กลุ่มจี : บราซิล, เซอร์เบีย, สวิตเซอร์แลนด์, แคเมอรูน

บราซิล

ผู้จัดการทีม

ตีตี้

         มาคุมทีมตั้งแต่ปี 2016 ด้วยประสบการณ์คุมทีมระดับสโมสรมาเกือบ 20 ทีม โดยพกความสำเร็จด้วยการพาทีมเอาชนะ โกปา อเมริกา 2019 หลังความผิดหวังในฟุตบอลโลกที่ รัสเซีย ด้วยการตกรอบก่อนรองชนะเลิศ

         แน่นอนว่าฟุตบอลโลกครั้งก่อนถือว่าน่าผิดหวังอย่างมาก มากครั้งนี้เป้าหมายของ ตีตี้ คือการพาทีมประสบความสำเร็จให้ได้เท่านั้น

สตาร์เด่น

เนย์มาร์

         ทีมชุดนี้ถือว่ามีสตาร์เด่นมากมาย แต่กับความหวังในการคว้าแชมป์ของทีมคงต้องยกให้ เนย์มาร์ ที่เป็นสตาร์เบอร์หนึ่งของทีมมาหลายปี

         ปัจจุบันยิงประตูในทีมชาติไปแล้ว 75 ลูก ตามหลัง เปเล่ แค่ 2 ประตูเท่านั้น ดูแล้วมีโอกาสสูงที่จะแซงได้ในทัวร์นาเม้นต์นี้เลย และหากเป็นดาวซัลโวพร้อมคว้าแชมป์โลกคงเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบจริงๆ

คุณสมบัติ

         บราซิล โชว์ฟอร์มสุดยอดในรอบคัดเลือกด้วยการไม่แพ้ใครตลอด 17 เกมในรอบคัดเลือก โดยชนะ 14 เสมอ 3 ทำได้ถึง 40 ประตูและเสียแค่ 5 ลูกเท่านั้น ไม่แปลกที่พวกเขาจะเดินลงสู่ศึกในครั้งนี้ในฐานะเต็ง 1 ที่จะได้แชมป์ไปครอง

เซอร์เบีย

ผู้จัดการทีม

ดราแกน สตอยโควิช

         หนึ่งในขุนพลชุดลุยฟุตบอลโลก 1990 สมัยที่ยังเป็นนักเตะ โดยพาทีมเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ รวมถึงในฟุตบอลยูโร 2000 ที่เข้าถึงรอบเดียวกันด้วย

         ส่วนประสบการณ์คุมทีมเคยนำ นาโงย่า แกรมปัส เอท คว้าแชมป์เจ ลีก และแชมป์ ซูเปอร์ คัพ มาแล้ว 

สตาร์เด่น

ดูซาน วลาโฮวิช

        จากกองหน้าโนเนม ดูซาน วลาโฮวิช ค่อยๆยกระดับขึ้นมาเริ่มจากการย้ายมาเล่นกับ ฟิออเรนติน่า กระทั่ง ยูเวนตุส ทุ่มทุนก้อนโตถึง 67 ล้านปอนด์ ดึงมาร่วมทีม

         แม้ว่าผลงานกับ "ม้าลาย" จะไม่ได้ร้อนแรงเหมือนเมื่อครั้งอยู่กับทีมเก่า แต่หากคุณจะมองหาดาวเด่นของทีมที่ กาตาร์ กองหน้าวัย 22 ปีคือคำตอบของ เซอร์เบีย

คุณสมบัติ

        เซอร์เบีย ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือกด้วยการไม่แพ้ใครเลยตลอด 8 เกม พร้อมกับโค่น โปรตุเกส หล่นไปเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มต้องไปเหนื่อยในการเล่นเพลย์ออฟ

         โดยเฉพาะเกมชิงแชมป์กลุ่มในนัดสุดท้ายที่จัดการบุกชนะ "ฝอยทอง" ถึงบ้าน 2-1 หลังจากตามหลังไปก่อนต้องยกให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงเลย

สวิตเซอร์แลนด์

ผู้จัดการทีม

มูรัต ยาคิน

         แม้ว่าทีมจะทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในยูโร 2020 แต่ทาง วลาดิเมียร์ เพ็ตโควิช ก็ก้าวลงจากตำแหน่งหลังจากคุมทีมมานาน 7 ปีเพื่อไปคุม บอร์กโดซ์ ทำให้ทาง มูรัต ยาคิน เข้ามารับตำแหน่งแทน

         นายใหญ่วัย 49 ปีมีประสบการณ์คุมทีมในบ้านเกิดมาไม่น้อย ซึ่งแม้ว่าจะถูกมองว่าโนเนมแต่ก็ลบคำสบประมาทด้วยการพาทีมจบเหนือ อิตาลี ในรอบคัดเลือกพร้อมมาเล่นในรอบสุดท้าย ปล่อยให้ "อัซซูรี่" ต้องไปเพลย์ออฟจนตกรอบไป

สตาร์เด่น

เซอร์ดาน ชากิรี่

         การย้ายไปเล่นในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ถูกมองว่าจะเป็นจุดตกต่ำของ เซอร์ดาน ชากิรี่ แต่เจ้าตัวยังคงยืนหยัดเป็นกำลังหลักของทีมอย่างสง่าผ่าเผย

         ด้วยประสบการณ์ค้าแข้งอย่างโชกโชนในยุโรปกับสโมสรใหญ่อย่าง บาเยิร์น มิวนิค, อินเตอร์ มิลาน, ลิเวอร์พูล และ ลียง ถือเป็นสิ่งล้ำค่าของทีมแน่นอน

คุณสมบัติ

         หลายคนคิดว่าหลังประสบความสำเร็จกับผลงานในศึกยูโร 2020 ทาง อิตาลี จะคว้าแชมป์กลุ่มเข้ารอบไปได้ไม่ยาก แต่สุดท้าย สวิตเซอร์แลนด์ ก็หักปากกาเซียนได้อย่างยอดเยี่ยม

         การเข้าไปเล่นนรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 5 ครั้งหลังพวกทีมผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้ถึง 4 ครั้ง แน่นอนว่าเป้าหมายคือการเข้ารอบน็อคเอาท์ให้ได้

แคเมอรูน

ผู้จัดการทีม

ริโกแบร์ ซง

         ตำนานกองหลังของ แคเมอรูน กับการติดทีมชาติ 137 เกม มากที่สุดในประวัติศาสตร์ แม้ว่าจะเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาแต่แน่นอนว่าเขารู้ตื้น ลึก หนา บาง และได้รับความเคารพเป็นอย่างดี

         ประสบการณ์เล่นฟุตบอลโลก 4 หน บวกกับ แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 8 ครั้ง น่าจะใช้ถ่ายทอดให้กับนักเตะได้เป็นอย่างดี

สตาร์เด่น

แว็งซ็องด์ อาบูบาการ์

         ดาวยิงสูงสุดและนักเตะที่ติดทีมมากที่สุดของทีมชุดนี้ และเป็นกัปตันทีมด้วย ถือเป็นคนสำคัญของทีมอย่างไม่ต้องสงสัย

         ก่อนหน้านี้เพิ่งเปรียบตัวเองกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ว่าความเก่งไม่ได้แพ้กัน แค่โอกาสในการเล่นกับทีมใหญ่ไม่มีเท่านั้นเอง

คุณสมบัติ

         เขี่ยทีมใหญ่อย่าง ไอวรี่ โคสต์ เข้าป้ายคว้าแชมป์รอบคัดเลือกรอบ 2 ก่อนจะมาชนะ แอลจีเรีย เข้ารอบสุดท้ายที่ กาตาร์ ด้วยการเสมอ 2-2 แต่ได้กฎประตูทีมเยือนช่วยเอาไว้

         7 ครั้งในฟุตบอลโลกก่อนหน้านี้มี 6 ครั้งที่ไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม มีแค่ในปีในปี 1990 ที่เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ แน่นอนว่าพวกเขาก็หวังว่าจะทำมันได้อีกครั้ง