:::     :::

เนมานย่า มาติช คีย์แมนสำคัญที่หลายคนมองข้ามในทีม โรม่า

วันศุกร์ที่ 21 เมษายน 2566 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
610
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มีนักเตะแค่ 2 คนเท่านั้นที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เคยร่วมงานมากถึง 3 ครั้งจาก 3 สโมสร

คนแรกคือ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ที่เล่นให้จ่ามูตั้งแต่ ปอร์โต้, เชลซี และ เรอัล มาดริด ส่วนอีกคนคือ เนมานย่า มาติช กองกลางตัวรับชาวเซอร์เบีย ซึ่ง มูรินโญ่ ตามตัวมาเล่นให้ทั้งตอนคุม เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และล่าสุดที่ โรม่า 


เนมานย่า มาติช จริง ๆ อยู่กับ เชลซี ครั้งแรกในปี 2009 โดยในตอนนั้นเป็นยุคสมัยของ คาร์โล อันเชล็อตติ ซึ่งตัวเขาเองนั้นย้ายจาก โคซิเซ่ สโมสรเล็ก ๆในลีกสโลวะเกียมาด้วยค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์เท่านั้น และแน่นอนว่าเขาแทบไม่ได้รับความสนใจอะไรมากนัก เพราะนอกจากโนเนมแล้ว ยังเป็นแค่ดาวรุ่งที่สิงห์บูลส์ดึงมาสะสมไว้ในทีม ไม่ต่างกับแข้งดาวรุ่งคนอื่นในทีมที่เจอสถานะเดียวกัน


มาติช เบียดขึ้นชุดใหญ่ไม่สำเร็จ เขาลงสนามให้ทีมไปแค่ 3 นัด ถูกปล่อยยืมไปเล่นในฮอลแลนด์ 1 ปี ก่อนจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในดีลของ ดาวิด ลุยซ์ ที่ เชลซี พ่วงไปในปี 2011


มาติช ไปแจ้งเกิดเต็มตัวที่ เบนฟิก้า ด้วยการลงสนามมากถึง 99 นัด ยิงได้ 9 ประตู พาเหยี่ยวลิสบอนคว้าแชมป์ลีกกับแชมป์บอลถ้วยได้อย่างละสมัย ก่อนที่ในปี 2014 จะได้รีเทิร์นมาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้ง จากการให้โอกาสของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่รีเทิร์นมาคุมทัพรอบสองเช่นกัน


มูรินโญ่ รีเควสต์ มาติช ด้วยตัวเอง เขายอมทุ่มเงินกว่า 21 ล้านปอนด์เพื่อนำตัวนักเตะคนนี้เข้ามาสู่ทีม พร้อมมอบสัญญายาวถึง 5 ปี อันเป็นการการันตีเลยว่า นี่คือนักเตะที่เขาอยากใช้งานจริง ๆ 




มาติช ทำผลงานในสีเสื้อสิงห์บลูส์ได้อย่างไร้ที่ติ เขาเป็นกองกลางตัวรับที่ทำหน้าที่ตัดเกมให้ทีมของ มูรินโญ่ อย่างไม่ต้องสั่งการอะไรมากมาย เขาเสมือนมือขวาของจ่ามูในสนาม คอยบัญชาการเกม กำหนดทิศทางจากแนวลึก จนมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลแรกที่ย้ายมาอีกด้วย


มาติช คว้าแชมป์ลีกร่วมกับ เชลซี ทั้งหมด 2 ครั้ง โดยได้ในยุค มูรินโญ่ กับ คอนเต้ ซึ่ง 4 ฤดูกาลที่เขาเล่นให้ทีม มาติช ลงสนามไป 151 นัด ยิงได้ 7 ประตู ก่อนจะถูก โชเซ่ มูรินโญ่ ตามตัวไปร่วมทัพอีกครั้งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  


มูรินโญ่ เข้ามาคุม แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2016 และเขาก็พยายามจะเอา มาติช มาอยู่ในทีมของเขาตลอด เพียงแต่ว่านักเตะยังไม่อยากย้าย ก่อนจะยอมใจอ่อนตอนซัมเมอร์ปี 2017 ซึ่ง มาติช มีค่าตัวสูงถึง 40 ล้านปอนด์เลยทีเดียว


"เขาเป็นกองกลางที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในยุโรป ทุกคนเห็นกันมาแล้วกับผลงานของเขาที่ เชลซี และผมอยากได้เขามาทำงานให้ผมอีกครั้งที่ ยูไนเต็ด เขาเป็นกองกลางตัวรับที่ทีมต้องการและขาดหายไป" มูรินโญ่ ให้สัมภาษณ์กับสื่อ หลังถูกถามว่าทำไมถึงต้องเป็น มาติช 


จ่ามู กับ มาติช ร่วมงานกันในรั้วโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แค่ปีครึ่งเท่านั้น ก่อนที่จ่ามูจะถูกเนรเทศไปในเดือนธันวาคมปี 2018 และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทั้งสองคนก็ไม่ได้ร่วมงานกันอีกเลย


มูรินโญ่ ไปคุม สเปอร์ส ส่วน มาติช เองก็ทำหน้าที่ของตัวเองต่อในทีมปีศาจแดง เขาเป็นหนึ่งในแข้งซีเนียร์ที่แฟนบอลรัก เพราะนอกจากจะทำผลงานได้ดีมาตลอดแล้ว นอกสนามยังไม่เคยสร้างปัญหาอะไรให้ทีมเลย หนำซ้ำยังเป็นคนที่ปกป้องภาพลักษณ์ของสโมสรด้วยการให้สัมภาษณ์ที่ฉลาดอยู่เสมอมา


อย่างในช่วงหนึ่งที่มีข่าวว่านักเตะในทีมเอาแต่ยิ้มเฮฮากันในห้องแต่งตัว ทั้งที่ผลงานแย่ เขาก็ตอบในเชิงบวกว่า ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับผลการแข่งขัน บางครั้งที่มีภาพว่านักเตะบางคนยิ้มแย้มอาจเป็นแค่บางช่วงจังหวะที่เกิดขึ้น วันไหนที่ผลงานแย่ จริง ๆ แล้วในห้องแต่งตัวเงียบมากแทบไม่มีใครพูดอะไรเลย มันเป็นการตอบคำถามแบบไม่อยากเอาเรื่องภายในมาฉายให้คนภายนอกรู้ ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยที่แสดงออกถึงความเป็นซีเนียร์ที่ดีของ มาติช 


ด้วยวัยที่เพิ่มมากขึ้น มาติช อาจลงสนามน้อยในช่วงหลัง แต่ทุกครั้งที่ลงสนามเขาก็ยังแสดงให้เห็นถึงคลาสที่เหนือชั้นอยู่เสมอ เขาเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่เชิงบอลดี มีการเอาตัวรอดและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เยี่ยม เขาวางตัวน่าเคารพ พูดน้อย ไม่ชอบโซเชี่ยล เน้นการทำงานให้เต็มที่ ซ้อมให้หนัก เล่นให้สุดพลัง คุณสมบัติเหล่านี้นี่แหละครับที่ทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ ชื่นชอบมากจนหาโอกาสดึงตัวไปร่วมทีมทั้งตอนคุม สเปอร์ส แต่ไม่สำเร็จ และล่าสุดที่ โรม่า ก็ยังเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามหาอยู่ตลอด


ฝั่ง มาติช เองก็เคยให้สัมภาษณ์ถึงเจ้านายคนนี้ว่าเป็นกุนซือที่ดีที่สุดที่เขาเคยร่วมงานมาเลย


"โชเซ่ เป็นโค้ชที่เก่งที่สุดที่ผมเคยทำงานด้วย แม้ว่าบางครั้งการทำงานกับเขาไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะเขาจะร้องเราขอมากกว่าที่เราทำได้อยู่เสมอ เช่นคุณคิดว่าคุณเล่นได้ดีมาก ๆ แล้ว แต่เขาจะบอกว่าคุณต้องเล่นได้ดีกว่านี้อีกในเกมต่อ ๆ ไป" 


"เขามีบุคลิกแตกต่างจากที่ทุกคนคิด เวลาอยู่กับนักเตะหรือเวลาส่วนตัว เขาไม่ได้เป็นคนที่เย็นชาหรือก้าวร้าวอย่างที่ออกสื่อ เขาพยายามสร้างทีมที่มีแต่ผู้เล่นชั้นยอดพร้อมด้วยศักยภาพที่สมบูรณ์แบบในทุกส่วน ดังนั้นเขาจึงเรียกร้องจากเรามากขึ้นในทุก ๆ วัน"




มาติช เล่นได้ดีกว่านักเตะอายุน้อย ๆ ในทีมปีศาจแดงหลายคนด้วยซ้ำ เขาถูกยกให้เป็นซีเนียร์ที่มีบทบาทสำคัญในทีมร่วมกับ โรนัลโด้, ดาบิด เด เคอา และ ฆวน มาต้า ซึ่งในหลายครั้งพวกเขาเหล่านี้เป็นตัวแบกทีมเอาไว้ในเกมนัดสำคัญ แม้ว่า มาติช จะเป็นแค่อะไหล่ข้างสนาม แต่เขาก็เป็นอะไหล่ชิ้นพรีเมียมที่พร้อมสร้างความแตกต่างตรงกลางได้เสมอ


ด้วยวัยที่เพิ่มมากขึ้น มาติช ประกาศอำลาสโมสรในช่วงเดือนเมษายน โดยเป็นการยุติสัญญาด้วยดีจากทั้งสองฝ่าย


"หลังจากครุ่นคิดอย่างหนัก ผมได้ตัดสินใจว่าฤดูกาลนี้จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของผมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมได้แจ้งให้บอร์ดบริหาร ผู้จัดการทีม และเพื่อนร่วมทีมได้ทราบถึงการตัดสินใจของผมแล้ว" 


"นับว่าเป็นเกียรติอย่างมากและเป็นสิทธิพิเศษซึ่งได้เล่นให้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ ขอขอบคุณแฟน ๆ ที่ให้การสนับสนุนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ตอนนี้ผมจะทำทุกอย่างจนถึงสิ้นสุดฤดูกาล เพื่อช่วยให้เพื่อนร่วมทีมของผมจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ที่สุด"


แฟน แมนฯ ยูไนเต็ด รู้สึกใจหายกับการตัดสินใจของเขาพอสมควร แม้ว่าอาจเป็นแค่ข่าวเล็ก ๆ เพราะปัจจุบัน มาติช ก็อายุปาเข้าไป 33 ปีแล้ว แม้หลายคนจะเสียดาย แต่ว่าด้วยเงื่อนไขของอายุที่เพิ่มมากขึ้น การไปอยู่ทีมอื่นน่าจะช่วยให้เขาได้ลงเล่นมากกว่านี้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่เขาต้องการ 


เมื่อเขาประกาศแยกกับปีศาจแดง แน่นอนว่า โชเซ่ มูรินโญ่ นายเก่าของเขาที่ปัจจุบันนี้คุม โรม่า อยู่ จึงไม่รอช้า รีบติดต่อทาบทามตัวให้มาร่วมงานกันอีกครั้งอย่างไม่รีรอ 


เมื่อจบฤดูกาล หลังจากเคลียร์ทุกอย่างเสร็จสิ้น มาติช จึงได้ตกลงเซ็นสัญญากับ โรม่า โดยได้สัญญาระยะสั้นหนึ่งปี และใส่เสื้อเบอร์ 8 ลงเล่น


"ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมสโมสรแห่งนี้ ผมไม่รอที่จะเริ่มต้นฤดูกาลใหม่กับเพื่อนร่วมทีมใหม่อย่างใจจดใจจ่อ" 


"โรม่า คือสโมสรใหญ่ที่มีแฟนบอลที่น่าทึ่ง และโค้ชของเราอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ผมก็รู้จักดีทำให้การตัดสินใจมาที่นี่ง่ายดายมาก ผมหวังว่าการทำงานร่วมกันครั้งนี้ เราจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ร่วมกันได้อีกครั้ง"


มาติช กับ มูรินโญ่ ถือว่าเป็นการร่วมงานกันครั้งที่ 3 ใน 3 สโมสร โดยผลงานที่ โรม่า ในฤดูกาลนี้ มาติช ลงเล่นในถ้วยยุโรปครบทั้ง 10 นัด ส่วนในลีกก็ลงเล่นไปมากถึง 29 นัด ยิงได้ 1 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ แถมยังแท็คเกิ้ลชนะถึง 22 ครั้งและสร้างโอกาสอีก 19 ครั้ง


มูรินโญ่ บอกว่า มาติช คือคนสำคัญของทีมและเป็นคนที่ช่วยเติมเต็มแดนกลางของทีมอย่างไม่น่าเชื่อ 


เนมานย่า มาติช คือของฟรีประจำซัมเมอร์ที่คุ้มค่าไม่แพ้ เปาโล ดีบาล่า เลยทีเดียว




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด