หลังจาก นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ออกมายืนยันหลังเกม คิงส์คัพ ว่า มาโน โพลกิง จะเป็นกุนซือทีมชาติไทยต่อไป
จากที่คาดการณ์กันไวว่า “ชะตา” ของ มาโน จะขาดลง หากไม่สามารถพาทัพช้างศึกคว้าแชมป์มาครองได้ แต่ท้ายสุดกลับหักมุมไม่เป็นเช่นนั้น
นั่นเพราะแม้ ทีมชาติไทย จะแพ้จุดโทษ อิรัก แต่รูปเกมแทบไม่ได้น่าเกลียดเลย มาโน ทำทีมชุดนี้สู้กับทีมระดับท็อป 70 ของโลก ได้อย่างสนุก อาจมีติด ๆ ขัด ๆ บ้าง หรือฟ้าฝนเป็นใจให้ แต่สุดท้ายผลลัพธ์ถือว่าเจ้าตัว “สอบผ่าน” ในสเต็ปนี้
ซึ่งเราเองก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับ มาโน เขาไม่ได้ “ผิดพลาด” หรือล้มเหลวใด ๆ ในทัวร์นาเมนต์นี้จนต้องไล่ออกจากเก้าอี้กุนซือ นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ มาโน ยังคงได้ไปต่อ
อีกทั้งคนที่อยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลท์ลูกหนังอย่าง “คุณแป้ง” รู้ดีว่า สมมติหากเขาใช้ไม้แข็งเปลี่ยนตัวกุนซือดื้อ ๆ สิ่งที่จะตามมาคือฟีดแบคกองใหญ่ กระแสฟุตบอลที่จะถาโถมใส่ตัวเขาและทีมชาติไทย การถามหาความชอบธรรมต่าง ๆ นานา
สุดท้าย อิชิอิ ยังต้องนั่งร้องเพลง “รอ” ในตำแหน่งประธานเทคนิค
อย่างไรก็ตาม การให้ มาโน ลุยงานต่อ ย่อมมาพร้อมการถูกตั้งคำถามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกันว่า ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่จะถึงในอีก 2 เดือน คนเป็นผู้จัดการทีม “มั่นใจ” แค่ไหนว่า มาโน จะตอบโจทย์ทีมในเวลานี้
เพราะแม้ มาโน จะทำผลงานได้ดีใน คิงส์คัพ แต่แฟนบอลบางกลุ่มยังมองไม่เห็นภาพทีมชาติไทยชุดนี้ในมือ มาโน จะเอาชนะจีน หรือต่อกรกับ เกาหลีใต้ ได้แบบพอฟัดพอเหวี่ยงเลย
อย่าลืมว่าฟุตบอลโลก พาสที่จะถึงนี้ คัดทีมไปต่อในรอบ 3 กลุ่มละ 2 ชาติเท่านั้น ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า ไทย กับ จีน จะเป็นคู่แข่งที่แย่งกันเข้ารอบในโควตาอันดับ 2
ฉะนั้นการประเดิมสนามพบ จีน ในวันที่ 16 พ.ย. ที่กรุงเทพฯ จึงเป็นเกมเปิดหัวสำคัญสุด หากไม่ชนะ หรือแพ้ ก็แทบปิดประตูเข้ารอบไปเลย ครั้นจะไปเปลี่ยนตัวกุนซือเอาช่วงนั้นก็อาจ “สายไปเสียแล้ว”
จริงอยู่ว่าการแต่งตั้ง อิชิอิ ก็ไม่ได้การันตีว่า ทีมชาติไทย ชุดนี้จะดีหรือมีทรงกว่านี้ในระยะเวลาอันสั้น แต่สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีส่วนร่วมกันในเรื่องนี้ ต้องประเมินอย่างละเอียด และอ่านเกมให้ถูกว่า วัตถุดิบลูกหนังที่มีในเวลานี้ จะใช้เชฟคนไหนที่เหมาะกับการปรุงให้กลมกล่อมสุด
จะตั้ง อิชิอิ ก็ยังพอมีเวลาอยู่บ้าง แต่ต้องตอบคำถามแฟนบอลให้ได้เช่นกันว่า เหตุใดจึงต้องแยกทางกับ มาโน หรือหากเชื่อใจ มาโน ก็ต้องปล่อยให้เขาทำงานต่อให้สุด
อย่างไรก็ตามการที่ผู้จัดการทีมบอกไว้ว่า มาโน จะ “อยู่ต่อ” แต่กลับไม่พูดให้ชัดเจนว่าจะให้อยู่จน “ครบสัญญา” (เดือน มี.ค. 2024) หรือไม่ นั่นทำให้สาวกที่เชียร์ อิชิอิ ยังแอบมีความหวังเล็ก ๆ
เพราะวันมะรืน หรือสัปดาห์ถัดไป อาจมีการเปลี่ยนผ่านอะไรที่เราไม่คาดคิดก็ได้
โลกฟุตบอลไทยไม่เคยมีอะไร “แน่นอน” อยู่แล้ว
