จากดินสู่ดาว ก้าวแรก่อนเป็นสตาร์จาก วิลเล่ม ทเว
เมื่อพูดถึงทีมจอมปั้นนักเตะในฮอลแลนด์ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม, พีเอสวี ไอนด์โดเฟ่น และ เฟเยนูร์ด เป็นชื่อแรก ๆ กันแน่นอน เพราะในอดีตที่ผ่านมา 3 ทีมข้างต้นนี้ล้วนแล้วแต่ผลิตนักเตะเก่ง ๆ ออกมาอาลวะวาดในยุโรปมากมายหลายต่อหลายคน แต่ยังมีอีกสโมสรหนึ่งครับ ที่แม้ว่าจะไม่ได้โด่งดังมากเท่า 3 ทีมที่ว่ามาก็จริง แต่พวกเขาก็เป็นสโมสรที่ปลุกปั้นแข้งดังฝีเท้าดีออกมาสู่ตลาดลูกหนังได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย นั่นก็คือ วิลเล่ม ทเว และ ลิเวอร์พูล เองก็ไปดึงนักเตะจากที่นี่มาอยู่บ่อย ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน วิลเล่ม ทเว คือสโมสรเก่าแก่สโมสรหนึ่งในลีกดัตช์ พวกเขาเคยคว้าแชมป์ลีกมาได้ 3 สมัย ตั้งอยู่ในทิลเบิร์ก สนามเหย้าของพวกเขามีความจุเพียงแค่ 14,700 คนเท่านั้น แม้จะไม่ใช่ทีมใหญ่อะไร แต่สิ่งที่โดดเด่นอย่างหนึ่งก็คือ พวกเขาเก่งในการปั้นดาวรุ่งขึ้นมาประดับวงการแล้วขายให้ทีมที่ใหญ่กว่าไปใช้งานต่อ ทั้งในและนอกประเทศ
มาร์ค โอเวอร์มาร์ส
ปีกจรวดดัตช์แมนรายนี้ ย้ายจาก โก อเฮด อีเกิ้ลส์ มาอยู่กับ วิลเล่ม ทเว ตั้งแต่อายุ 18 ปี ในฤดูกาล 1991-92 ซึ่งมีค่าตัวประมาณ 250,000 ยูโร โอเวอร์มาร์ส อดีตตำนานของ อาร์เซน่อล แจ้งเกิดในลีกดัตช์ได้เต็มตัวก็ช่วงที่เล่นให้ วิลเล่ม ทเว นี่แหละครับ เขาโชว์สกิลการเลี้ยงบอล และฉีกแนวรับคู่แข่งอย่างโดดเด่น แม้ว่าจะตัวเล็ก แต่ โอเวอร์มาร์ส สามารถเอาชนะกองหลังตัวใหญ่ ๆ ได้ด้วยสปีดต้น รวมถึงทักษะการเลี้ยงบอลที่ดีเยี่ยม จนทำให้เขายึดตัวจริงของทีมได้ตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามา โอเวอร์มาร์ส ลงสนามให้ทีมไป 31 นัด ยิงได้ 1 ประตู ก่อนจะได้รับรางวัลนักเตะพรสวรรค์สูงยอดเยี่ยมของลีกดัตช์ในปี 1992 ไปครอง ซึ่งหลังจากเล่นให้ วิลเล่ม ทเว แค่ปีเดียว เขาก็ถูก อาแจ๊กซ์ ดึงตัวไปร่วมทัพทันทีด้วยค่าตัวประมาณ 1.25 ล้านยูโร ซึ่งทำให้สโมสรได้กำไร 5 เท่าจากตอนซื้อมาเลยทีเดียว หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งตอนนั้นคุม อาแจ๊กซ์ บอกว่านี่คือนีกเตะที่สารพัดประโยชน์ในแนวรุก เป็น Multi-functional player ที่จะช่วยให้ อาแจ๊กซ์ ประสบความสำเร็จได้ในอนาคต ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากที่ ฟาน กัล ทำนายเลย เพราะหลังจากย้ายไป โอเวอร์มาร์ส ก็ช่วยให้ อาแจ๊กซ์ ได้แชมป์ลีกดัตช์ 3 สมัย, บอลถ้วยในประเทศ 2 ใบ รวมถึงได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับสโมสรโลกได้อีกด้วย ซึ่งเขาถือว่าเป็นแข้งรายแรก ๆ จาก วิลเล่ม ทเว ที่โด่งดังในระดับโลกหลังจากย้ายออกมาเลยทีเดียว ยาป สตัม
กองหลังร่างยักษ์รายนี้ แม้ว่าจะเริ่มต้นอาชีพด้วยการเล่นให้ทีมเล็ก ๆ ทีมอื่นมาก่อนก็จริง แต่ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาที่อยู่กับ วิลเล่ม ทเว นั้น คือช่วงที่ทำให้เขาก้าวจากการเป็นนักเตะในทีมรอง ไปสู่การเป็นนักเตะในทีมใหญ่ได้อย่างชัดเจน ยาป สตัม ย้ายมาอยู่กับ วิลเล่ม ทเว ในฤดูกาล 1995-96 ก่อนจะทำผลงานให้ทีมได้อย่างโดดเด่นมากในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง ซึ่งเกมที่เป็นไฮไลต์ของเขาคือวันที่พาทีมชนะ อาแจ๊กซ์ ของ หลุยส์ ฟาน กัล ได้ 1-0 โดยเขาสกัดบอลและตามเคลียร์ลูกอันตรายช่วยทีมได้ตลอดทั้งเกม ด้วยฟอร์มที่โดดเด่นเกินหน้าเพื่อนร่วมทีม สตัม เล่นให้ วิลเล่ม ทเว ได้แค่ครึ่งฤดูกาล ก็ถูกทางด้าน พีเอสวี ไอนด์โดเฟ่น มาซื้อตัวไปร่วมทีมในฤดูกาลนั้นทันที พร้อมกับช่วยพาต้นสังกัดคว้าแชมป์บอลถ้วย แถมยังถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปีดังกล่าวอีกด้วย ยาป สตัม ประสบความสําเร็จอย่างมากช่วงที่อยู่กับ พีเอสวี ก่อนจะได้ย้ายไปเล่นในอังกฤษกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมาด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของกองหลังในยุคนั้น อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่า วิลเล่ม ทเว คือบันไดก้าวสำคัญของ สตัม ที่ช่วยให้โด่งดังและเติบโตจนกลายเป็นกองหลังระดับโลกอย่างแท้จริง
ซามี่ ฮูเปีย
ยอดปราการหลังชาวฟินแลนด์ ย้ายจากทีมในบ้านเกิดมาเล่นให้ วิลเล่ม ทเว ในปี 1995 ซึ่งก่อนจะย้ายมานั้นทเขาได้ไปทดสอบฝีเท้ากับทาง นิวคาสเซิ่ล มาก่อน แต่ทางด้าน เควิน คีแกน ไม่สนใจที่จะเซ็นสัญญาด้วย จึงทำให้ ฮูเปีย ย้ายมาอยู่กับ วิลเล่ม ทเว ด้วยการเซ็นสัญญาระยะยาวถึง 4 ปี ฮูเปีย ถือว่าเป็นแข้งที่อยู่ในระดับตำนานของ วิลเล่ม ทเว คนนึงเลยก็ว่าได้ เขาเป็นตัวหลักในแผงเกมรับ เป็นกัปตันทีม ลงสนามไปมากถึง 104 นัด เคยพาทีมเข้าไปเล่นรอบคัดเลือกศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกทั้งยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรอีกด้วย ฮูเปีย เล่นให้ วิลเล่ม ทเว นาน 4 ฤดูกาล แม้จะไม่ได้แชมป์อะไรกับทีมเลยก็จริง แต่เขาคือนักเตะที่แฟนบอลรักในลำดับต้น ๆ ของทีม ตอนปี 1999 ฮูเปีย ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 2.6 ล้านปอนด์ ซึ่งในคราวแรกไม่มีใครรู้จักเขามากนัก แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ใช้ผลงานในสนามเป็นการแนะนำตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม จนกลายเป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ของ ลิเวอร์พูล อีกคน เล่นให้ทีม 10 ฤดูกาล ลงสนาม 464 นัด และคว้าแชมป์กับทีมมากถึง 10 ใบ ซึ่งรวมถึงแชมป์ยุโรปอย่าง แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ยูฟ่า คัพ อีกด้วย เวอร์จิล ฟาน ไดค์
วิลเล่ม ทเว ถือเป็นทีมที่ผลิตกองหลังระดับโลกออกมาได้บ่อยมากที่สุดทีมนึงเลยก็ว่าได้ ซึ่งในรายของ ฟาน ไดค์ เองนั้น ถือว่าเขาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของทีมแบบเต็มตัว เพราะนี่คือสโมสรแรกในอาชีพการค้าแข้งของเขาเลยทีเดียว ฟาน ไดค์ อยู่ในอะคาเดมี่ของ วิลเล่ม ทเว มาตั้งแต่วัยรุ่น ซึ่งในตอนนั้นเขาเตะบอลควบคู่ไปกับงานพาร์ทไทม์อย่างการล้างจานในร้านอาหาร อีกทั้งในช่วงที่เล่นกับ วิลเล่ม ทเว เขาเล่นในตำแหน่งแบ็คขวา ไม่ใช่เซนเตอร์ฮาล์ฟอย่างในปัจจุบันอีกด้วย เมื่ออายุ 17 ปี ฟาน ไดค์ ถูกปรับมาเล่นในตำแหน่งเซนเตอร์เนื่องจากรูปร่างที่สูงขึ้นกว่าเดิมมาก ก่อนที่จะเริ่มทำผลงานได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนไปเข้าตาของ มาร์ติน คูมัน ที่ทำงานให้กับ โครนิงเก้น มาดึงตัวไปร่วมทีม ก่อนที่ ฟาน ไดค์ จะค่อย ๆ เติบโตและมีชื่อเสียงมากขึ้นในเวลาต่อมา แม้ว่า ฟาน ไดค์ จะไปแจ้งเกิดกับ โครนิงเก้น จนได้ย้ายไปเล่นกับ เซลติค, เซาธ์แฮมป์ตัน และ ลิเวอร์พูล แต่ช่วงเวลาใน วิลเล่ม ทเว ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ล่วยขัดเกลาเขาให้เป็นนักเตะที่แกร่งขึ้น และยังเป็นทีมแรกที่มอบสัญญาอาชีพให้กับเขา จนต่อยอดมาเป็นกองหลังระดับโลกได้อย่างในทุกวันนี้
แฟรงกี้ เดอ ยอง
ผลผลิตคนล่าสุดจาก วิลเล่ม ทเว และเป็นแข้งดาวรุ่งชาวดัตช์ที่แฟน ๆ ภาคภูมิใจมากที่สุดอีกคน คงหนีไม่พ้นชื่อของ แฟรงกี้ เดอ ยอง สุดยอดกองกลางมันสมองที่กำลังถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามล่าตัวอย่างหนักในเวลานี้ เดอ ยอง เข้ามาอยู่ในอะคาเดมี่ของ วิลเล่ม ทเว ตั้งแต่อายุแค่ 12 ขวบ และไต่เต้าจากทีมเยาวชนจนขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกตอนอายุ 17 ย่าง 18 ปี คลาสบอลของ เดอ ยอง นั้นโดดเด่นกว่าเด็กคนอื่นในทีมเป็นอย่างมาก เขาเต็มไปด้วยวิสัยทัศน์และความฉลาดในการเล่นบอล จนทำให้ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ต้องรีบมาสู่ขอในทันที ทั้งที่ เดอ ยอง เพิ่งลงสนามในทีมชุดใหญ่ให้ วิลเล่ม ทเว ไปแค่นัดเดียวเท่านั้น อาแจ๊กซ์ จ่ายค่าตัวของ เดอ ยอง เชิงสัญลักษณ์แค่ 1 ยูโร แต่พ่วงรายละเอียดในสัญญาว่าจะแบ่งค่าตัวในการย้ายทีมให้กับ วิลเล่ม ทเว 10% ซึ่งกลายเป็นว่านี่คือดีลที่คุ้มค่ามากดีลหนึ่งของพวกเขา เพราะหลังจากนั้นไม่นาน เดอ ยอง ก็ได้ย้ายไป บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวสูงถึง 75 ล้านยูโร ส่งผลให้ วิลเล่ม ทเว ได้เงินค่าตัวของ เดอ ยอง ถึง 7.5 ล้านยูโร เลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ 5 คนที่ว่ามานี้เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วยังมีที่คุ้นชื่อกันอย่าง อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าชาวสวีเดน, มุสซ่า เดมเบเล่ อดีตนักเตะ สเปอร์, เคมี่ อกุสเตียน อดีตแข้ง สวอนซี ที่อยู่ในชุดคว้าแชมป์ลีกคัพ รวมไปถึง คอสตาส ซิมิกาส แบ็คสำรองของ ลิเวอร์พูล ที่ก็เคยแวะมาเล่นให้ วิลเล่ม ทเว ในสัญญายืมตัวมาแล้วเช่นกัน