นอกจาก “ไค ฮาแวร์ตส์” และ “ดีแคลน ไรซ์” พลพรรค “เดอะ กันเนอร์ส” ปิดดีลนักเตะอีกหนึ่งคน นั่นคือ “ยูร์เรียน ทิมเบอร์” กองหลังจากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ถือเป็นการปาดหน้าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ ที่อยากได้ตัวเช่นเดียวกัน ถือเป็นการขันน็อตในแนวรับของทีม เพื่อให้มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิม น่าเสียดาย ที่เขาต้องเจอกับอาการบาดเจ็บเล่นงานไปเสียก่อน
ทิมเบอร์ แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว พร้อมกับเป็นเพชรเม็ดงามของวงการฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ เขาก้าวมาเล่นทีมชุดใหญ่ของทางอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เป็นเวลา 3 ฤดูกาลเต็ม พร้อมกับกลายเป็นขาประจำของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ นอกจากปราการหลังแล้ว เขายังสามารถขยับออกมาเล่นแบ็คขวาได้อีกด้วย
ช่วงนี้ เราลองย้อนกลับไปดูปูมหลัง และเส้นทางลูกหนังของเขากันหน่อย เจาะลึกไปที่ รวมถึงการวิเคราะห์ว่า อาร์เซน่อล สามารถคาดหวังอะไรกับตัวของทิมเบอร์ ได้บ้าง ?
ยูร์เรียน ทิมเบอร์ เกิด และเติบโตที่เมือง อูเทร็คท์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ นี่คือสถานที่ที่เขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนัง เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับสโมสรเล็กๆในท้องถิ่น ที่ชื่อว่า “DVSU”
นโยบายของ “DVSU” คือพวกเขาจะเปิดการคัดตัว พร้อมกับอนุญาตให้เด็กเข้าร่วมทีม เมื่ออายุครบ 6 ขวบเท่านั้น แน่นอนว่า การคัดตัวแต่ละครั้ง มีเด็กให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก รวมแล้วประมาณครั้งละ 50 คน กระนั้น ทิมเบอร์ ได้รับการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ เขาได้รับอนุญาตมาทดสอบฝีเท้า ด้วยวัยเพียงแค่ 4 ขวบเท่านั้น
“ทวาน เลนเดอร์ส” โค้ชทีมเด็กของ “DVSU” ออกมาบอกว่า การคัดตัวเด็กอายุน้อย ก็เหมือนการเสี่ยงโชคเหมือนกัน สำหรับการควานหาเพชรเม็ดงาม ทว่าทิมเบอร์ ในวัย 4 ขวบ กลับทำในสิ่งที่แตกต่างจากเด็กคนอื่น นั่นคือการเป็นเด็กคนเดียวที่พยายามเดาะบอลอย่างตั้งใจ และทำออกมาได้ดีเสียด้วย
“DVSU” ไม่รอช้า พวกเขาทำการดึงตัวทิมเบอร์ เข้าร่วมอะคาเดมี่ในทันที เพราะทีมรู้ดีว่า นี่คือเด็กที่มีความสามารถ และจะเป็นที่ต้องการของทีมอื่น คำทำนายของเลนเดอร์ส กลายมาเป็นความจริง เมื่อทิมเบอร์ อยู่กับทีม “DVSU” เพียงแค่ 2 ปี หลังจากนั้น เขาก็ถูกเฟเยนูร์ด ดึงตัวไปปั้นต่อ
กระทั่งอายุ 14 ปี เขาก็เจอกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ นั่นคือการย้ายไปฝึกฝีเท้ากับอะคาเดมี่ชั้นนำของโลกลูกหนังอย่าง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
แม้จะเป็นเด็กที่มีแวว พร้อมกับถูกปลุกปั้นมาจากทีมท้องถิ่น และทีมดังอย่างเฟเยนูร์ด แต่ที่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม - ทิมเบอร์ กลายเป็นนักเตะธรรมดาๆ ท่ามกลางนักเตะอายุรุ่นเดียวกัน ที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ที่มากกว่า อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดยอมแพ้ ด้วยการทำงานอย่างหนัก จนสามารถพิสูจน์ตัวเองกับทีมเยาวชน
“โรนัลด์ เดอ บัวร์” อดีตดาวเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่เคยทำงานร่วมกับทิมเบอร์ ในทีมเยาวชนของทีมอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ออกมาย้อนความทรงจำว่า “ทิมเบอร์ ไม่ใช่นักเตะที่มีความพิเศษมากนัก เขาถือเป็นนักเตะที่มีคุณภาพ แต่เรื่องพรสวรรค์ยังไม่โดดเด่นเท่าไหร่”
“ผลสุดท้าย ทิมเบอร์ กลบจุดด้อยของตัวเอง จากการพัฒนาความแข็งแกร่ง และความเร็ว จุดเด่นอีกอย่าง นั่นคือความดุดัน นอกจากนี้ เขายังสามารถตอบโจทย์ด้านของแท็คติก นั่นเพราะเขาเป็นนักเตะที่ลงเล่นได้ในพื้นที่ของสนามที่หลากหลาย” โรนัลด์ เดอ บัวร์ กล่าวแบบนั้น
ขณะที่ “คีส์ ฟาน วอนเดเรน” ที่เคยเป็นโค้ชให้กับทิมเบอร์ ในทีมเยาวชนของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ออกมากล่าวเช่นเดียวกันว่า “ทิมเบอร์ มีสายตาที่เฉียบคม เปี่ยมไปด้วยความเป็นมืออาชีพ ความดุดันในสนามแข่งขัน ทำให้เขาโดดเด่นขึ้นมา”
ช่วงเดือนมีนาคม ปี 2020 “เอริค เทน ฮาก” กุนซืออาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ส่งตัวทิมเบอร์ ลงเล่นทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในเกมชนะฮีเรนวีน 3-1 ถัดมาในปี 2021 ทิมเบอร์ ก็กลายเป็นดาวรุ่งที่ก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงของทีมเป็นผลสำเร็จ
ช่วงเริ่มแรก ทิมเบอร์ คอยสลับบทบาทไปมา ในการเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ กับแบ็คขวา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และคำสั่งของผู้จัดการทีม ผลสุดท้าย เขาค้นพบว่า ตัวเองทำได้ดีในฐานะปราการหลังตัวกลาง กระนั้น เขาก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง โดยเฉพาะกับคำสบประมาทที่ถาโถมเข้ามา
จากการที่มีส่วนสูงเพียง 178 เซ็นติเมตร ทำให้โดนเครื่องหมายคำถามว่าเตี้ยเกินไปหรือไม่ ? ในการเล่นตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง “โรนัลด์ เดอ บัวร์” ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทิมเบอร์ ต้องคอยเอาตัวรอด ด้วยการเล่นอย่างฉลาด และคิดนำคู่แข่ง 2-3 ก้าวเสมอ
ทีมงานโค้ชที่เคยร่วมงานกับทิมเบอร์ ทั้งในสโมสร และทีมชาติ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาเป็นนักเตะที่มีความเล่นเป็นทีม ทิมเบอร์ เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก เขารู้วิธีอ่านเกม ทั้งเกมรับ และเกมรุก แถมมีความฉลาดในการดวลตัวต่อตัว และการเล่นเพรสซิ่ง
อาจกล่าวได้ว่า ทิมเบอร์ เป็นนักเตะที่ผสมผสานเทคนิคส่วนตัว เข้ากับการรับรู้แท็คติกของผู้จัดการทีม นี่คือคุณสมบัติที่เด่นชัดของนักเตะสมัยใหม่ กลับมาที่เรื่องของส่วนสูง 178 เซ็นติเมตร ทิมเบอร์ มีวิธีการจัดการกับมันอย่างน่าสนใจ เหมือนกับรุ่นพี่ของเขาอย่าง “ลิซานโดร มาร์ติเนซ”
ทิมเบอร์ ฝึกซ้อมเพิ่มเติมเรื่องการป้องกันด้วยลูกโหม่ง โดยเน้นไปที่การยืนตำแหน่ง เพื่อป้องกันลูกบอลที่ถูกโยนเข้ามาตรงๆ หรือมาจากมุมของสนาม เขายกระดับตัวเอง ในเรื่องของกล้ามเนื้อขา เพื่อกระโดดให้สูงเข้าไว้ นั่นคือเป็นการลดข้อเสียเปรียบ ในเรื่องของส่วนสูงไปได้
แม้ทิมเบอร์ จะกลายมาเป็นนักเตะซูเปอร์สตาร์ ด้วยวัยเพียง 22 ปี แถมยังมี ชื่อเสียง และเงินทองอย่างมหาศาล แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อนคือ ทิมเบอร์ เป็นคนที่ติดดิน และไม่ลืมรากเหง้าของตัวเองเลย ขณะที่แข้งคนอื่น ที่เริ่มมีชื่อเสียง และเงินทองขึ้นมา มักเลือกออกไปใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง ทำในสิ่งที่อยากทำ และซื้อในสิ่งที่อยากซื้อ
แต่ทิมเบอร์ เขายังอาศัยอยู่ในบ้านที่แสนอบอุ่น ที่ประกอบไปด้วยคุณแม่ และพี่น้องคนอื่นๆ ทิมเบอร์ สนิทกับคุณแม่ และพี่น้องเป็นอย่างมาก เขาถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นเด็กที่สุภาพ และเป็นเด็กดี นั่นเป็นสิ่งที่เขายังยึดมั่นมาถึงทุกวันนี้ โดยอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ในการเป็นนักเตะของทีมที่ยิ่งใหญ่สุดของประเทศเนเธอร์แลนด์ อย่างอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
เขากลับไม่เคยลืมรากเหง้าของตัวเอง นั่นคือการเดินทางกลับไปยังสโมสร “DVSU” อย่างสม่ำเสมอ เพราะเขาตระหนักเสมอว่า นี่ทีมแรกที่มอบโอกาส และปลุกปั้นเขามา จนมีทุกอย่างเหมือนในวันนี้ ทิมเบอร์ ชอบกลับไปดูเกมของเด็กๆจากทีม “DVSU” พร้อมกับให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ต่อเด็กรุ่นใหม่
พร้อมกันนี้ เขายังถ่ายรูปเซลฟี่ และแจกลายเซ็นให้กับแฟนบอลแถวนั้นอย่างเป็นกันเอง โดยไม่เคยปฏิเสธเลย ซึ่งนี่คือเรื่องราวบางส่วนของนักเตะคนใหม่ของอาร์เซน่อล ซึ่งนอกจากเรื่องของฝีเท้า และความเป็นยอดนักสู้ในสนามแล้ว หนึ่งสิ่งที่อาร์เซน่อล จะได้จากตัวของทิมเบอร์ อย่างแน่นอนคือ ทัศนคติที่ยอดเยี่ยม ทั้งใน และนอกสนามนั่นเอง
