"ทรงอย่างแบด เทพอย่างบ่อย" พาช้างศึกครองเจ้าอาเซียน
ซึ่งนักเตะที่ผลงานดีที่สุดคงหนีไม่พ้น “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ที่ผลงานเอกอุ จนแฟนบอลไทยต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็น “เดอะ แบก” ตัวจริงเสียงจริง
โดยดาวเตะจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำไป 6 แอสซิสต์ มากที่สุด รวมแล้วเขาทำแอสซิสต์ในฟุตบอลอาเซียน ทั้งหมด 11 ครั้ง แบ่งเป็นปี 2016 จำนวน 4 ครั้ง ปี 2020 จำนวน 1 ครั้ง
นอกจากนี้ประตูสุดสวยในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อตะบันด้วยขวาข้างไม่ถนัดระยะ 25 หลา ผ่านมือ ดัง วาน ลัม มือกาวทัพ “ดาวทอง” ตุงตาข่าย ส่งให้ ไทย คว้าแชมป์ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-2
ในทัวร์นาเมนต์นี้เขาได้รางวัล แมนออฟเดอะแมตช์ ถึง 4 ครั้ง ในเกมเจอ บรูไน, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และ เวียดนาม ส่งให้คว้ารางวัล MVP นักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์แบบไร้ข้อกังขา
แต่สิ่งที่กินใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นบทสัมภาษณ์หลังเกม ที่เขายกรางวัลนี้ให้เพื่อนร่วมทีมและสต๊าฟฟ์โค้ชทุก เพราะหากไม่มีพวกเขาเหล่านี้คงไม่ได้รางวัลอย่างแน่นอน
ที่สำคัญเขายังต้องการให้ฟุตบอลอาเซียนพัฒนา เดินหน้าไปด้วยกัน ไม่อยากให้สร้างความบาดหมาง
นอกจากนี้เขายังคอยปกป้องนักเตะในทีม ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ข้อความถึง สรรวัชญ์ เดชมิตร ที่โดนใบแดงเกมบุกไปเสมอ อินโดนีเซีย 1-1 ในรอบแบ่งกลุ่มว่าทุกคนพร้อมซัพพอร์ทเสมอ
หรือเป็นการกระตุ้น “บุ๊ค” เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ฟอร์มการเล่นไม่คงเส้นคงวา ให้มั่นใจ ในการเล่นต่อไป
เท่านั้นยังไม่พอนอกสนาม “อุ้ม” ยังเป็นกาวใจ เดินไปหาแฟนบอลกลุ่มอุลตร้า เพื่อขอให้แฟนบอลช่วยกันสอดส่องไม่ให้จุดพลุแฟลร์ในสนาม
เพราะหากทำพฤติกรรมแบบนั้นอาจทำให้สมาคมฯ ถูกสั่งปรับเงิน และอาจส่งผลให้การแข่งขันในบ้านของทีมชาติไทย ถูก AFC ห้ามไม่ใช้แฟนบอลเข้ามาชมเกมในสนามในอนาคต
นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงคาแรกเตอร์และความเป็นผู้ใหญ่ของ “ธีราทร” ที่เข้าขั้นนักเตะที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง ไม่น่าเชื่อว่านี่คืออดีตแข้งทรงแบดของวงการลูกหนังไทย
นับตั้งแต่โดนใบแดง 2 จังหวะซ้อนกับทีมชาติไทย เมื่อปี 2554 หรือลีลากวนโอ๊ยในสนาม ทำให้เขากลายเป็นเป้าโจมตีจากแฟนบอลอยู่เสมอ
หลายครั้งเขาโดนแฟนบอลด่าทอ หรือด่าเสียๆ หายๆ ซึ่งเขาเองก็ตอบโต้ด้วยลีลากวนๆ จนกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลไม่ถูกชะตา
เมื่อพรรษาลูกหนังมากขึ้น บวกกับประสบการณ์ค้าแข้งในเจลีก การอยู่ในสภาพแวดล้อมลูกหนังที่เต็มไปด้วยมืออาชีพของจริง ไม่ว่าจะเป็น วิสเซล โกเบ หรือ โยโกฮาม่า มารินอส ที่ทำให้เขาถูกตีตราว่าเป็นนักเตะระดับแชมป์เจลีก ความคิดที่มีต่อฟุตบอลของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ตั้งแต่คัมแบ็คกลับมาค้าแข้งกับ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” เมื่อต้นปี 2022 เข้าเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเองชนิดไรเงานักเตะจอมเกรียน
ทุกย่างก้าวในสนามเต็มไปด้วยแพสชั่น ความกระหายของผู้ชนะ สปิริตแบบสุภาพบุรุษลูกหนัง
นอกสนามเป็นกันเองกับแฟนบอล ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ใช่ตัวตึงเหมือนในอดีต จนแฟนบอลต่างเข้าหา ทำให้เขามีแฟนคลับมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเด็ก, ผู้ชาย, ผู้หญิง ต่างอยากถ่ายรูปคู่กับเขา
ตอนนี้ “ธีราทร” เข้าขั้นนักเตะที่สมบูรณ์แบบของวงการฟุตบอลไทยในยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง
เป้าหมายต่อไปของทีมชาติไทย คือยกระดับไปสู่ระดับเอเชียให้ได้ ซึ่งนักเตะไทยต้องพยายามยกระดับให้อยู่ในระดับเดียวกันกับ “ธีราทร” ให้ได้
หากมาตรฐานนักเตะสูงขึ้น ความกระหายและแพสชั่นแห่งการเป็นผู้ชนะมีมากขึ้น เหมือน “ธีราทร” แสดงออกมา เจอทีมไหนรับรองเราสู้ได้หมด
หากทำได้ ศรัทธาแฟนบอลไทย กลับมาอบอุ่นอีกครั้งแน่นอน