:::     :::

"คอมโบ 7+8" และอาวุธที่เพิ่มขึ้นเห็นๆจาก Mason Mount

วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2566 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
2,570
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สิ่งที่ได้เห็นจาก เมสัน เมาท์ ในเกมแรกที่เขาลงสนามนัดอุ่นเครื่องกับลีดส์ ยูไนเต็ด จะช่วยให้แฟนบอลเข้าใจมากขึ้นว่า เมาท์เข้ามาเติมเต็มการเล่น และยกระดับมิติของแมนยูยังไงบ้าง นี่คือสิ่งใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาให้ทีม

ในเกมพรีซีซั่นของแมนยูไนเต็ดที่เอาชนะลีดส์ยูไนเต็ดไปได้ 2-0 หลายๆคนคงจะได้เห็นเด็กๆดาวรุ่งของเราโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอามัด เดียโล่, ค็อบบี้ ไมนู, ฮันนิบาล เมจบรี, อัลบาโร่ เฟอร์นันเดซ

รวมถึงตัวเล่นในครึ่งหลัง อย่าง อิซัค แฮนเซิน-โอเริน ที่คุมเกมในแดนกลางได้อย่างเฉียบขาด และตัวเล่นพื้นที่สุดท้ายอย่างปีกจอมพริ้ว โนอาม เอเมราน เด็กๆเหล่านี้มีแววที่สามารถจะขึ้นมาสู่ฟุตบอลอาชีพระดับสูงได้ในอนาคต ไม่ว่าจะกับแมนยูไนเต็ด หรือทีมอื่นๆก็ตาม มีแววที่น่าดูชมกันทุกคน

นั่นคือสิ่งที่ดีในเกมเจอลีดส์ที่แฟนบอลเห็นเด็กๆของเราเล่นกันแล้วก็น่าจะชื่นใจ

แต่จริงๆแล้วสิ่งที่สำคัญกว่าคือ การเตรียมทีมชุดใหญ่ของแมนยูในปีนี้ จุดสังเกตสำคัญในเกมนี้จึงเป็นเรื่อง "วิธีการเล่นของแมนยู" ในซีซั่นนี้ จากการเข้ามาเติมทีมของเมสัน เมาท์

เอริค เทน ฮาก ให้สัมภาษณ์ถึงเมาท์ในเกมแรกนัดนี้เอาไว้ว่า "ทำได้ดีเยี่ยมในครึ่งแรก เราคาดหวังไว้อยู่แล้ว เขากล้าเล่นมาก คุณจะได้รับความสนุกสนานในการชมมากมายจากเขา" บอสพูดเอาไว้ที่ MUTV

เกมการเล่นของเรามีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอยู่หลายๆอย่างที่พอจะจับสังเกตได้จากในสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องปรัชญาการเติมนักเตะขึ้นพื้นที่สุดท้ายแบบโอเวอร์โหลดของเทนฮากที่เติมผู้เล่นเข้าไปยังพื้นที่สุดท้ายด้วยแผงมิดฟิลด์ เห็นชัดกว่าเดิมมากเมื่อมี เมสัน เมาท์เข้ามา

ความเปลี่ยนแปลงของมิติการเล่นที่เพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งเราสามารถคาดการณ์ได้ มีดังนี้

1. พื้นที่สุดท้ายจะมีตัวรุกเพิ่มขึ้นในด้าน "ปริมาณ"

ในระบบมิดฟิลด์ double 8 การเติมเข้าพื้นที่สุดท้ายดูเยอะขึ้นกว่าเดิม วันนี้เมาท์ กับ ฮันนิบาล เล่นทั้งเพรสซิ่งแดนบนอย่างเข้มข้นมาก ติดตัวและเข้าบอลได้ถึงน้ำถึงเนื้อ รวมถึงจ้องหาจังหวะวิ่งทะลุขึ้นไปยังสเปซว่างใน final third ตลอดเวลาที่ทีมได้ครองบอลอยู่

รูปแบบการเล่นเช่นนี้มันเป็นการเติม "ปริมาณ" ของโอกาสจบสกอร์ให้เพิ่มขึ้นได้ เพราะมีตัวยิงเข้าไปยังพื้นที่สุดท้ายนอกจากจะรอแค่กองหน้าตัวหลักคนเดียว นึกภาพตามดูว่ามันจะเพิ่มการเข้าทำได้มากขนาดไหนจากวิธีการนี้ ที่พึ่งพิงระบบ formation ที่เป็น 4-3-3 ที่มีมิดฟิลด์สองตัวสามารถเติมเกมรุกได้ตลอด

สังเกตจากจังหวะในภาพด้านบนนี้ที่แคปมาให้ดู จะเห็นเลยว่า ตัวรุกหลักที่มีหน้าที่วิ่งเข้า final third มีเยอะมากๆ เพราะจะประกอบด้วย 1 กองหน้า + 2 ปีกสองข้าง + 2 มิดฟิลด์ตรงกลาง จากในรูปนี้จะเห็นชัดเลยว่า 5 ตัวนี้อยู่ใน Defensive Line ของลีดส์ทั้งหมด และพร้อมจะวิ่งชิงจังหวะขึ้นไปพื้นที่สุดท้ายทันที เหลือแค่รอบอลจากแนวหลังอย่างเซ็นเตอร์แบ็คคนออกบอล หรือ กลางต่ำเท่านั้นเอง

ด้านปริมาณเยอะมาก นี่ยังไม่ได้รวมการเติมของแบ็คสองตัวที่เติมแน่ๆ พื้นฐานอย่างต่ำๆของบอลแมนยูยุคเทน ฮาก จะมีผู้เล่นในพื้นที่สุดท้าย 7 คน ถ้าเกมไหนต้องเร่งทำประตู Onana สามารถขึ้นมาเซ็ตบอลร่วมกับตัวต่ำอีกแค่ 1-2 คน แมนยูมีโอกาสโอเวอร์โหลดตัวผู้เล่นเข้าพื้นที่สุดท้ายได้ถึง 8 ตัว 

ไม่ยิงให้มันรู้ไป

กลับมาที่เรื่องระบบการเล่นที่ใช้สองมิดฟิลด์เติมเกมรุกคู่กันของเราอีกครั้ง คิดภาพตามง่ายๆนะครับว่า ถ้าเมาท์เล่นร่วมกับบรูโน่ สองคนนี้วิ่งเติมเข้าในกรอบได้แน่นอน บรูโน่เองมีความสามารถในการจบสกอร์อยู่แล้ว ด้วยการเล่นที่เข้าไปเป็น Second Striker ได้ บรูโน่อันตรายเหมือนเดิม

ส่วนเมสัน เมาท์ จะเติมการเคลื่อนที่จากรอบๆกรอบเขตโทษให้อันตรายขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ฮาล์ฟสเปซ ที่ทะลุขึ้นไปสุดเส้น หากว่าแบ็คอย่างลุค ชอว์ ยืนคุมเกมอยู่วงนอก ก็จะมีเมสัน เมาท์ วิ่งทะลุไปตรงนั้นให้แทน รวมถึงกระชากบอลเจาะเข้าไปตรงกลางด้วยตัวเองก็ทำได้ ลูกถนัดของแกเลยในการวางเท้าส่องยิงจากระยะ10-20หลา เป็นระยะทำการที่หวังผลได้

ในภาพข้างล่างนี้ก็เป็นอีกจังหวะตัวอย่างให้ดูว่า เมาท์เคลื่อนที่สร้างตำแหน่งและสเปซให้เพื่อนตลอดเวลา ลักษณะคล้ายกับสิ่งที่เห็นในวันนี้กับเกมเจอลีดส์เลย มันชัดเจนมากๆ (ภาพแรกด้านบน)

เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อทีมสามารถ "เติม" ตัวเล่นเข้าไปพื้นที่สุดท้ายได้มากกว่าเดิมเพราะเมาท์ ต่อจากนี้เกมของยูไนเต็ดจะมีการจบสกอร์จะมากขึ้นด้วยปริมาณผู้เล่นที่เหนือกว่าทั้งด้านความได้เปรียบของจำนวน และการเคลื่อนที่ ซึ่งมันคือ 2 ใน 3 ของปรัชญา Positional Play

และเรื่องนี้ยังไม่จบแค่เมาท์!

คิดต่อไปอีกว่าถ้ายิ่งปีนี้เราเสริมมาด้วย "กองหน้าคนใหม่" ที่สามารถรับผิดชอบเรื่องการค้ำจบสกอร์ในแดนบนได้อยู่แล้ว ปีนี้แมนยูไนเต็ดจะมีพลังทำลายในพื้นที่สุดท้ายมากกว่าเดิมเยอะ พวกสกอร์ 1-0 2-0 จะเปลี่ยนขึ้นไปเป็นจำนวนเฉลี่ยที่มากขึ้น หากว่าแผนมันลงล็อค จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้ชัดเจนในเรื่องนี้แน่นอน

ถ้าแผนลงตัว แมนยูจะถล่มประตูได้เยอะขึ้นนั่นแหละพูดง่ายๆ

2. เกมเพรสซิ่งที่เพิ่มกว่าเดิมจากปีที่แล้ว

อันนี้มาจากตัวของเมสัน เมาท์โดยตรงเลยที่จะทำให้ทีมสามารถเพรสซิ่งได้มากขึ้น และหนักหน่วงขึ้น จากเดิมที่เราเล่นเกมเพรสซิ่งไม่ได้ ด้วยข้อจำกัดเรื่องการถนอมและรักษาสภาพร่างกายเอาไว้ให้สามารถเล่นได้เต็มเกม ต่อเนื่องกันสัปดาห์ละสองนัดแบบนี้ทั้งเดือน ทำให้แมนยูไนเต็ดไม่สามารถเล่นเกมเพรสใส่คู่แข่งได้มากนัก

แค่ลงเล่นให้เต็มเกมก็เหนื่อยกันแล้ว

แต่เมสัน เมาท์ เข้ามาเติมในสิ่งที่กลางตัวเดิมอย่างเอริคเซ่นไม่มี นั่นก็คือพลังงาน ไดนามิค และการวิ่งเติมพื้นที่ รวมถึงการเพรสใส่คู่แข่ง นี่จะเป็นสิ่งที่ยกระดับเข้ามาสู่แมนยูไนเต็ดโดยตรง สังเกตจากจังหวะนี้ในภาพด้านบนที่นำมาประกอบ จะเห็นกันเลยว่า เมสัน เมาท์ เล่นอย่างเต็มพลังมากๆด้วยการวิ่งเข้าไปบี้และชิงบอลมาให้เห็นเลย เสียดายว่าลูกยิงชิพลูกนี้มันโด่งไปนิดเดียว ไม่งั้นจะเป็นคนยิงเปิดให้เกมอุ่นเครื่องปีนี้ของแมนยูไปแล้ว

ต่อจากนี้คงไม่ได้เห็นภาพเดิมๆที่บรูโน่วิ่งไล่บอลอยู่คนเดียว แต่เราจะมีม้าหนุ่มสองตัวที่วิ่งไล่เพรสซิ่งคู่แข่งอย่างดุเดือด ด้วยการประสานงานวิ่งไล่ของ เมาท์+บรูโน่ นั่นเอง  คอมโบ "7+8" จะทำให้คู่แข่งหนาวกึ๋ยแน่นอน ทั้งการเล่นเกมรุกที่เติมขึ้นไปอย่างเมามันส์ยามที่ทีมครองบอลได้ใน Phase 1 "on the ball" ขณะเดียวกัน เวลาที่ทีมไม่มีบอลอยู่ในการครอบครอง เมาท์กับบรูโน่ในแดนกลาง จะไล่บี้คู่แข่งให้เล่นได้ยากแน่ๆ

เราอาจจะเห็นเกมเพรสซิ่งสูง ผสมกับจังหวะเปลี่ยนผ่านของ transition play ที่อาจจะเล่น Counter Pressing ย้อนใส่คู่แข่งด้วยเวลาเสียบอลแดนบน

ในมิติด้านอื่นๆที่จะตามมาจากความเข้มข้นตรงนี้ แมนยูจะได้ "ความดุดัน" ที่เล่นฟุตบอลกันได้เดือดและแกร่งขึ้นด้วย คาแรคเตอร์ติ๋มๆจะหายไป บอลแมนยูจะ Aggressive & Intensive มากกว่าเดิม

ภาษาชาวบ้านเรียก โคตรตึง

ตามปกติบอลเพรสซิ่งมันมันส์อยู่แล้ว เมาท์จะเติมตรงนี้ให้ทีมได้แน่นอน ความเข้มข้นดุเดือดเอาจริงจะมากขึ้น จากที่เราเห็นคาแรคเตอร์ของเมาท์ที่บวกกับนักเตะแมนยูมาตลอดเวลาลงแข่งขันเจอกันนี่แหละ 

ต่อจากนี้ บวกคือบวก เข้าคือเข้า นั่นคือคาแรคเตอร์ทีมแข็งแกร่งที่จะแสดงให้เห็นและกดใส่คู่ต่อสู้ได้ เราหวังจุดนี้ของเมสัน เมาท์ ที่จะมายกระดับให้ภาพรวมทีมดุดันยิ่งขึ้นกว่าเดิม

3. ตัว Playmaker ก็สามารถช่วยเป็นได้

ในเกมกับลีดส์ ยูไนเต็ด เนื่องจากบรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังพักผ่อนร่างกายอยู่และไม่ได้มากับทีม การเล่นของแมนยูไนเต็ดจึงต้องให้เมสัน เมาท์ เป็นจอมทัพเพลย์เมคเกอร์ของทีมแทน เขารับผิดชอบการออกบอล การเล่นเซ็ตพีซต่างๆของทีมในวันนี้ และหลายๆจังหวะถ้าสังเกตจริงๆ เป็นช็อตสวยๆของเมาท์หลายครั้ง

ภาพข้างบนในจังหวะนี้คงจะฮือฮาที่สุด เมื่อบอลคิลเลอร์พาสออกจากเท้าของเมสัน เมาท์ ทะลุมาให้ อามัด เดียโล่ ทางปีกขวาหลุดขึ้นหน้ามาอย่างสวยงาม มันคือเซนส์ วิชั่น และ ทักษะของเมาท์ที่มองเห็นไลน์จ่ายบอลช่องนี้ทิ้งไปด้านหน้าให้กับเพื่อนได้อย่างสวยงาม

นอกจากจังหวะนี้ก็มีช็อตอื่นๆอีกที่เมาท์ทำหน้าที่เป็นตัวปั้นเกม as playmaker ได้อย่างดีทีเดียวจากภาพข้างล่าง อาจจะดูรกสักนิดนึง แต่ให้สังเกตว่า บอลอยู่ที่เท้าของเมาท์ (กรอบสี่เหลี่ยม) และกำลังจะจ่ายให้ Omari Forson ทางปีกซ้ายของทีม จะเห็นได้ว่าแอเรียตรงกลางในพื้นที่ "Zone 14" ด้านหน้ากรอบเขตโทษตรงนี้ เมาท์สามารถเล่นได้ไม่ต่างจากบรูโน่เลย ทดแทนและช่วยซัพพอร์ตเกมมิติตรงนี้ได้เหมือนกัน 

ต้องบอกว่าเกมวันนี้ เมสัน เมาท์ ลงต่ำมาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางค่อนข้างเยอะซะด้วยซ้ำ แต่ก็ยังมีหลายๆจังหวะเติมเกมรุกได้เพราะความขยัน และพลังงานในการเล่น บางครั้งลงต่ำไปเป็นแบ็คแทนอัลบาโร่ เพื่อช่วยเซ็นเตอร์ครองบอลซะด้วยซ้ำ 

มิติการเล่นของเขาส่วนใหญ่จะมีความเป็นเบอร์ 8 เป็นหลัก เจ้าตัวเองก็มองการเล่นของตนไว้ว่าเป็นมิดฟิลด์เบอร์ 8 เช่นกัน ไม่ใช่ตัวรุกจ๋าๆ 100% เหมือนที่ใครเข้าใจ

ดังนั้นเรื่องประตูกับแอสซิสต์จึงไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ให้ดูที่การเล่นโดยรวมดีกว่าว่า เมสัน เมาท์ จะสร้างประโยชน์ให้ทีมได้มากน้อยแค่ไหน

ซึ่งจากเกมนี้ในครึ่งแรกครึ่งเดียว เราได้เห็นประเด็นในแง่บวกเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน เขาคือคนที่เติมให้ฟุตบอลของเทน ฮาก มีไดนามิค และ มิติการเล่นที่เต็มพลังหลากหลายมากขึ้น

นัดนี้นัดเดียว พอจะมองเห็นอะไรบางอย่างบ้างแล้ว แต่ยังเหลือเกมปรีซีซั่นให้ลงเล่นอีกหลายนัดในปีนี้ เริ่มจากพุธหน้าที่เจอกับ OL ที่สกอตแลนด์ เกมนัดนั้นคงจะเห็นอะไรมากขึ้น เพราะตัวหลักบางคนคงกลับมาลงเพิ่มเติมจากแมตช์นี้ที่เน้นเด็กดาวรุ่งซะเป็นส่วนใหญ่เท่าที่มี

ยิ่งเมาท์ได้จูนกับตัวหลักมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีกับทีมของเทน ฮาก มากเท่านั้น เขามาอยู่ที่นี่ในสถานะแกนหลักที่จะสร้างมิติการเล่นใหม่ให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เพราะฉะนั้นเราคาดหวังว่าจะได้เห็นประสิทธิภาพ และเกมการเล่นที่ดุดันขึ้นจากเขา ที่จะทำให้ภาพรวมของทีมดีกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน

แผงกองกลางที่มี เมาท์ บรูโน่ คาเซมิโร่ เอริคเซ่น สี่คนนี้มิติการเล่นไม่ซ้ำกันเลยแม้แต่คนเดียว การจับ Combination ลงสนามกันในระบบ formation ที่เน้นกลางสามคน ไม่ว่าจะเป็น 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 จะสามารถเลือกปรับเปลี่ยนตามแทคติกเกมนั้นๆได้อย่างดีมากๆ (ถ้าไม่มีใครบาดเจ็บไปก็หมุนกันสี่คนยาวๆ)

ตื่นเต้นกับฟุตบอลใหม่ๆที่มีเมสัน เมาท์เข้ามาเติมความหลากหลายให้ทีมจริงๆครับ รอชมกันในเกมอุ่นเครื่องนัดถัดไปสัปดาห์หน้า จะได้เห็นอะไรมากกว่านี้แน่นอนครับ

#BELIEVE

-ศาลาผี-

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด