประเด็นก่อนหน้านี้ บางสนามผู้ตัดสินให้เป็นประตูเพราะมองว่านักเตะไม่ได้ตั้งใจ แต่อีกสนามกลับระบุเป็น 'แฮนด์บอล' ทั้งที่ลักษณะหรือเหตุการณ์คล้ายกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ทำให้แฟนบอลงงเป็นไก่ตาแตก

นั่นคือสิ่งที่แฟนบอลหลายคนคิดและมองไปไกลกว่าจุดโทษว่าสมควรได้หรือไม่ได้ เพราะทางพรีเมียร์ลีกไม่สามารถสร้างมาตรฐานการตัดสินให้ดำเนินไปในทิศทางเดียวกันหรือมีมาตรฐาน จึงไม่แปลกที่ 'วีเออาร์' หรือกรรมการในสนามจะกลายมาเป็นจุดโจมตีทุกสัปดาห์

ได้แต่หวังว่าในอนาคต พรีเมียร์ลีก จะพัฒนาและสร้างมาตรฐานการตัดสินได้ดีกว่านี้ และไม่ต้องกลายมาเป็นเป้าถกเถียงหรือโดนโจมตีแบบช่วงที่ผ่านมา ที่สำคัญหลายต่อครั้งมันส่งผลร้ายแรงต่อทีมที่เสียประโยชน์




มาว่ากันที่เรื่องของเกมการแข่งขันนัดล่าสุด ต้องยอมรับ ปิศาจแดง ทำได้ดีอย่างมากที่สามารถเล่นงาน สิงโตน้ำเงินคราม โดยเฉพาะแดนกลางที่คุมแบบอยู่หมัดและทำได้เหนือกว่าชัดเจน

จุดนี้ทำให้ลูกทีม เอริก เทน ฮาก มีโอกาสออกนำถึง 3 จังหวะ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่แนวรุกยังขาดประสิทธิภาพในการจบสกอร์เพื่อฉวยโอกาสกุมความได้เปรียบ

ฝั่ง เชลซี เมื่อเห็นท่าไม่ดีทำให้ แกรม พ็อตเตอร์ ต้องเปลี่ยนแผนด้วยการส่ง มาเตโอ โควาชิช ลงสนามและปรับมาใช้งานระบบ 4-3-3 ซึ่งช่วยให้เกมของเจ้าบ้านดีขึ้นทันตาเห็นเพราะแดนกลางที่แน่นขึ้นทำให้ปิดช่องทางของคู่แข่งแถมมีตัวขับเคลื่อนเพิ่มเติมและยังมีโอกาสเล่นงาน ปิศาจแดง ช่วงท้ายครึ่งแรก

มันคือการเชือดเฉือนทางแท็กติกของสองกุนซือใหญ่ ฝั่ง เทน ฮาก ทราบและตระหนักดีในจุดนั้น แน่นอนว่าด้วยรูปเกมที่สูสีขึ้นแถมลูกทีมยังพลาดออกนำในช่วงที่เกมเหนือกว่าทำให้กุนซือชาวเนเธอร์แลนด์ต้องส่ง เฟร็ด ลงสนามเพื่อลงไปวิ่งบอลและทำลายเกมคู่แข่งเหมือนนัดดวลกับ สเปอร์ส 

นอกจากนั้น ปิศาจแดง พยายามปรับการยืนในแนวรุกทั้งสลับตำแหน่ง แรชฟอร์ด ออกไปทางซ้าย หรือการดัน บรูโน่ ขึ้นเป็นกองหน้า แต่หลายอย่างไม่ได้ดีขึ้นทันตาเห็น เพราะ ณ เวลานั้นโมเมนตัมเอนไปทาง เชลซี ซึ่งกำลังครองบอลพร้อมหาจังหวะเล่นงานดีที่โอกาสทองของ ชาโลบาห์ แฉลบคานออกไป

แต่ท้ายที่สุด ยูไนเต็ด มาพลาดตกม้าตายเสียเองจากจังหวะฟาวล์ของ แม็คโทมิเนย์ ที่ตัดสินใจไปเล่นแบบนั้นจนเสียเหลี่ยม โบรย่า

เข้าใจเจตนาดีของกองกลางชาวสกอตแลนด์พยายามทำลายจังหวะและปิดกั้นโอกาสของแนวรุกเจ้าบ้าน แต่เหตุการณ์มันโจ่งแจ้งโฉ่งฉ่างแบบนั้นก็ยากที่จะปฏิเสธหรือแก้ตัวได้






ยังดีที่ กาเซมีโร่ สอยตาข่ายจากลูกโหม่งช่วงท้ายเกมให้ทีมตีเสมอ ซึ่งถือเป็นประตูแรกในสีเสื้อ ปิศาจแดง ที่สำคัญอย่างมากของมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล เพราะนอกจากจะช่วยให้ทีมไม่แพ้ ยังปลดเปลื้องความอัดอันของทีมและแฟนบอลให้ถูกระบายออกมา

ผลเสมอที่ เดอะ บริดจ์ จึงถือเป็นสกอร์ที่ยุติธรรมหากพิจารณาจากผลงานของผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด รวมถึงโอกาสที่ทีมสร้างขึ้น แม้อีกมุมจะเสียดายที่ไม่สามารถออกนำก่อนได้ แต่โดยรวมถือว่าเป็นอีกเกมที่ทีมได้ความมั่นใจเข้ามาเติมเต็ม (ไม่มากก็น้อย)

ฝั่ง เทน ฮาก แม้จะดูพอใจกับสกอร์ 1-1 แต่เชื่อว่าลึกๆ แล้วกุนซือวัย 52 ปีแอบเสียดาย 3 คะแนนเพราะทีมได้โอกาสจะแจ้งมากกว่า เชลซี โดยเฉพาะ แรชฟอร์ด ที่มีถึงสองหนแต่ไร้ความเฉียบขาด หรือทาง อันโตนี่ ที่สับไกเน้นๆ ท้ายครึ่งแรกแต่บอลพุ่งเฉี่ยวเสา

เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาหลัก ณ ตอนนี้ของทีมและเป็นจุดที่ เทน ฮาก พยายามหาทางแก้ไข โดยเกมที่ผ่านมาทีมอาจมีทางเลือกไม่มากเนื่องจาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (บาดเจ็บ) และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ลงโทษทางวินัย) หายไป แต่เชื่อว่านั่นไม่ใช่สาเหตุที่กุนซือใหญ่จะมาเป็นข้อแก้ตัวให้ตนเองแน่นอน 

อย่างที่เห็น เทน ฮาก พยายามใช้ทางเลือกที่ตนเองให้ออกมาดีที่สุด ซึ่งทีมพยายามอย่างหนักพร้อมโอกาสสำคัญ 3 ครั้งแต่แนวรุกกลับไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นสกอร์ และนั่นกลายมาเป็นช่องว่างสำคัญหรือปัญหาที่ทีมพบเจออีกครั้ง

"คุณต้องทำประตูในจังหวะเหล่านั้น เพราะในเกมสำคัญๆ โอกาสทองแค่ 3 ครั้งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก คุณต้องทำประตูให้ได้"

นับเป็นการบ้านที่ต้องแก้ไขปรับปรุงกันต่อไป และเป็นอย่างที่ เทน ฮาก กล่าวไว้ข้างตนว่าทีมต้องเฉียบคมกว่านี้ แถมขอเสริมด้วยอีกหน่อยไม่ว่าจะเป็นเกมไหนก็ตามทีมต้องฉวยโอกาสมาครองให้ได้เพราะมันจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมากกว่าเดิมเป็นกอง




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด