:::     :::

ใช้ (เอ็นกุน) กูให้เป็น...

วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2566 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
768
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ความรักที่มีต่อ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู บนเนินเขาแซกโซนี่ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของ ไลป์ซิก ถึงขั้นบรรยายถึงความเสียใจจนน้ำตาไหลพรากทันทีที่เขาจากไป

สื่ออย่าง Leipziger Volkszeitung ได้เขียนบล็อกที่พรั่งพรูรายละเอียดในการอำลาของเขาว่า 'ชายผู้ถ่อมตัวและเป็นมิตรเสมอ' คือ 'ผู้เล่นที่ดีที่สุด' ที่เคยประดับสีสันให้กับสโมสรที่กล้าหาญของเมือง

มันยากสำหรับพวกเขาที่จะไม่เสียดายหลังจากที่ เชลซี ยืนยันการมาถึงของเขาที่รอคอยมานานด้วยค่าตัว 53 ล้านปอนด์ ในสัญญา 6 ปี ดาวเตะวัย 25 ปี เซ็นสัญญาล่วงหน้ากับ เชลซี มาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล 2022-23 แล้ว แต่เขาก็ยังโชว์ความเป็นมืออาชีพให้กับ ไลป์ซิก เหมือนเดิม แม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนในเดือนสุดท้ายที่เยอรมันก็ตาม

นี่คือชายที่เลี้ยงบอลราวกับนักเล่นกล ชายที่เริงระบำไปรอบๆ ผู้รักษาประตู คนที่เล่นลูกฟรีคิกได้อย่างสนุกสนาน มีความเร็วที่เหมือนระเบิดเวลา และหาพื้นที่ว่างได้เก่งมาก

ตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาทำได้ 58 ประตู และ 29 แอสซิสต์ ในการเล่นท้ัง 4 บทบาทของแดนหน้า เปอร์เซ็นต์การเลี้ยงบอลที่ประสบความสำเร็จของเขาอยู่ในกลุ่มที่ดีที่สุดของบุนเดสลีกาเลย

ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะเคยถูกโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของบุนเดสลีกา ซีซั่น 2021-22 โดยเอาชนะ เออร์ลิง อาแลนด์ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

หลังเริ่มต้นอาชีพในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ดาวเตะเฟร้นช์แมนดูเหมือนจะยอดเยี่ยมที่สุดในบทบาทเบอร์ 10 กองหน้าตัวที่สอง หรือตรงปีกซ้าย

อันที่จริง เขาเคยบอกกับ ฟุตบอล เมเนเจอร์ เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาว่า "ผมรู้สึกว่าการเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกคือตำแหน่งที่เหมาะกับผมมาก ผมชอบอยู่ใกล้ประตู และอยู่หลังกองหน้า บทบาทนี้อธิบายตัวผมในฐานะผู้เล่นได้เป็นอย่างดี ผมชอบเล่นตรงนี้มาตลอด"

โลร็องต์ บล็องก์ เคยพูดถึงความง่ายในเทคนิคของเขาตอนที่ เอ็นกุนกู ก้าวขึ้นมายังทีมชุดใหญ่ของ เปแอสเช โดยโค้ชจากแกลร์กฟงแตน สังเกตุเห็นวิสัยทัศน์ของเกม และความฉลาดในการเล่นแม้ว่าเขาจะมีรูปร่างเล็กก็ตาม

อัตราส่วนประตูต่อนาทีของเขาในฤดูกาล 2022-23 มีเพียง เอริก มักซิม ชูโป-โมติง ของ บาเยิร์น มิวนิค ที่ดีกว่าเท่านั้น ในขณะที่ เอ็นกุนกู ก็คว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดร่วมของลีกแม้จะมีอาการบาดเจ็บถึง 4 ครั้งตลอดทั้งฤดูกาลก็ตาม

ความสม่ำเสมอในระดับนี้ทำให้เขามีโอกาสมากเหลือเกินที่จะได้ฝึกท่าฉลองที่เป็นเอกลักษณ์คือการเอาลูกโป่งออกจากถุงเท้าขึ้นมาเป่า

ด้วยความสามารถที่หลากหลายในการปรับตัว เอ็นกุนกู น่าจะเข้าได้ดีกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่สร้างไดนามิกจากผู้เล่นหมายเลข 10 ซึ่งเคยได้จาก เดเล่ อัลลี่ โดยดาวเตะชาวฝรั่งเศสอาจกลายเป็นจุดศูนย์กลางเกมรุกท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ห่อหุ้มทีมอยู่

แต่แฟนๆ เชลซี ก็อาจมีกังวลกับตัวรุกโปรไฟล์เยี่ยมที่มาจากบุนเดสลีกาได้เหมือนกัน

หากตัด เออร์ลิง ฮาแลนด์ ออกไป ทั้ง ทิโม แวร์เนอร์ หรือ ไค ฮาแวร์ตซ์ หรือ คริสเตียน พูลิซิช หรือ เจดอน ซานโช่ ที่ตอนนี้อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถแจ้งเกิดในอังกฤษได้เหมือนกับที่เขาทำได้ในเยอรมันเลย และ เอ็นกุนกู ก็ไม่ใช่กองหน้าแบบธรรมชาติ

ในรายของ แวร์เนอร์ นี่ชัดเจนที่สุด เขามายังถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยสถิติโคตรโหดทำไป 95 ประตูตลอด 4 ปี แต่เราทุกคนก็รู้กันดีว่าบทสรุปของเขาในพรีเมียร์ลีกเป็นอย่างไร

สิงห์บลูส์ ควรใช้ เอ็นกุนกู ให้ถูกต้อง การวางใจให้เขาเป็นผู้เล่นเบอร์ 9 มันอาจจะเสี่ยง แม้ว่าเขาจะทำได้ดีตอนไปเล่นตรงนั้น แต่เขาก็มีประสบการณ์ในตำแหน่งยนี้น้อยกว่ากองกลางตัวรุกที่เขาชื่นชอบ

เชลซี ยังคงต้องหากองหน้าดาวเด่นมาประจำการให้ได้ ซึ่งจะเป็นคนที่ เอ็นกุนกู สามารถสนับสนุน และเล่นร่วมกันได้

ทางออกที่ดีที่สุดของ โปเช็ตติโน่ คือการที่น่าจะเล่นเขาเล่นเป็นเบอร์ 10 หรือไม่ก็ปีกซ้าย ซึ่งเขาจะสามารถเลี้ยงตัดเข้ากลางและสร้างความหายนะให้คู่แข่งด้วยเท้าขวา แต่ถ้าเป็นอย่างหลังก็หมายถึงการยอมรับว่าพวกเขาล้มเหลวในดีลของ มิไคโล่ มูดริค

สิ่งนี้ไม่ได้เป็นการบ่อนทำลายศักยภาพของ เอ็นกุนกู ในตำแหน่งที่โดดเด่น เขาผลิดอกออกผลมา 2 ปีแล้ว เขาสามารถทำลายล้างคู่ต่อสู้ในเกมสวนกลับด้วยสปีดอันจัดจ้าน แต่เขาจะทำได้ดีที่สุดก็ต้องพึ่งคนอื่นๆ ที่พร้อมช่วยเหลือด้วยไม่ว่าจะเป็นการดึงกองหลังให้ออกจากตำแหน่ง หรือสร้างความกังวลใจให้กับแนวรับเหล่านั้น

แต่การไปเล่นในระบบของ โปเช็ตติโน่ ก็อาจมีข้อสงสัยอยู่เหมือนกัน ทั้ง เซาธ์แฮมป์ตัน และ สเปอร์ส ของ พอช นั้นโดดเด่นด้วยการวิ่งไม่มีหมด

ต้องยอมรับว่านั่นไม่ใช่แนวทางของ ไลป์ซิก เลย สโมสรเป็นทีมที่คัฟเวอร์พื้นที่ได้น้อยที่สุดในบุนเดสลีกา และ เอ็นกุนกู ก็เฉลี่ยวิ่งได้น้อยกว่า 9 กม. ต่อเกมตลอดช่วง 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของพรีเมียร์ลีกอย่างน้อยถึง 1 กม. เลยทีเดียว

เมื่อเทียบกับผู้เล่นบุนเดสลีกาคนอื่นๆ ในตำแหน่งของเขา เขามีเปอร์เซ็นต์เข้าปะทะ, วิ่งไล่แย่งบอล และบล็อคน้อยที่สุด ซึ่งบ่งบอกถึงเกมรับที่ยังเป็นจุดบอดของเขา

แต่เขาก็พร้อมจะเสนอสิ่งที่ โปเช็ตติโน่ โหยหาคือการเป็นผู้เล่นเกมใหญ่

แฮตทริกในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกในเกมแพ้ แมนฯ ซิตี้ 3-6 เมื่อเดือนกันยายน ปี 2021 ทำให้เขาเป็นที่รู้จักทั่วยุโรปในฐานะคนที่เป็นแสงสว่างยามที่เพื่อนร่วมทีมกำลังพบกับความยากลำบาก โดยในปี 2021-22 เขาทำประตูไป 11 จาก 12 นัดในฟุตบอลยุโรป

ขณะที่ดาวเตะซึ่งติดทีมชาติฝรั่งเศสไปแล้ว10 นัด ได้นำชัยชนะมาสู่ ไลป์ซิก โดยทำประตูในนัดชิงบอลถ้วยในประเทศ 2 ปีติดต่อกันให้พวกเขาคว้าแชมป์มาครองได้

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาฉุดดึงสโมสรให้ก้าวหน้าขึ้นตลอด 4 ปีที่นั่น และ บาเยิร์น ก็มักจะเป็นเหยื่อของเขา โดยถูกเขายิงไปรวม 8 ประตู

ดังนั้น การเฝ้าดู เอ็นกุนกู ที่ เชลซี จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก เพราะยุคของเขาในเยอรมันเป็นช่วงที่เขาเติบโตขึ้นมา มีความเป็นผู้ใหญ่กับทั้งตัวเขาเองและสโมสร

"ผมพัฒนาในฐานะนักฟุตบอลที่นี่ แต่มันก็ยังรวมถึงเรื่องนอกสนามด้วย ผมกลางเป็นพ่อคนที่นี่" เขากล่าว

"สำหรับแฟนๆ มันยากสำหรับผมที่จะหาคำพูดที่เหมาะสมสำหรับสิ่งที่ผมคิดและรู้สึก แต่ผมอยากจะขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ เพราะหากไม่มีคุณ ผมคงไม่มีทางประสบความสำเร็จอย่างที่ผมได้รับจากที่นี่"

จากนี้ไปสแตมฟอร์ด บริดจ์ คือบททดสอบที่แท้จริง ในไม่ช้าเราจะได้รู้กันว่าการทิ้มคอมฟอร์ตโซนเพื่อเส้นทางพิสูจน์ตัวเองที่ยิ่งใหญ่กว่าของเขาจะได้ผลหรือไม่


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด