:::     :::

เบื้องหลังสำคัญของ "ซน ฮึง มิน"

วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,192
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
กลายเป็นนักเตะที่หลายคนยกย่องว่า เก่งสุดของเอเชีย ในยุคนี้

สำหรับ ซน ฮึง มิน” ดาวเตะของสโมสรสเปอร์ส ที่สถาปนาตัวเอง จนกลายมาเป็นนักเตะระดับโลกอย่างน่าชื่นชม ทั้งฟอร์มการเล่นส่วนตัว และการยกระดับของฝีเท้า ทำให้หลายคนมองว่า นี่คือนักเตะสายเลือดเอเชีย ที่มีความแตกต่าง จากที่เคยมีมาเลยทีเดียว


ช่วงนี้ เราลองย้อนกลับไปดูปูมหลังของเขากันหน่อย เกี่ยวกับบุคคลสำคัญ ที่ช่วยผลักดัน และหล่อหลอม จนทำให้เขากลายมาเป็นนักเตะระดับพรีเมียร์ลีก และทีมชาติเกาหลีใต้ชุดใหญ่ 

"ท่านเป็นทั้งเพื่อน, ครู และโค้ช พร้อมกับทำหน้าที่คุณพ่อนอกสนามฟุตบอลด้วย"


ซน ฮึง มิน ดาวเตะของทัพ “ไก่เดือยทอง” ออกมากล่าวถึงพ่อของเขาอย่าง ซน วุง จุน ที่รับหน้าที่คอยฝึกสอนการเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่จำความได้ 


เรื่องราวที่น่าแปลกคือ พ่อไม่ยอมฝากอนาคตของลูกไว้กับอะคาเดมี่ต่างๆ พร้อมกับคอยลงแรงสอนลูกทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยง, การยิง, การจ่าย และการสัมผัสบอล ตลอดจนเบสิคพื้นฐานต่างๆ 


พ่อมีความหวังลึกๆ อยากเห็นลูกเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เป็นการเติมเต็มความฝันแทนเขา ที่ต้องจบเส้นทางลูกหนังอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลมาจากอาการบาดเจ็บ แม้ต้องแลกมาด้วยการเคี่ยวเข็ญลูกอย่างหนัก 


นอกจากการเน้นการฝึกซ้อมที่ว่า ลูกต้องใช้เท้าขวา และซ้ายได้ดีพอกัน ผ่านการสัมผัสบอลนับร้อยนับพันครั้งแล้ว ยังมีการออกแบบโปรแกรมออกกำลังกายอย่างเข้มงวดรวมถึงโภชนาการที่เน้นข้าว และนมเป็นหลักด้วย

”ผมยังจดจำคำถามแรก สมัยที่ยังเป็นเด็กที่ประเทศเกาหลีใต้ พ่อถามผมว่า -ลูกอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพหรือไม่ ?-" ซน เล่าถึงพ่อตัวเอง ที่แม้อยากเห็นเขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่ก็ไม่ลืมถามความสมัครใจของลูกด้วยเช่นเดียวกัน


"ฟุตบอลอยู่ในสายเลือดของผม ผมเรียนรู้การเดิน จากนั้น ผมเริ่มเห็นลูกฟุตบอล และเตะมัน ย้อนไปตอนที่ยังเป็นเด็ก ผมไม่สนใจเกมคอมพิวเตอร์ หรือของเล่นที่เป็นรถแข่งเลย”


“ผมสนใจแค่ฟุตบอลเท่านั้น ผมมั่นใจแบบร้อยเปอร์เซนต์เต็มว่า ผมต้องการเล่นฟุตบอลระดับอาชีพ"


"พ่อพูดเสมอว่า -ลูกแน่ใจนะ ? ลูกเข้าใจมันดีหรือเปล่า ?- พ่อบอกผมว่า การเป็นนักฟุตบอลเป็นเรื่องที่ยากลำบาก มันต้องอาศัยร่างกาย และจิตใจ ผมบอกว่ามันไม่สำคัญหรอก ผมสามารถเล่นฟุตบอลได้ และจะทำให้ทุกคนมีความสุข หากไม่มีพ่อ ผมคงไม่มีวันได้มายืนตรงนี้"

ซน กล่าวต่อว่า “พ่อช่วยผมในเรื่องของทัศนคติ พร้อมกับหนุนหลังผมในหลายอย่าง พ่ออาศัยอยู่ด้วยกันกับผม และเดินทางมาชมเกมเหย้าทุกนัด (พ่อ และซน จะเลือกที่พักที่อยู่ใกล้กับสนามฝึกซ้อมเสมอ)”


“หลังจากจบเกม เราจะมาพูดคุยกันเรื่องของจุดบกพร่อง รวมถึงมุมมองเชิงบวก ที่เราสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้"


"ตอนสมัยพ่อยังเป็นนักเตะ บุนเดสลีกา ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศเกาหลีใต้ มากกว่าพรีเมียร์ลีก เสียอีก พ่อดูฟุตบอลลีกของเยอรมัน และมีความฝันอยากไปเล่นที่นั่นด้วย"


"เมื่อผมเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังที่เยอรมัน (สโมสรฮัมบูร์ก) พ่อบอกกับผมตลอดว่า -นี่คือความฝันของเราเลย นั่นคือการเล่นในยุโรปยังไงล่ะ- ตอนนี้ ผมยังไม่ได้เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดหรอก แต่ผมยังต้องการเติมเต็มความฝันของพ่อ ด้วยการมาเล่นที่นี่"


ขณะที่คุณพ่อ ออกมาเล่าบ้างว่า "ผมไม่อนุญาตให้ลูกชายลงเล่นลีกฟุตบอล จนกระทั่งอายุถึง 16 ขวบ ช่วงเวลานั้น ผมสอนเขาถึงเรื่องของเบสิคเพียงอย่างเดียว เป็นเวลา 6 ชั่วโมงต่อวัน”


“มันเป็นแบบนี้ตลอด และไม่มีวันหยุด เพราะผมไม่อยากเห็นลูกชายต้องมีจุดจบในเส้นทางลูกหนัง เหมือนกับที่ผมเคยประสบมา"


วันนี้ ซน วุง จุน คงมีความสุขมากว่า ลูกชายคนนี้สามารถเติมเต็มความฝันของเขาได้แล้ว และความฝันนั้น ดูเหมือนไกลกว่าที่เคยวาดเอาไว้เสียด้วย

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด