:::     :::

โครเอเชีย ยอดทีมฟุตบอลโลก

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
โครเอเชีย คว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลกครั้งนี้มาครองหลังบดชนะ โมร็อกโก ม้ามืดประจำทัวร์นาเมนท์อย่างสนุก 2-1 โดยตลอด 90+6 นาที เป็นเกมที่ทัพโครแอตไม่ได้ครองเกมเบ็ดเสร็จหรือเล่นได้เหนือกว่าทีมของ วาลิด เรกรากุย มากนัก

สถิติหลังเกมออกมาค่อนข้างสูสีกัน ทั้งเปอร์เซนต์การครองบอล (51-49%) หรือจำนวนการพาสบอล (ไม่มีทีมไหนเกิน 500 ครั้ง) ,ความต่างของเกมนี้อยู่ที่ โครเอเชีย คุมจังหวะ รับ-รุก ได้สมดุลกว่า ,แท็คติกการเล่นหลากหลายกว่า และที่สำคัญคือเฉียบคมกว่า


คุมจังหวะรับ-รุก กับ แท็คติกการเล่นที่หลากหลายกว่านั้น จะเห็นได้ว่าตลอดทั้งเกมทีมของ ซลัตโก้ ดาลิช  เวลารุก จะมีการเติมผู้เล่นเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายของ โมร็อกโก ได้อย่างเหมาะสม 


หรือจังหวะผ่อนเกม พวกเขาสามารถเลือกว่าจะครองเกมในแดนหลัง หรือตรงกลางสนาม เพราะมีมิดฟิลด์ชั้นดีอย่าง ลูก้า โมดริช กับ มาเตโอ โควาซิช เป็นหัวใจสำคัญ หลอกล่อให้ผู้เล่นโมร็อกโกเข้ามาวิ่งไล่ 

ส่วนความเฉียบคมซึ่งเป็นความต่างที่ชัดเจนที่สุด เห็นได้ชัดเจนจากลูกโหม่งของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ที่เล่นสูตรฟรีคิกได้สมบูรณ์แบบ กับลูกยิงของ มิสลาฟ ออร์ซิช ในช่วงปลายครึ่งแรก 




เกมชนะ โมร็อกโก นั้น เป็นเกมที่ โครเอเชีย มีในสิ่งที่พวกเขาขาดหายไปเกือบทั้งทัวร์นาเมนท์นั่นคือเกมรุกที่เฉียบขาด ตลอดเส้นทางตั้งแต่รอบแรกจนก่อนถึงนัดชิงอันดับ 3 เมื่อคืนวันเสาร์ พวกเขาเอาชนะคู่แข่งในเวลาได้แค่เกมเดียวเท่านั้น คือ ชนะ แคนาดา 4-1


หากจะบอกว่ากองหน้าระดับคุณภาพคือสิ่งที่โครเอเชียชุดนี้ขาดหายไปก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะ 7 นัดที่ผ่านมา ดาลิช แทบจะเปลี่ยนหัวหอกตัวเป้าของเขาไปเรื่อยจริงๆ 

ไม่เปลี่ยนตั้งแต่ไลน์อัพ 11คนแรก ก็ระหว่างเกมการแข่งขันโดยมี อังเดร คามาริช เป็นตัวหลัก ที่เหลือก็สลับกันไปทั้ง มาร์โก ลิวาย่า,บรูโน่ เพตโควิช ส่วน อันเต บูดิเมียร์ กองหน้าจากโอซาซูน่า ได้รับโอกาสน้อยที่สุด


แต่แม้จะไม่มีกองหน้าเกรดระดับท็อป แต่ โครเอเชีย ก็ยังมาได้ไกลถึงอันดับ 3 จุดนี้ เห็นทีว่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะครับ เพราะฟุตบอลโลกที่ รัสเซีย พวกเขาก็กรุยทางไปถึงรอบชิงชนะเลิศกับ ฝรั่งเศส ด้วยสไตล์การเล่นที่คล้ายคลึงกับทัวร์นาเมนท์นี้เช่นกัน 


ถามว่าอะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ โครเอเชีย ประสบความสำเร็จในเวทีฟุตบอลโลก 2 ครั้งหลังสุด ?

ส่วนตัวผมมองว่าพวกเขาเป็นทีมที่มีองค์ประกอบหลายอย่างที่เหมาะสมกับการเล่นฟุตบอลแบบทัวร์นาเมนต์ครับ 

โครเอเชีย อาจไม่ใช่ทีมที่เล่นแล้วดูสนุกเร้าใจ มีเกมรุกหวือหวา ทว่าเป็นทีมที่กลยุทธ์ดี, ไดนามิกดี, แข้งแกนหลักมีประสบการณ์สูงช่วยประคองน้องๆในทีมได้เยี่ยม และที่สำคัญที่สุดคือพวกเขามีจิตใจที่แข็งแกร่งสามารถรับมือกับสถานการณ์กดดันได้ดี




ตั้งแต่ที่ปี 2018 แล้ว โครเอเชีย ดวลจุดโทษชนะ เดนมาร์ก ในรอบ 16 ทีม, จากนั้นรอบควอเตอร์ไฟนั่ลก็ชนะจุดโทษ รัสเซีย เจ้าภาพ ก่อนจะล้ม อังกฤษ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 

หนนี้ก็เช่นเดียวกัน ล้ม ญี่ปุ่น ด้วยจุดโทษ ก่อนจะทำแบบเดียวกันในวันดับ ‘เต็งหนึ่ง’ บราซิล 

ก่อนเกมรอบควอเตอร์ไฟนั่ลกับ บราซิล นักวิจารณ์ส่วนใหญ่แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า บราซิล เหนือกว่าทุกด้าน แต่ถ้าเกมยืดเยื้อไปจนถึงดวลจุดโทษ โครเอเชีย จะได้เปรียบ


ทำไมเวลาดวลลูกโทษที่จุดโทษ จากทีมที่เป็นรองเกือบทุกมุมถึงกลับมาเป็นต่อได้ ? 

นั่นเพราะ โครเอเชีย ชุดนี้แสดงให้เห็นมาหลายครั้งแล้วว่าพวกเขานิ่ง จัดการกับความกดดันได้ดีกว่าคู่ต่อสู้อยู่เสมอ 

แต่ไม่ใช่ว่าถึงจุดโทษทีไร โครเอเชีย จะเป็นฝ่ายชนะทุกครั้งไปนะครับ หากผมหมายถึงว่าตราบใดที่โครเอเชียมีนักเตะที่มีคาแรกเตอร์เดียวกันกับทีมชุด 2018 กับ 2022 พวกเขามีเปรียบเหนือคู่ต่อสู้ เพราะการดวลลูกโทษที่จุด หรือการเล่นในเกมยาวๆ 120 นาที ข้อสำคัญนอกเหนือไปจากฝีเท้าแล้วก็คือจิตใจอันเข้มแข็งไม่ยอมแพ้รวมกับสมาธิ




อาการล้า ความเหนื่อย ทำให้นักเตะเสียสมาธิได้ง่ายๆ แต่กับนักเตะโครเอเชียเหมือนว่าพวกเขาคุ้นชินกับเกมยาว และเกมวัดใจอย่างการดวลลูกโทษตัดสิน

เมื่อรวมเข้ากับแท็คติการเล่นที่ยืดหยุ่น รู้จักรุก รู้จักถอย โดยมีแผงมิดฟิลด์ระดับเวิล์ดคลาสคอยควบคุมจังหวะช้าเร็ว แม้นักเตะคนอื่นๆในทีม จะไม่ได้เป็นตัวท็อปก็ตาม ก็ทำให้พวกเขามาได้ไกลอีกครั้งในเวทีฟุตบอลโลก 


ต้องบอกว่าแนวทางการเล่นของ โครเอเชีย อันมี ซลัตโก้ ดาลิช เป็นคนกุมบังเหียนนั้นเป็นกรณีที่ควรศึกษาจริงๆครับ หากทีมใดอยากประสบความสำเร็จในบอลทัวร์นาเมนต์ 

ผมย้ำว่า ทัวร์นาเมนท์ นะครับ เพราะหากเป็นระบบลีก แนวทางนี้มันดูยากที่จะประสบความสำเร็จในระบบลีก ที่เล่นแค่ 90 นาที ทำอะไรกันไม่ได้ก็แบ่งกันทีมละแต้ม ไม่มีต่อเวลา ไม่มีดวลจุดโทษ แต่ตราบใดที่ฟุตบอลโลก และฟุตบอลยูโร ยังยึดรูปแบบการเล่นนี้อยู่ (ซึ่งคงไม่น่าเปลี่ยน) ทีมอย่าง โครเอเชีย ก็มีโอกาสที่จะไปได้ไกลอีก

ลองคิดดูสิครับ โครเอเชีย เข้าร่วมฟุตบอลโลกหนแรกเมื่อปี 1998 


ชั่วเวลา 24 ปี หรือฟุตบอลโลก 6 ครั้ง คว้าอันดับ 3 มาครอง 2 ครั้ง , รองแชมป์โลกอีก 1 ครั้ง 

หลักฐานมันชัดเจนว่าพวกเขาคือทีมที่คุณสมบัติเหมาะสมอย่างยิ่งกับเวทีฟุตบอลโลก 


เจมส์ ลา ลีกา


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด