1) ดาร์วิน นูนเญซ ลุ้นลงสนาม หลังจากที่ดาวยิงชาวอุรุกวัยกำลังทำผลงานได้เป็นอย่างดีในลีก 2 นัดหลังสุด เดอะค็อปก็ต้องเจอข่าวร้ายเมื่อ ดาร์วิน นูนเญซ มีอาการบาดเจ็บบริเวณไหล่จากจังหวะที่เข้าปะทะกับ คีแรน ทริปเปียร์ ล่าสุด ในเพรส คอนเฟอเรนซ์ก่อนเกม เจอร์เก้น คล็อปป์ พูดถึงความเป็นไปได้ที่หงส์แดงจะมีโอกาสได้ใช้งานกองหน้าผมยาวรายนี้ว่า "เขามีโอกาสลงเล่นได้ จากสถานการณ์ตอนนี้มันเป็นไปได้ แม้ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน แต่ไม่ใช่ในกรณีนี้ เราต้องรอดูว่าเขาจะสามารถรับมือกับอาการบาดเจ็บได้มากแค่ไหน เมื่อเรารู้แล้ว เราจะทำการตัดสินใจอีกที" นูนเญซ ถือว่าเป็นนักเตะที่ทำผลงานในถ้วยยุโรปค่อนข้างดี ในฤดูกาลนี้เขายิงให้ ลิเวอร์พูล ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ไป 3 ลูก เป็นรองแค่ โม ซาล่าห์ คนเดียวเท่านั้น โดยที่ 3 นัดหลังสุดในรอบแบ่งกลุ่มเขายิงได้ทุกนัด ไล่ตั้งแต่ เรนเจอร์ส, อาแจ๊กซ์ และ นาโปลี ดังนั้นจึงถือว่าการขาดเขาไปส่งผลต่อทีมในเกมรุกอย่างแน่นอน 2) แชมเปี้ยนส์ ลีก ตังจริงนัดแรกของ ไบจ์เซติก อีกเรื่องที่น่าจับตามองคือ หากไม่มีอะไรผิดพลาด สเตฟาน ไบจ์เซติก มีโอกาสสูงที่จะได้ลงตัวจริงในเกมคืนนี้ เพราะว่า 6 เกมหลังสุด ดาวเตะวัย 18 ปียึดพื้นที่ 11 คนแรกมาโดยตลอด ไบจ์เซติก ไม่เคยได้ลงเล่นในเกมยุโรปด้วยการออกสตาร์ตตัวจริงมาก่อน ดังนั้น นี่จะเป็นเกมแรกในชีวิตทันทีหากได้ออกสตาร์ตตัวจริง โดย 3 นัดในรอบคัดเลือกเขาเป็นสำรองล้วน มีโอกาสอยู่ในสนามทั้งหมด 23 นาที แท็คเกิ้ลชนะ 100%, จ่ายบอลสำเร็จ 10 ครั้ง แม่นยำ 91%, และได้ง้างเท้ายิงหนึ่งหน ซึ่งตรงกรอบเสียด้วย ด้วยฟอร์มที่กำลังเล่นดีและมีพัฒนาการโตเกินวัย มีโอกาสสูงที่ ไบจ์เซติก จะได้ลงเล่นเกมนี้ แม้ว่าคู่แข่งจะเป็น เรอัล มาดริด ก็ตาม 3) ซาล่าห์ จะทำสถิติเท่า เจอร์ราร์ด หากว่า ซาล่าห์ สามารถทำประตู เรอัล มาดริด ได้ในค่ำคืนนี้ เขาจะทำสถิติทาบเท่ากับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ถึงสองเรื่องเลยทีเดียว เรื่องแรกคือการเป็นนักเตะที่ยิงประตูให้ ลิเวอร์พูล มากที่สุดในฟุตบอลรายการยุโรป ที่ 41 ประตู ซึ่งในเวลานี้ ซาล่าห์ ซัลโวไปแล้ว 40 ประตูด้วยกัน ส่วนอีกสถิติคือการเป็นแข้งที่ยิงให้หงส์แดงในแอนฟิลด์มากที่สุดที่ 18 ลูก ซึ่งทั้งสองสถิตินี้มี เจอร์ราร์ด เป็นผู้นำทั้งสองสถิติ หาก ซาล่าห์ ทำได้ ก็จะถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งของทีมในถ้วยยุโรปได้้เลย 4) เปาจอมแจกจุดโทษ ผู้ตัดสินในเกมนี้คือ อิสต์วาน โควัค ชาวโรมาเนียครับ โดยที่ผ่านมาเขายังไม่เคยลงเป่าเกมของหงส์แดงเลยสักครั้งเดียว ตัวเลขที่น่าสนใจคือ เขาเป็นผู้ตัดสินที่ค่อนข้างเฮี้ยบและเป่าจุดโทษบ่อยที่สุดคนนึงในยุโรป โดยสถิติที่ผ่านมาเขานับตั้งแต่ฤดูกาลก่อน เขาเป่าจุดโทษไปทั้งสิ้น 37 ครั้งจาก 61 นัด และนับแค่ในปีนี้ก็เป่าไปแล้วมากถึง 18 จาก 21 นัดเลยทีเดียว ส่วน ลิเวอร์พูล เอง ไม่ได้จุดโทษมานานแล้วทั้งในลีกและในยุโรป ดังนั้น นี่จึงเป็นอีกเกมที่ต้องลุ้นว่าหวยจะออกฝั่งสีแดงหรือสีขาว เพราะจากสถิติมีแนวโน้มสูงมากที่เกมนี้จะมีจุดโทษจากผู้ตัดสินรายนี้
5) สถิติอันเช่ ข่ม คล็อปป์ ข้อสุดท้ายคือเรื่องที่แฟนหงส์อาจต้องหวาดหวั่นเล็กน้อย นั่นก็คือสถิติในการเจอกันของสองกุนซือชั้นเซียนก็คือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มักแพ้ทาง คาร์โล อันเชล็อตติ อยู่พอสมควร คล็อปป์ เจอ อันเช่ มาแล้วทั้งหมด 11 ครั้ง ชนะได้แค่ 3 ครั้ง เสมอ 3 และแพ้ไปถึง 5 นัด โดยหากยึดฟอร์มในช่วงหลังมานี้ ทั้งคู่้เจอกันในรอบชิงชนะเลิศฤดูกาลก่อน แล้ว คล็อปป์ ก็พ่ายไป 0-1 แบบหวุดหวิด แต่การเจอกันในครั้งนี้ ทีมของ อันเช่ จะขาดสองกองกลางตัวเก่งอย่าง โทนี่ โครส และ ออโรเลียง ชูอาเมนี่ จากอาการบาดเจ็บ แถมยังไม่มี คาเซมิโร่ ตัวเชื่อมเกมคนสำคัญที่ย้ายไปอยู่กับปีศาจแดงแล้ว แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวมันจะส่งผลเสียหายต่อทีมของ อันเชล็อตติ มากพอสมควร ที่จะต้องใช้ผู้เล่นสำรองอย่าง ดานี่ เซบายอส และ เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า ลงมาทดแทนเล่นร่วมกับ ลูก้า โมดริช ซึ่งมันจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง และจะเป็นการเปิดช่องให้กับ ลิเวอร์พูล ได้เล่นง่ายขึ้น ดัังนั้น นี่อาจเป็นเกมที่ คล็อปป์ จะพลิกเกมกลับมาเป็นผู้ชนะเหนือ อันเช่ ได้เช่นกัน
