เนื่องจากผลงานที่ไม่เป็นไปตามหวัง ทำให้ทีมจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง และบอร์ดบริหารของสโมสรมองว่า "โค้ชบอย "เป็นแข้งที่มี DNA ของ “เดอะ แรบบิท” เข้มข้น เนื่องจากรับใช้สโมสรมาตั้งแต่ปี 2009 ก่อนแขวนสตั๊ด และเข้ารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้ฝึกสอน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ตั้งแต่ฤดูกาล 2018
จากนั้นก็ใช้เวลาช่วงที่ปิดลีกให้ ฟีฟ่า เดย์ ซ้อมอย่างเข้มข้น จนกระทั่งในเกมที่ 25 ของลีกสูงสุด เมื่อวันจันทร์ที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา พวกเขาบุกไปชนะ ลำปาง เอฟซี 1-0 จากลูกยิงในครึ่งหลังของ สเตนิโอ จูเนียร์ วันนี้เราไปดูกันว่าสาเหตุที่ช่วยให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กลับคืนฟอร์มอีกครั้ง มีอะไรกันบ้าง
เชื่อมั่นในตัวนักเตะและทีมสตาฟฟ์
หลังจากแขวนสตั๊ดเมื่อหมดฤดูกาล 2017 จนกลายเป็นตำนานเบอร์ 17 ของทีม เขามุ่งสายตรงไปทางอาชีพโค้ช จนเวลานี้มีดีกรี เอ ไลเซนส์ พร้อมๆ กันกับอดีตแข้งที่เคยผ่านไทยลีก อย่าง ภานุพงศ์ วงศ์ษา, ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น, ธงชัย สุขโกกี, พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี, เจษฎา จิตสวัสดิ์, ไกรเกียรติ คูณธนทรัพย์, ลักษณะ คำรื่น, ดักกลาส คาร์โดโซ่ เป็นต้น
ระหว่างนั้นที่เขายังทำงานเป็นทีมสตาฟฟ์ของ “เดอะ แรบบิท” และคอยดูแลน้องๆนักเตะในทีม ประกอบกับได้ร่วมงานกับกุนซือมากมาย ทั้ง ออเรลิโอ วิดมาร์ ที่ผ่านการคุมทีมชาติออสเตรเลีย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และ 23 ปี รวมทั้ง มาโกโตะ เทกุระโมริ ที่มีประสบการณ์ทำงานในทีมชาติญี่ปุ่นทั้งทีม ยู 23 รวมถึงชุดใหญ่ในฟุตบอลโลก 2018
จึงช่วยให้ "โค้ชบอย" มีความมั่นใจในการทำงานในแต่ละภาคส่วนของทีมงานสตาฟฟ์ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่อยู่หลังบ้าน หรือคนที่จะช่วยคอยวิเคราะห์คู่แข่ง เพื่อส่งต่อข้อมูลไปให้ แถมยังมี "โค้ชอ่ำ" อำนาจ แก้วเขียว กับ "โค้ชเบนซ์" พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ที่เคยเล่นด้วยกันมา ช่วยระดมสมองในคราวนี้อีกด้วย
ปรับระบบเกมรับมาเล่น “แบ็คโฟร์”
ในช่วงที่ มาโกโตะ เทกุระโมริ เข้ามาทำทีมตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว อดีตกุนซือที่พาทัพ “ซามูไรจูเนียร์” คว้าแชมป์ เอเอฟซี ยู-23 แชมเปี้ยนชิพ 2016 ที่ประเทศกาตาร์ ด้วยสถิติชนะคู่แข่ง 100 เปอร์เซ็นต์ มีการปรับเปลี่ยนแท็คติคมาใช้กองหลัง 4 คน ซึ่งมีระบบ 4-2-3-1, 4-3-3, 4-1-3-2 เรียกว่าเป็นการปรับหมากตามสถานการณ์ของเกม
ตอนนั้นเองที่นักเตะต่างเริ่มคุ้นเคยกับระบบการเล่นแบบนี้ ทว่าการบุกไปปราชัยให้กับ "แข้งเทพ" 0-2 ก่อนวันที่ 24 ต.ค. ทางสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ออกมาประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊คสโมสรถึงการแยกทางกับกุนซือชาวญี่ปุ่นรายนี้ ทำให้ แมตต์ สมิธ เข้ามาคุมทีมแทน และการกลับมาใช้แนวรับ 5 คน ทำให้นักเตะต้องมาปรับความเข้าใจกันใหม่หมด
ซึ่งผลงานก็ออกมาอย่างที่เห็น ไม่ชนะทีมใดรวมทุกถ้วย 5 เกมรวด จนถูกปลดออกจากตำแหน่ง และเป็น “โค้ชบอย” ที่เข้ามาแก้ไขในจุดนี้ เพราะเชื่อว่านักเตะเข้าใจเกมรับ “แบ็คโฟร์”มากกว่า กระทั่งในเกมที่บุกไปชนะ ลำปาง เอฟซี 1-0 ผู้เล่นทุกคนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเล่นแบบนี้แล้วออกมาเป็นธรรมชาติมากกว่าชัดเจน
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านโค้ช
หากไปไล่ดูไทม์ไลน์ในอาชีพโค้ช เขาอาจจะเคยผิดหวังในปี 2018 ที่ทีมร่วงตกชั้น แต่ก็อยู่ช่วยทีมจนคว้าแชมป์ลีกพระรอง 2019 ตามด้วยแชมป์ ไทยลีก 2020 โดยเป็นผู้ช่วยโค้ชที่อยู่ข้างกาย “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน ได้เก็บเกี่ยววิชาด้านกุนซือมามากมาย
กระทั่งได้รับความไว้ววางใจจากผู้บริหารของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ตอนนั้นยังเป็นพาร์ทเนอร์กับ ราชประชา ไปช่วยคุมทีมในไทยลีก 2 ฤดูกาล 2021/22 แล้วกลับมาอยู่ "เดอะ แรบบิท" ระหว่างนันเองที่เขาได้ประสบการณ์จากเทรนเนอร์หลายคน ทั้ง วิดมาร์ และ เทกุระโมริ
ประกอบกับการได้ร่ำเรียน เอ ไลเซนส์ ยิ่งทำให้เขาเก็บประสบการณ์ในด้านสายอาชีพโค้ชไปเพิ่มด้วย หากไปดูบรรดาเพจของแฟนบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ต่างให้การยอมรับอดีตแบ็คซ้ายที่เป็นตำนานของสโมสร เพราะมี DNA ของทีมที่แท้จริง จากการรับใช้ทีม "กระต่ายแก้ว" ไปทั้งสิ้นกว่า 200 นัด
ได้ใจผู้เล่นและสาวก “แรบบิท”
ในความเป็นพี่คนรองของทีม ต่อจาก “โค้ชอ่ำ” ที่เคยเป็นกัปตันให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มาก่อน ทำให้ “โค้ชบอย” มีความเข้าใจนักเตะ เนื่องจากผ่านยุคสมัยที่เคยต้องตกชั้น รวมทั้งความสำเร็จในการเป็นแชมป์ในไทยลีก 1-2 มาด้วยกันหมดแล้ว
นักเตะหลายคนมักจะได้รับคำปรึกษาที่ดีมากๆ จากอดีตแบ็คซ้ายรายนี้ ในยามที่เผชิญกับปัญหา เขาก็จะเป็นพี่กลุ่มแรกๆ ที่เข้าไปเทคแคร์แชร์ความรู้สึกบรรดาผู้เล่นในทีม เช่นเดียวกับความเป็นกันเองไม่ถือตัว ทำให้กลายเป็นที่รักในหมู่แฟนบอล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
วันที่ประกาศให้ “โค้ชบอย” ทำหน้าที่รักษาการกุนซือ แฟนบอลมากมายต่างเข้าไปแสดงคอมเมนต์ในเพจหลักของสโมสร ว่า นี่คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง พร้อมกับให้การสนับสนุนกับเจ้าตัว เป็นสิ่งยืนยันว่าเขาเป็นที่รักของสาวก “เดอะ แรบบิท” มากเพียงใด
จากนี้ไป บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เหลืออีก 5 เกมในไทยลีก 2022/23 ประกอบด้วย พบ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (ห) พบ สุโขทัย เอฟซี (ย), พบ ราชบุรี เอฟซี (ห), พบ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด (ย), พบ ชลบุรี เอฟซี (ห) และในถ้วย ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ เจอกับทัพ "ราชันมังกร" ที่สนามกลาง
มารอดูกันว่าสายเลือด DNA ที่แท้จริงอย่าง "โค้ชบอย" รวมทั้งอดีตนักเตะ "กระต่ายแก้ว" อย่าง มี "โค้ชอ่ำ" และ "โค้ชเบนซ์" ที่เคยเล่นด้วยกันมา จะสามารถปลุกความเป็น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กลับมาได้มากน้อยเพียงใด รวมถึงจะได้ถ้วยแชมป์ ลีก คัพ ที่พวกเขาไม่เคยสัมผัสได้หรือไม่
