ความมุ่งมั่นเกินขีดจำกัดของมาลาเซีย จากปากคำเทรนเนอร์
ซัมเมอร์ปี 2022 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดประกาศการเซ็นสัญญาแบ็คซ้ายโนเนมรายหนึ่งที่หลายคนไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน "ไทเรลล์ มาลาเซีย" จากที่ตอนแรกข่าวออกมาว่าเขากำลังจะย้ายไปอยู่กับสโมสรลียง ในฝรั่งเศสก่อนแล้ว แต่สุดท้ายก็หันหัวเรือกลับมาแมนยูไนเต็ด ณ ชั่วโมงสุดท้ายก่อนดีลจะเกิดขึ้นด้วยค่าตัวราว 12 ล้านปอนด์
มาลาเซียออกจากบ้านเกิดที่ร็อทเทอร์ดัมย้ายมาสู่เมืองแมนเชสเตอร์ในวัย 23 ปี เพราะเขารู้สึกว่านี่คือเวลาที่เขาต้องการจะท้าทายตัวเองกับพรีเมียร์์ลีกแล้ว ภายใต้การนำทีมของเอริค เทน ฮาก จึงเลือกตัดสินใจที่จะย้ายออกจากเฟเยนูร์ด ถิ่นที่เขาปักหลักมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ
สัมภาษณ์ครั้งนี้ได้พูดคุยกับคนสนิทของมาลาเซียรายหนึ่ง และเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวของไทเรลล์ด้วย เขาคือ Jordan Kroon ซึ่งเป็นเจ้าของยิม House of Champions ที่ร็อทเทอร์ดัม ซึ่งพ่อขอเขาเปิดยิมมายาวนานตั้งแต่ปี 1983 ก่อนที่หนุ่มวัย26ปีคนนี้จะถือกำเนิดขึ้นมาเสียอีก
จอร์แดนชอบที่จะผลักดันคนในดูแลของเขาให้ถึงขีดจำกัด ทำงานอยู่กับสายกีฬาที่มีความเข้มข้นเรื่องประสิทธิภาพในการเล่นสูงทุกๆชนิดกีฬาอย่างเช่นฟุตบอล ยูโด หรือคิกบ็อกซิ่ง และจอร์แดนก็เจอกับมาลาเซียในช่วงล็อคดาวน์ปี 2020 นั่นเอง
"ไทเรลล์เริ่มต้นในการทำงานร่วมกับผมตั้งแต่ช่วงฤดูโคโรน่าระบาด ในฮอลแลนด์ซีซั่นหยุดพักไปเลย ในอังกฤษผมคิดว่าพวกเขาน่าจะจัดการได้ แต่เราหยุดกันไปแล้ว เราไม่มีเกมลงเล่นน่าจะประมาณสี่เดือนเลยมั้ง เพราะงั้นเขาจึงพยายามหาอะไรเพื่อพัฒนาตัวเองในด้านชุดทักษะ ด้านความแข็งแกร่ง และสภาพร่างกาย รวมถึงจิตใจเพื่อการลงแข่งของเขา"
มาลาเซียก้าวกระโดดขึ้นมาในระยะเวลาอันสั้น และจอร์แดน โครน ก็มีส่วนสำคัญในเรื่องนั้นด้วย
"ในตอนนั้นเขาเป็นแบ็คซ้ายลำดับที่สามของเฟเยนูร์ดเลย เพราะงั้นเขาจึงไม่ค่อยได้ลงเล่นเท่าไหร่ เขาจึงต้องพัฒนาตัวเองมากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลหลักที่เขาเริ่มมาฝึกฝนกับผม"
นับตั้งแต่เริ่มต้นช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งคู่ก็เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ตอนที่มีบทสัมภาษณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นมาลาเซียก็ต้องเผชิญกับบททดสอบอยู่อย่างสม่ำเสมอในช่วงที่เขายังค้าแข้งอยู่ที่เนเธอร์แลนด์
และพอมาลาเซียย้ายทีม เทรนเนอร์ของเขารายนี้ก็ต้องแยกจากกัน แต่ทั้งคู่ยังคงติดต่อกันผ่าน WhatsApp เหมือนเดิม โดยจอร์แดน โครน กล่าวเอาไว้ในช่วงเดือนกันยายนว่า "ผมส่งโปรแกรมฝึกซ้อมให้กับเขา และเราติดต่อกันเป็นประจำทุกวัน ช่วงเย็นเราก็จะมาดูกันว่าการฝึกซ้อมเป็นยังไงบ้าง มีอะไรที่จะยกระดับดีขึ้นได้ไหม? ส่วนไหนดี ส่วนไหนพัฒนาขึ้นได้อีก"
"เขาก็ยังคงฝึกซ้อมของเขาอยู่ เขาเป็นเด็กหนุ่มที่อยากจะพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ อยากก้าวไปข้างหน้า ตัวเขามักจะทำงานหนักมากกว่าที่ผู้จัดการทีมได้ร้องขออยู่เสมอ"
หลังจากที่เขามาอยู่ในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดแล้วนั้น มาลาเซียได้แย่งตำแหน่งจากลุค ชอว์และกลายเป็นตัวเลือกแรกของเอริค เทน ฮาก ในตอนนั้น จอร์แดน โครนเชื่อว่ามันมาจากปริมาณการฝึกซ้อมของไทเรลล์ในสนามซ้อมเป็นหลัก
"ส่วนใหญ่เขาจะเป็นคนที่ออกจากสนามซ้อมเป็นคนสุดท้ายเสมอ รวมถึงในห้องแต่งตัวด้วย ช่วงเย็นของทุกวันเขามักจะโทรมาหาผมแล้วก็ถ่ายห้องแต่งตัวให้ดูว่าทุกคนไปหมดแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่ดีเลย"
เราจะได้เห็นทางโซเชียลมีเดียของสโมสรบ่อยๆว่ามาลาเซียมักจะปรากฏกายพร้อมกับรอยยิ้มบนหน้าอยู่เสมอ แสดงให้เห็นว่าเขารักสิ่งที่เขาทำมากขนาดไหน และเมื่อจอร์แดน โครน ถูกถามว่าให้อธิบายถึงมาลาเซียว่าเขาเป็นยังไงบ้าง เทรนเนอร์รายนี้ตอบดังนี้
"เขาไม่ใช่นักฟุตบอลประเภทที่ส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองเป็นแบบนั้น"
"เขาไม่ติดโซเชียล เขาทำอย่างอื่นมากกว่าอย่างเช่นอ่านหนังสือ และพัฒนาตัวเอง เขาเป็นตัวของเขาเอง คุณจะไม่เห็นเขาไปในร้านอาหารต่างๆ จะไม่เห็นเขาไปคลับหรืออะไรแบบนั้นแน่"
"เขาเป็นคนที่มีสมาธิมากๆ และรอคอยการลงเล่นในทุกๆเกม อยากจะพัฒนาการเล่นของตัวเองอยู่เสมอ และคิดในหัวว่าฉันจะเก่งขึ้นได้ยังไงบ้าง ตรงไหนที่ทำให้มันดีขึ้นได้อีก? พรุ่งนี้ควรต้องทำอะไร? ซ้อมครั้งต่อไปเมื่อไหร่? เขาเป็นคนเอาจริงเอาจังมากๆที่พยายามจะพัฒนาการเล่นให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา"
โครนพูดถึงคำว่า "พัฒนา" อยู่บ่อยครั้งเมื่อพูดถึงดาวเตะดัตช์รายนี้ ด้วยส่วนสูง 5ฟุต6นิ้ว ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งที่จอร์แดน โครน พยายามพัฒนาให้มาลาเซียอย่างมาก
"เราโฟกัสอยู่ที่ด้านการเคลื่อนไหวของเขาเป็นสำคัญ และเรื่องของสภาพร่างกายของเขาเพื่อให้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้เต็มที่ และให้แข็งแกร่งเพื่อมีจิตใจในการเล่นที่เข้มแข็งด้วย เพราะผมคิดว่าช่วงต้นของเขากับที่เฟเยนูร์ดเขายังไม่แกร่งพอ แต่เขามีความหิวกระหายในเกมมากเกินไปหน่อยเช่นกัน เพราะเป็นแบบนั้นเขาจึงเจอปัญหาใหญ่ๆมามากมาย เช่นเป็นคนทำเสียจุดโทษอะไรบ้าง เพราะงั้นเราต้องพัฒนาเรื่องจิตใจในการเล่นด้วยไม่ให้เขามีความหิวกระหายมากจนเกินไป แต่ก็ยังดุดันพอที่จะชนะการดวล 1 on 1 ในสนามได้
จากจุดนั้นผ่านมาสี่ปี มาลาเซียก็แก้ไขเอาชนะตัวเองได้สำเร็จ
อดีตดาวเตะเฟเยนูร์ดรายนี้มีความสุขกับหลายๆสิ่งที่เป็นเรื่องดีๆภายใต้สีเสื้อแดงของแมนยูไนเต็ด เช่นเกมเจอกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ เกมเจอลิเวอร์พูลที่ได้ดวลกับซาลาห์ในเกมที่ชนะคู่อริรายนี้ไป 2-1 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด
อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงเป็นช่วงเริ่มต้นสำหรับการค้าแข้งของมาลาเซียอยู่ดี ซึ่งจอร์แดน โครน เชื่อว่านักเตะรายนี้จะสามารถเล่นในระดับสูงสุดได้
"ผมคิดว่าเกมของฮอลแลนด์ที่เขาได้ลงสนามเจอกับเยอรมัน และเกมใหญ่ๆที่เจอมาในคอนเฟอเรนซ์ลีกเช่นเกมรอบรอง รอบชิง คุณจะได้เห็นว่าเขามีคุณภาพอย่างมากจริงๆ"
"ตัวอย่างที่ชัดเจนคือตอนที่เขาเจอกับซาเน่ในเกมพบกับเยอรมัน เขาสามารถจัดการคู่แข่งในระดับนั้นได้ ผมจึงคิดว่าเขาสามารถที่จะรับมือได้ไหวในจุดนั้น แต่กับพรีเมียร์ลีกเกมมากยากทุกเกมเลย สัปดาห์หนึ่งคุณจะต้องเจองานแบบนั้นถึงสองครั้งต่อวีค ตอนนี้เขาพิสูจน์แล้วว่าเขาทำได้"
ในฐานะเพื่อน จอร์แดน โครน กล่าวว่าเขาภูมิใจมากๆ และเชื่อว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
"จากแฟนบอล จากผู้ชมทุกๆคน คุณจะเห็นได้เสมอในทุกๆนัด สนามมักจะส่งเสียงฮือฮาทุกครั้งที่มีการเข้าแทคเกิล"
"สำหรับพวกเรามันเป็นการย้ายทีมครั้งใหญ่มากๆ นับตั้งแต่วันแรกผมรู้ว่าเขาจะทำได้ดีแน่นอน เพราะเขากระหายมากๆ และเขาก็โฟกัสอย่างมากว่าเขาสามารถที่จะลงเป็นตัวจริงได้"
ตอนที่มาลาเซียเซ็นสัญญาที่แคริงตันเรียบร้อยแล้ว โครนก็ไปปรากฏตัวที่นั่นด้วย ความรู้สึกที่ได้มาอยู่ที่สนามฝึกซ้อมของยูไนเต็ด เขาเล่าให้ฟังว่า
"คุณรู้ทุกอย่างได้เลยว่านี่เป็นสโมสรใหญ่มากๆ มีสิ่งแวดล้อมที่ดีในการจะกลายเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ และที่ดีขึ้นๆไปอีก เป็นประสบการณ์ที่ดีมากที่ได้เห็นสโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเวลาทำงานร่วมกันกับนักฟุตบอล เวลาเขาดูแลรักษาพยาบาลกัน และการดำเนินงานทุกๆอย่าง มันดีมากๆ"
ตอนที่เกิดบทสัมภาษณ์นี้ในช่วงเดือนกันยายน คือเวลาสองเดือนที่เขาได้ย้ายมาอยู่กับทีมในตอนนั้น จอร์แดนยังแทบไม่เชื่อสายตาว่าเพื่อนของเขาได้เล่นกับสโมสรที่ใหญ่ขนาดนี้
"มันเหลือเชื่อมาก ทุกเกมที่ผมนั่งดูผมภูมิใจมากเลย บางอย่างที่ผมยังคงไม่อยากจะเชื่อก็คือเขาอยู่ในห้องแต่งตัวเดียวกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ และกับนักเตะบิ๊กเนมต่างๆในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ เขานิ่งมากๆ และทำทุกอย่างเหมือนใช้ชีวิตในออฟฟิศปกติ มันสุดยอดจริงๆเวลาเห็นเขาก้าวออกมาที่โอลด์แทรฟฟอร์ด"
สำหรับเทรนเนอร์อย่างจอร์แดน โครน มาลาเซียคือหนึ่งในนักกีฬาที่ได้ชื่อว่าโปรไฟล์สูงมากคนหนึ่งที่เขาได้ร่วมทำงานด้วย มิดฟิลด์ของเฟเยนูร์ดอีกคนหนึ่งอย่าง Orkun Kokcu ก็คือผู้เล่นอีกคนที่มาฝึกซ้อมอยู่กับโครนเช่นกัน เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมงานในระดับสโมสรของทีมชาติตุรกีอีกหลายคน นอกจากนี้เขายังได้ทำงานกับอีกหนึ่งสุดยอดเซ็นเตอร์แบ็คของยุโรปอย่าง Stefan de Vrij อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีกองหลังเก่าของวิลล่าอย่าง Ron Vlaar, แชมป์ NBA อย่าง Francisco Elson และแชมป์มวยไทยของยุโรป แชมป์ K-1 อย่าง "จอมกบฏ (The Rebel)" Gokhan Saki ที่เคยมาฝึกกับเขา จอร์แดน โครนพูดทิ้งท้ายเอาไว้ว่า "ยังมีอีกเยอะ" และไทเรลล์ มาลาเซีย คือผลงานที่ประสบความสำเร็จที่สุดอีกคนหนึ่งของเขา
และในอนาคต "ไท" จะประสบความสำเร็จมากกว่าที่เขาจะจินตนาการได้อย่างแน่นอน
#BELIEVE
-ศาลาผี-
Reference