แถมเป็นการบินไปไกลกว่าแข้งไทยคนอื่น ๆ หลังเตรียมสวมยูนิฟอร์ม เลสเตอร์ ซิตี้ ช่วยทัพจิ้งจอกในศึก เดอะ แชมเปียนส์ชิพ
การไปของ ศุภณัฏฐ์ ในครั้งนี้เรียกว่าไปในช่วงที่ไทม์มิ่งฟุตบอลอังกฤษ และจังหวะลูกหนังที่นั่นเป็นใจให้กับเขาอย่างมาก
เพราะ ศุภณัฏฐ์ ไม่ต้องเข้าข่ายกฎการนับคะแนน เพื่อขอ “เวิร์กเพอร์มิต” หรือ ใบอนุญาตทำงาน หลังทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ “เปลี่ยนกฎ” ให้แต่ละสโมสรลงทะเบียนผู้เล่นที่เวิร์กเพอร์มิตไม่ผ่านได้ สโมสรละ 4 คน ในกรณีที่สโมสรนั้น ๆ ใช้งานแข้งอังกฤษลงสนามค่าเฉลี่ย 35% ขึ้นไปจากทั้งฤดูกาล
จากเงื่อนไขดังกล่าวทำให้ ศุภณัฏฐ์ ไม่ต้องไปเริ่มนับหนึ่งที่ โอเอซ ลูเวิน ในเบลเยี่ยม และสามารถเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่กับ เลสเตอร์ ได้เลย
อีกทั้ง เลสเตอร์ เพิ่งหล่นลงมาหล่นในระดับ เดอะ แชมเปียนส์ชิพ ความเคี่ยวของฟุตบอลจึงต่างจากระดับพรีเมียร์ลีก
ไหนจะผู้เล่นระดับซุป’ตาร์ อย่าง เจมส์ แมดดิสัน เพิ่งย้ายออกจากทีมไป ยังไม่นับรวมถึง ฮาร์วีย์ บาร์นส์, เดนนิส ปราท ที่อาจจะไม่ได้อยู่ต่อใน คิงเพาเวอร์ สเตเดียม ซีซั่นหน้า
ตำแหน่งของ ศุภณัฏฐ์ ในเลสเตอร์ ดูแล้วน่าจะเป็นปีกขวา เหมือนที่ลงเล่นให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลล่าสุด เพราะหากสรีระระดับ “แบงค์” จับไปเข็นเล่นกองหน้าเลยเห็นทีคงยังไม่ไหว
ซึ่งเมื่อมองไปยัง “คู่แข่ง” ที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น ทำให้เหลือเพียง มาร์ค อัลไบร์ทตัน ปีกจอมเก๋าวัย 33 ที่เพิ่งกลับมาจาก เวสต์บรอมวิช ด้วยสัญญายืมตัว (ไม่นับผู้เล่นใหม่ที่จ่อจะเข้ามา)
โอกาส ของ ศุภณัฏฐ์ จึงไม่ได้ดูแย่หรือเลือนลางเกินไปนัก
จุดสำคัญอีกข้อคือ เลสเตอร์ เพิ่งมีการแต่งตั้ง เอ็นโซ มาเรสกา กุนซือชาวอิตาเลียน เข้ามา นั่นทำให้ทุกอย่างในทีมทั้งระบบ แท็คติก ถูกรีเซ็ตใหม่ทั้งหมด
ผู้เล่นทุกคนต้องทำผลงานกัน เพื่อให้เข้าตากุนซือคนใหม่ รวมถึง ศุภณัฏฐ์ เองด้วย
ประกอบกับล่าสุดทาง Leicester Mercury สื่อท้องถิ่นจากอังกฤษ ได้ใส่ชื่อ ศุภณัฏฐ์ เป็น 1 ใน 5 แข้งที่น่าจับตามองสำหรับการเสริมทัพในครั้งนี้ของทัพจิ้งจอก
แต่ฝันที่มีแต่กลีบกุหลาบ ไร้ขวากหนามทิ่มแทงนั้น ไม่มีอยู่จริง
เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่ใช่งานง่ายสำหรับ ศุภณัฏฐ์ ในการต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งที่ เลสเตอร์
แต่เมื่อได้รับโอกาส “ทำตามฝัน” อยากให้สู้กับมันให้เต็มที่ ทั้งการใช้ชีวิต การปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษให้ได้อย่างรวดเร็ว และเอาชนะใจของ มาเรสกา ได้
แฟนบอลทางนี้พร้อมปากำลังใจให้เสมอ
