ในช่วงตลาดซื้อขายหน้าหนาว เดือนมกราคมที่ผ่านมา สำหรับ “เลอันโดร ทรอสซาร์” ดาวเตะมากความสามารถจากไบรท์ตัน ด้วยค่าตัวรวมประมาณ 27 ล้านปอนด์ ดูเหมือนจะผลิดอกออกผลอย่างรวดเร็ว เมื่อแข้งวัย 28 ปี ใช้เวลาปรับตัวเพียงไม่นาน และสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม
อาจกล่าวได้ว่า ทรอสซาร์ เป็นหนึ่งนักเตะที่นำทางเลือกใหม่ๆมาสู่เกมรุกของ “เดอะ กันเนอร์ส” โดยเฉพาะการสร้างสรรค์เกม และมิติการพาบอลเข้าสู่กรอบเขตโทษคู่แข่ง เรียกได้ว่า กุนซืออย่างมิเกล อาร์เตต้า มีอาวุธลับใหม่ ที่พร้อมจะสร้างความหนักใจให้บรรดาคู่แข่งได้
สถิติในพรีเมียร์ลีก กับทัพ “ปืนใหญ่” ผลปรากฏว่า ทรอสซาร์ มีผลงานยิงประตู และแอสซิสต์มาฝากแฟนบอลอาร์เซน่อล พร้อมกับรับบทบาทคนที่พร้อมลงมาเปลี่ยนเกม จากตัวเลขการแอสซิสต์ พอจะบอกเราได้เป็นนัยว่า ทรอสซาร์ คือนักเตะที่สามารถสร้างความอันตราย กับการจ่ายบอลในจังหวะแบบชี้เป็นชี้ตาย
“นายต้องเล่นให้ฉลาด ... หากไม่อยากโดนกองหลังเล่นงาน”
มิเชล ริเบยโร่ ในฐานะโค้ชด้านเทคนิค และพัฒนาด้านบุคคลของเกงค์ สโมสรดังในลีกเบลเยี่ยม ออกมาย้อนความทรงจำ เกี่ยวกับ เลอันโดร ทรอสซาร์ที่เติบโตมาในอะคาเดมี่
สมัยยังอายุยังน้อย ทรอสซาร์ เป็นนักเตะที่มีร่างกายที่ผอมบาง ถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการเล่นที่ยุโรป ทำให้เกงค์ ต้องส่งไปเล่นกับทีมระดับล่าง เพื่อเป็นการเสริมสร้างกระดูกบอล โดยมีทีมดิวิชั่น 2 หมุนเวียนกันมายืมตัว เป็นเวลามากถึง 3 ฤดูกาล
การส่งทรอสซาร์ ลงไปเล่นกับสโมสรระดับดิวิชั่น 2 ทั้งกับลอมเมล เอสเค และเวสเตอร์โล จุดประสงค์คือการเพิ่มความแข็งแกร่ง ทั้งร่างกาย และจิตใจ เขาเติบโตในเส้นทางลูกหนังอย่างรวดเร็ว เพราะได้ลงเล่นกับบรรดานักเตะที่โตกว่าในทุกสัปดาห์ ผลสุดท้าย เขาก้าวมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ของเกงค์ เป็นผลสำเร็จ
“ช่วงเริ่มแรก ทรอสซาร์ มีความถนัดที่เท้าขวามากกว่าเท้าซ้ายอยู่เล็กน้อย” ริเบยโร่ กล่าวต่อ “เกงค์ ทำงานหนักมาก เพื่อฝึกฝนบรรดานักเตะในความดูแลให้ถนัดทั้งสองเท้า เพื่อส่งผลดีเวลาครองบอล เท้าขวา และเท้าซายของนักเตะจะต้องออกมาดี”
“หากคุณสังเกตไปที่การเล่นของทรอสซาร์ ก่อนที่เขาจะได้ครองบอล เขาจะใช้สายตากวาดหาพื้นที่ว่างอยู่เสมอ ช่วงเวลาเดียวกันสายตาของเขายังคอยสอดส่ายทางช่อง”
“เขาประเมินตลอดว่า ใครกำลังวิ่งไปในทิศทางไหน เขาจะควบคุมบอลด้วยเท้าขวา และครอสบอลต่อด้วยเท้าซ้าย มันไม่ใช่การเปิดแบบมั่วๆ แต่เกิดจากการรู้แล้วว่า เพื่อนร่วมทีมอยู่ตรงไหน"
ริเบยโร่ กล่าวต่อว่า “เมื่อเขาเหลือบเห็นช่อง เขาจะพุ่งเข้าหามัน และทะยานเข้าหาประตู เขามักจับบอลด้วยเท้าข้างหนึ่ง และเปิดด้วยเท้าอีกข้างหนึ่งเสมอ เขารู้ว่าเพื่อนร่วมทีมแต่ละคนยืนอยู่ตรงไหนบ้าง สายตาของเขาคอยสแกนอยู่ตลอด ก่อนที่เขาจะสัมผัสบอลด้วยซ้ำไป การเป็นนักเตะที่คิดเร็ว ถือเป็นข้อดีของเขาเลย ทำให้เขารู้ตัวเลือกทั้งหมดในการจ่ายบอลไปให้"
หลังจากสร้างชื่อกับเกงค์ ทรอสซาร์ ก็ถูกทีมจอมปั้นอย่างไบรท์ตัน คว้าตัวมาร่วมทีม ผลงานที่น่าประทับใจ ส่งผลให้ทีมยักษ์ใหญ่อย่างอาร์เซน่อล ล่าลายเซ็นมาครอบครอง
ทรอสซาร์ ถือเป็นนักเตะที่ตัวเล็ก เมื่อเทียบกับมาตรฐานของนักเตะยุโรป โดยมีส่วนสูงเพียง 172 เซ็นติเมตร กระนั้น เขาสามารถเอาตัวรอดได้อย่างสบาย โดยเฉพาะกับคู่แข่งที่ตัวใหญ่กว่า สิ่งที่กล่าวมานั้น เกิดจากการหล่อหลอมแนวทางการเล่น สมัยที่ยังเป็นเด็กเยาวชนของเกงค์
ริเบยโร่ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เราคอยสอนทรอสซาร์ เสมอว่า จงอย่าเอาตัวเองเข้าไปในวงล้อมของการดวลที่ดุเดือด เพราะกองหลังร่างยักษ์จะฆ่าเขาแน่นอน เขาควรเล่นให้ชาญฉลาด ด้วยการค้นพาพื้นที่ว่าง และพลิกบอลอย่างรวดเร็ว จากนั้น สถานการณ์ต่างๆจะเข้าสู่การดวล 1 ต่อ 1”
“นักเตะที่สแกนด้วยสายตาดีๆ มักจะเป็นนักเตะที่ตัวเล็ก พวกเขาต้องใช้สมองในการดวล ไม่ใช่ร่างกาย นั่นคือสิ่งที่เขาเป็น เขาเป็นนักเตะฉลาดเป็นกรด และรู้ว่าตัวเองต้องเข้าไปอยู่ใกล้กับขอบเขตโทษ เพราะนั่นคือพื้นที่ที่เขาเชี่ยวชาญที่สุด คุณไม่รู้หรอกว่า เขาจะเลือกจบสกอร์ด้วยตัวเองหรือเปล่า ? เพราะสิ่งที่เขาทำคือมองภาพรวม เขาอาจเลือกจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมก็ได้”
“สมัยที่เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับเกงค์ เขาเริ่มต้นในตำแหน่งกองหน้า แถมเล่นในตำแหน่งปีก และเพลย์เมคเกอร์ ได้อีกด้วย ดังนั้น สิ่งที่เขาลงมือทำกับอาร์เซน่อล ในเวลานี้ ถือเป็นสิ่งที่เขาทำได้มาตั้งแต่อายุ 14-15 ปีแล้ว”
ริเบยโร่ ทิ้งท้ายถึงทรอสซาร์
