แผลที่ว่าดูจะเน่าเฟะและหายารักษาได้ยากยิ่ง มันคืออาการที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจโดยตรง และแสดงออกมาเมื่อเวลาในสนามผ่านไป

หากพิจารณารูปเกมที่หวือหวาในช่วงต้นเหมือนคนที่ถูกกระตุ้นด้วยเครื่องช่วยเหลือ เพราะการเล่นของ ปิศาจแดง วูบวาบแถมสร้างความอันตรายได้ต่อเนื่อง

แต่ทุกอย่างไม่ต่างจากที่ผ่านมา เพราะทำไปทำมารูปเกมค่อยๆ ซาลงก่อนจะโดนเล่นงานแบบง่ายๆ กลายเป็นฝ่ายตามหลัง

อย่างที่ทุกคนเห็นไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา การขึ้นเกมง่ายๆ เปิดง่ายๆ และจบสกอร์แบบง่ายๆ ไม่ต่างจากเด็กเล่นบอลกับผู้ใหญ่ที่รอให้ฝ่ายแรกได้ทำตามความต้องการก่อนอาศัยประสบการณ์และความแน่นอนเล่นงานกลับจนหงายเงิบ

จะว่าไปแล้ว 3 ประตูที่ลูกทีม เอริก เทน ฮาก เสียไปเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน (หรือคล้ายกัน) ทั้งสิ้น เพราะ ไบรท์ตัน อาศัยพื้นที่ว่างตรงบริเวณฟูลแบ็ก ทำเกมขึ้นก่อนจะตบเข้าในให้ตัวจบสกอร์สอยตาข่ายแบบ 'ง่ายๆ'

เชื่อว่าหลายคนดูไปคงได้แต่ส่ายหัวกับผลงานที่เกิดขึ้น และคงมีหลายคนที่เปลี่ยนไปดูอย่างอื่นที่จรรโลงใจกว่าเมื่อสกอร์ขึ้นมา 0-3 

ปัญหาในทีมที่กำลังทับถมได้มาปะทะกับผลงานและผลการแข่งขันจากเกมล่าสุด ยิ่งทำให้บรรยากาศเหนือรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด แย่หนักกว่าเดิม เพราะตอนนี้ทุกอย่างดูมืดมดไปเสียหมด

อย่างที่กล่าวไปว่าทุกอย่างส่งผลต่อสภาพจิตใจโดยตรง เพราะมันค่อยๆ กัดกินจากภายใน ไหนจะการเล่นที่ดูไร้มิติ สิ่งที่เราได้หลังจากตามหลังเห็นคือความพยายามในการขึ้นเกมฝั่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด อยู่ทางเดียว

เข้าใจได้ว่านี่คือตัวความหวังสูงสุดในแนวรุกและหาจังหวะเล่นงาน ไบรท์ตัน ได้พอสมควร แต่เมื่อทำไม่ได้ (และโดนปฏิเสธประตูตีเสมอ) ดูเหมือนว่า เดอะ ซีกัลส์ จะไม่เกรงกลัวพร้อมให้ ผีแดง ขึ้นเกมทางนั้นอย่างตามใจชอบ เพราะทีมเยือนมั่นใจว่าเอาอยู่แน่นอน

การเล่นที่ฝืดเคืองไร้มิติทำให้ฝ่ายตรงข้ามรับมือสบายๆ บวกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เหมือนหมดมุกไม่มีตัวเปลี่ยนเกมหรือจุดประกายความหวัง ทำให้ทุกอย่างออกมาแบบที่เห็น

เรื่องดังกล่าวกลายมาเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ เทน ฮาก ถูกโจมตีหลังจบการแข่งขัน และไม่แปลกใจที่จะเริ่มมีคำถามเกิดขึ้นเกี่ยวกับ 'อีทีเอช'

สำหรับสายโลกสวยยังคงมอง (หรือคิด) ว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุทางลูกหนังที่เกิดขึ้นแค่นัดเดียว แต่สิ่งเหล่านี้ดูจะเกิดขึ้นบ่อยไปเสียหน่อย อย่างน้อยๆ ก็สองเกมที่ดวลกับ ไบรท์ตัน และ สเปอร์ส ซึ่งรูปเกมช่วงแรกดูดีกว่ามาก แต่พอเวลาผ่านไปกลับกลายเป็นติดขัดขาดๆ เกินๆ 

สถานการณ์ถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะหลังจากนี้จะเข้าสู่โปรแกรมถี่ยิบทั้งในลีกและบอลถ้วยที่ห้ามพลาด แต่ด้วยผลงานเอาแน่เอานอนไม่ได้ หลายคนจึงทำใจล่วงหน้าว่าอาจเห็นภาพเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา

ทั้งปัญหาภายในที่ต้องจัดการ ทั้งการแข่งขันที่จะเข้ามาแบบต่อเนื่อง ทุกอย่างคืออุปสรรคที่ เทน ฮาก ต้องผ่านไปให้ได้ และจะกลายเป็นช่วงเวลาสำคัญของสโมสร (อีกครั้ง)

ส่วนทีมอื่นๆ ที่ตอนนี้กำลังจะเจอ ปิศาจแดง คงได้แต่ลูบปาก โดยเฉพาะกุนซือฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ต้องพูดอะไรมากในช่วงก่อนลงสนาม พวกเขาคงทำเพียงเดินเข้าห้องแต่งตัวพร้อมพูดสั้นๆ ว่า 'ก็แค่ ยูไนเต็ด' กับลูกทีม