:::     :::

จากตัวยืม สู่การหยัดยืนในฐานะแชมป์โลก "เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ"

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2565 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
618
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ปิดฉากไปแล้ว

สำหรับฟุตบอลโลก 2022 พร้อมกับการเป็นแชมป์เวิลด์ คัพ สมัยที่ 3 ของทีมชาติอาร์เจนติน่า โดยนักเตะ และทีมงานของทัพฟ้าขาวต่างรับคำชื่นชม ในการรวบรวมพลัง และความสามัคคี จนสามารถพาทีมประสบความสำเร็จในครั้งนี้ 


โดยหนึ่งคนที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก นั่นคือ 'เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ' ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ นอกจากการป้องกันประตูในจังหวะสำคัฐ เขายังช่วยเซฟจุดโทษอย่างเหนียวหนึบ จนพาทีมพลิกสถานการณ์ โดยเฉพาะในเกมรอบน็อคเอาท์กับทางทีมชาติเนเธอร์แลนด์ รวมไปถึงนัดชิงชนะเลิศกับทีมชาติฝรั่งเศส


ชีวิตของนายด่านวัย เดินทางมาไกลอย่างน่าเหลือเชื่อ จากบทบาทนายทวารสำรอง ที่ไม่ได้รับโอกาสในการลงเฝ้าเสา จนถูกยืมตัวลงไปเล่นในลีกระดับล่าง เขาฝ่าฟันแบบทดสอบ  จนมีดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลกพ่วงท้าย 


ช่วงล็อคดาวน์ ที่ฟุตบอลถูกพักไปจากสถานการณ์โควิด-19” ภรรยาเคยหันมาถามมาร์ติเนซ ว่า เขาจะฝึกซ้อมอย่างหนักที่บ้านไปทำไม ? ในเมื่อเขาเป็นเพียงผู้รักษาประตูตัวสำรองของทีม เขาตอบกลับเพียงว่าผมต้องเตรียมความพร้อมเข้าไว้


ย้อนเวลากลับไป ช่วงปี 2010 มาร์ติเนซ เด็กหนุ่มชาวอาร์เจนไตน์ ต้องอำลาบ้านเกิด เพื่อเดินทางมาเล่นฟุตบอลกับอะคาเดมี่ของอาร์เซน่อล ที่ประเทศอังกฤษ


ผมมาจากครอบครัวที่ยากจน ยากจนมากเลยล่ะมาร์ติเนซ เริ่มเล่าถึงชีวิตตัวเอง เขาคือเด็กที่เติบโตมาจากย่าน มาร์ เดล พลาต้า และต้องออกมาเล่นกับทีมเยาวชนของอินเดเพนเดียนเต้ ครอบครัวของเขาไม่มีเงินมากพอ ที่จะเดินทางมาดูพัฒนาการลูกหนังของลูกชายคนนี้ด้วยซ้ำไป


เขาพูดต่อว่าย้อนกลับไปในตอนนั้น ผมอาศัยอยู่ที่บูเอโนสไอเรส และเล่นให้อินเดเพนเดียนเต้ ผมมีโอกาสเจอหน้าครอบครัว เพียง 2 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น เพราะครอบครัวไม่สามารถที่จะจ่ายค่าน้ำมัน ในการเดินทางมาจากย่านมาร์ เดล พลาต้า


กระทั่งในวัย 17 ปี โอกาสมาทดสอบฝีเท้ากับอาร์เซน่อล อย่างไรก็ตาม ก็ต้องแลกกับความเจ็บปวดบางอย่าง โดยเขาบอกว่าคุณแม่ และพี่ชายของผมต่างร้องไห้ออกมา !! เมื่อรู้ว่าผมจะต้องเดินทางไปลอนดอน


ครอบครัวบอกกับผมว่า -อย่าไปเลยนะ- จากนั้นก็เป็นคุณพ่อที่เสียน้ำตาบ้าง เมื่อถึงช่วงเวลาที่อาร์เซน่อล บอกจะซื้อตัวผม ผมจำเป็นต้องกล้าหาญ การเป็นเด็กอายุ 17 ปี ผมตอบตกลงไป เพราะต้องทำเพื่อครอบครัว


กระนั้น ตลอด 10 ปีกับอาร์เซน่อล เขาต้องถูกส่งไปให้หลายทีมทำการยืมตัว รวมแล้ว 6 สโมสร เขาผ่านการลงเล่นในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ไม่ว่าจะเป็นเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์, ร็อทเธอร์แฮม ยูไนเต็ด, วูล์ฟแฮมป์ตัน และเร้ดดิ้ง ไล่ไปจนถึงระดับลีก ทู กับทีมอ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด พร้อมกันนี้ เขายังออกไปเล่นแบบยืมตัวที่ต่างแดนกับเกตาเฟ่ จากลีกสเปน 


ไม่มีใครอยากเป็นผู้รักษาประตูมือสองหรอก โดยเฉพาะคนที่ยังคงศรัทธาในตัวเองเสมอมาอย่างผม ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา มีข้อเสนอจากทีมอื่นยื่นเข้ามา กระนั้น สำหรับผมอาร์เซน่อล ต้องมาเหนือสิ่งอื่นใด ผมไม่ต้องการย้ายไปแบบยืมตัวอีกแล้ว


จากการรอคอยอันแสนยาวนาน เขาสัมผัสแชมป์แรกอย่างเป็นทางการกับอาร์เซน่อล เมื่อสามารถคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เป็นผลสำเร็จ ในฐานะของผู้รักษาประตูที่ลงเฝ้าเสาในรอบชิงชนะเลิศ 


แม้ความสำเร็จ ส่วนหนึ่งจะมาจากการที่นายทวารมือ 1 ได้รับบาดเจ็บ แต่การก้าวมาถึงจุดนี้ ก็ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ และความอดทนอย่างมากมาย 


ผมสูญเสียความรักในการเล่นฟุตบอลไปมาร์ติเนซ ย้อนความทรงจำ สมัยที่เป็นผู้รักษาประตูของอาร์เซน่อล การเล่นแบบยืมตัวอย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้เขารู้สึกว่า ไฟในการลงเล่นฟุตบอล กำลังมอดลงไปทุกที


บางเวลา ในการเล่นแบบยืมตัวกับเกตาเฟ่ ผมสูญเสียความรักในการเล่นฟุตบอลไปเขาเล่าต่อเพราะความสามารถที่ผมมี ไม่สามารถแสดงออกให้ใครเห็นได้ ผมจึงรู้สึกผิดหวังมาก


อย่างไรก็ตาม ผมชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับอาร์เซน่อล ผมรัก และติดตามพวกเขาเสมอ ผมแค่รู้สึกว่า พวกเขาไม่เชื่อใจผมอย่างที่ควรจะเป็นเท่านั้น นั่นคือความจริง พวกเขาคอยซื้อผู้รักษาประตูคนใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ขณะที่ผมเติบโตมาจากอะคาเดมี่


อาร์เซน่อล ไม่อาจรับประกันโอกาสในการลงสนามได้ ผมจึงต้องเดินหน้าต่อไป ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจย้ายทีม หลังจากอยู่กับทีมมานานกว่า 10 ปี"


"มันเป็นเรื่องที่ยากเหมือนกัน ครอบครัวของผมไม่เข้าใจว่า ทำไมผมต้องย้ายออกไป ทั้งที่ผมอยู่ในระดับการเล่นฟุตบอลที่ดีกับอาร์เซน่อล แต่มันเป็นการตัดสินใจของผม ซึ่งผมก็ภูมิใจกับทางเลือกของตัวเอง


มาร์ติเนซ ทิ้งท้ายว่าการย้ายทีมก็เหมือนการเสี่ยงโชคอย่างหนึ่ง ผมเชื่อเสมอว่า หากคุณเอาแต่อยู่ในโซนปลอดภัย คุณจะไม่มีวันถึงสิ่งใหม่ในชีวิต ผมจึงตัดสินใจเดินต่อไปอีกก้าว


บางคนบอกว่า ผมไม่ได้ลงเล่นมากมายกับอาร์เซน่อล แต่ผมรู้ว่าเบื้องหลังมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง และรู้ว่าผมทำงานหนักแค่ไหน ทั้งในวันที่แสนมืดมน และในวันที่ผมไม่มีรายชื่ออยู่ในทีม มีเพียงแค่โค้ชผู้รักษาประตูเท่านั้นที่รู้ว่า ผมต่อสู้เพื่อมันขนาดไหน


การตัดสินใจครั้งนั้น ทำให้เขากลับมามีความสุขกับการเล่นฟุตบอลอีกครั้ง ด้วยการเป็นนายทวารตัวหลักของสโมสรแอสตัน วิลล่า รวมถึงการพาทีมชาติอาร์เจนติน่า คว้าแชมป์รายการสำคัญอย่างโคปา อเมริกา, ฟินาลิสซิม่า และฟุตบอลโลก 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด