ก่อนจะเป็น “โค้ชนาย” กฤษกร เกิดผล ขึ้นมารักษาการแทน ซึ่งเกมแรกในการคุมทีมยังไม่ดีขึ้น โดยบุกไปแพ้ คัสตอม ยูไนเต็ด 0-1 จนกลับมารวมพลังใจบุกไปเอาชนะ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 2-0 และออกไปเสมอกับ แพร่ ยูไนเต็ด 1-1 แบบมีประเด็นดราม่าพอประมาณในการเล่นของแข้งเจ้าบ้าน

แต่ให้หลังวันวาเลนไทน์ วันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา “เขี้ยวสมุทร” มีการปรับทัพอีกครั้ง ด้วยการดึง “โค้ชแมน”ธนา ชะนะบุตร กับ “โค้ชแมท” ปิยะชาติ ถามะพันธ์ เข้ามาผนึกกำลังกับ “โค้ชนาย” กฤษกร เกิดผล ซึ่งเป็นการรียูเนี่ยนของทั้ง 3 คน เพราะว่าพวกเขาเคยทำงานในทีม ราชประชา ด้วยกันมาเมื่อไม่นานนี้

การตัดสินใจปรับหมากครั้งนี้ส่วนหนึ่งมีรายงานว่า “เดอะบิ๊ก”สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ผู้บริหารของสโมสรสมุทรปราการ ซิตี้ ต้องการดึงศักยภาพของผู้เล่นออกมา และอดีตปีกจรวดทีมชาติไทย ก็เคยทำงานร่วมกันกับเขามาแล้วเมื่อ 8 ปีก่อนหน้านี้ที่สโมสรเพื่อนตำรวจ

ในซีซั่น 2015 เจ้าของฉายา “ซูเปอร์แมน” เป็นหนึ่งในแนวรุกคนสำคัญของ “สุภาพบุรุษโล่เงิน” โดย “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน กุนซือใหญ่ที่คุมทีมเวลานั้น จะใช้เขาต่อเมื่อสถานการณ์ของทีมต้องการประตูจากความเร็วริมเส้น ซึ่งเขาก็ไม่เคยทำให้แฟนบอลต้องผิดหวังกับศักยภาพในระดับเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย ณ เวลานั้น

ประกอบกับนิสัยที่เป็นคนขี้เล่น สนุกสนาน เป็นที่รักของเพื่อนร่วมทีมทุกคน แต่กลับกันก็มีมุมที่เป็นคนเงียบๆ และประสานงานกับผู้บริหารได้อย่างลงตัว ตลอดจนบุคลิกซื่อๆ ง่ายๆ สไตล์คนอีสาน นั่นทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในน้องรักของ “เดอะบิ๊ก”  ไปโดยปริยาย

ย้อนกลับไปในช่วงที่ทั้ง 3 โค้ช ได้ช่วยกันนำทัพ “ตราชฏา” ในแบบฉบับผลงานที่จับต้องได้จริงๆ จากผลงานรวมทุกถ้วย คือ 15 นัด ชนะ 7 เสมอ 5 แพ้ 3 เกมเท่านั้น เวลานั้นยังอยู่ในฟุตบอลถ้วย ลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ ขณะที่ไทยลีก 2 อยู่ที่ 8 ของตาราง มีลุ้นในกลุ่มเพลย์ออฟ

ขณะเดียวกันผลงานของ “โค้ชแมน” , “โค้ชแมท” และ “โค้ชนาย” ในเดือน ต.ค.ของช่วงปีก่อน หากจะนับรวมทุกถ้วย จัดว่าอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมทีเดียว เพราะชนะได้ทั้ง สุพรรณบุรี เอฟซี 1-0 (ไทยลีก 2, ห), ชนะ แพร่ 6-0 (เอฟเอ คัพ, ห), เสมอ ตราด เอฟซี 2-2 (ไทยลีก 2, ห)

 เสมอ ชัยนาท ฮอร์นบิล 1-1 (ไทยลีก 2, ย), ชนะ บ้านค่าย ยูไนเต็ด 1-0 (เอฟเอ คัพ, ย), ชนะ ระนอง ยูไนเต็ด 4-1 (ไทยลีก 2, ห) และ ชนะ อุดรธานี เอฟซี 1-0 (ไทยลีก 2, ย) โดยเป็นการชนะ 5 เสมอ 2 กด 16 ประตู เก็บ 4 คลีนชีต ก่อนที่ “โค้ชแมน” กับ “โค้ชแมตช์” จะขอยุติบทบาท

การลาออกครั้งนั้นด้วยเหตุจากทิศทางของสโมสรกับทางโค้ชคู่ศิษย์เก่ากรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย นั้นมีไม่ตรงกัน ทำให้พวกเขาเลือกจะกลับไปช่วยทีมเก่าอย่าง การท่าเรือ เอฟซี ซึ่ง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร เป็นผู้ติดต่อไปหาทั้งคู่โดยตรง

ทั้งสองคนเคยผ่านการลงเล่นในถิ่น แพท สเตเดี้ยม และเป็นนักเตะที่มีแฟนบอลให้การยอมรับไม่น้อย ก่อนจะแยกย้ายออกไปตามหาความฝัน ซึ่ง ธนา กลับบ้านไปที่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด พาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 1 ส่วน ปิยะชาติ  ก็ไปอยู่กับ อุบล ยูไนเต็ด

กลับมาว่าถึงการคัมแบ็คมาลุยงานครั้งนี้กับ สมุทรปราการ ซิตี้ ต้องยอมรับว่า 3 เกมที่ผ่านมา “โค้ชนาย” ได้วางรูปแบบการเล่นที่ “โค้ชแมน” ต้องการเอาไว้ให้กับนักเตะ “เขี้ยวสมุทร” แล้ว โดยเฉพาะขุมกำลังของทีมที่สดใหม่ บู๊ได้เกิน 90 นาที

11 เกมจากนี้ไปทัพ “เขี้ยวสมุทร” จะลงเล่นในบ้าน 6 นัด และเยือน 5 เกม เรียกได้ว่าเป็นงานชิ้นใหญ่ของ “ธนา ชะนะบุตร” และมือซ้ายขวาอย่าง “โค้ชแมท” กับ “โค้ชนาย” ที่จะต้องพาทีมหลุดจากโซนสีแดง เพื่อไปเกาะกลุ่มลุ้นเพลย์ออฟให้ได้ ตามเป้าหมายของทีม

อาทิตย์ที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา โค้ช 3 ประสานประเดิมเกมแรกต่อหน้าแฟนบอล สมุทรปราการซิตี้ ไปแล้วด้วยการเปิดบ้านพบกับ ระยอง เอฟซี ซึ่งผลออกมากระชากอารมณ์ด้วยการพ่ายขาดลอยถึง 0-4 และจะปิดท้ายเดือนแห่งความรักพาทีมออกไปบวกยับกับ นครศรี ยูไนเต็ด เต็งแชมป์ของไทยลีก 2 ที่ทุกคนมองว่าจะเลื่อนชั้นแบบไร้เทียมทาน

นี่คือภารกิจที่ “โค้ชแมน” แอนด์ เดอะ แกงค์ ต้องเจอ ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะผ่านพ้นไป

แต่หากพวกเขาสามารถทำได้ เชื่อว่าชื่อของทั้ง 3 คนนี้ จะถูกจับตามองในฐานะ 3 โค้ชรุ่นใหม่ของวงการฟุตบอลไทยต่อไปอย่างแน่นอน