นั่นคือรูปแบบที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีหลังไม่ว่าจะเปลี่ยนกุนซือเป็นใครก็ตาม จนแฟนๆ แมนเชสเจอร์ ยูไนเต็ด ชินตาแต่ยังรับไม่ได้กับผลงานอันไร้ความต่อเนื่องของทีม

อย่างล่าสุดมันกลับมาหลอกหลอนสาวก ปิศาจแดง เหมือนเคย ซึ่งหนนี้คงหลีกเลี่ยงคำถามที่พุ่งตรงไปหา เอริก เทน ฮาก ไม่ได้

นักข่าวอังกฤษสอบถาม 'อีทีเอช' หลังจบเกมแพ้ พาเลซ คาบ้านว่ากุนซือชาวเนเธอร์แลนด์กังวลหรือไม่กับสถานการณ์ผลงานขึ้นๆ ลงๆ เช่นนี้ เพราะดูเหมือนทีมจะกลับเข้าสู่วงจรชนะ 2-3 นัดจากนั้นแพ้และได้ยินคำพูดซ้ำๆ คล้ายแผ่นเสียงตกร่อง

แน่นอนว่า เทน ฮาก ทราบดีถึงปัญหาแถมอยากหนีให้พ้นเรื่องนี้อย่างมาก แต่ปัจจัยสำคัญที่ทีมไม่สามารถหาทางออกสลัดพ้นเป็นเพราะผลงานที่ไร้ความต่อเนื่องหรือคงเส้นคงวา

'พวกเราต้องทำให้ดีกว่านี้'

'พวกเราต้องทำเดี๋ยวนี้'

'พวกเราต้องกลับมาสู่เส้นทาง'

หรือ 'พวกเราต้องกลมเกลียวกันไว้'

นั่นคือคำพูดเดิมๆ ที่ได้ยินหลังจาก แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดท่าหรือทำผลงานย่ำแย่ ซึ่งฟังแล้วเหมือนดูดีแต่ฟอร์มหลังจากนั้นกลับไม่มีอะไรให้เห็นถึงการพัฒนา

อย่างที่ย้ำมาตลอดว่าปัญหาจริงๆ คือเรื่องสภาพจิตใจของนักเตะที่ถูกกัดกินมานาน และยิ่งเกมไหนถูกนำไปก่อนส่วนใหญ่ก็มักลงเอยด้วยการปราชัย

มีบ้างที่แซงชนะ แต่ปัญหาสำคัญที่แสดงให้เห็นคือเมื่อไหร่ก็ตามที่ ปิศาจแดง โดนไปก่อนไม่ว่าจะเล่นในรังหรือออกไปเยือน สภาพจิตใจและสีหน้าท่าทางของนักเตะถูกอ่านได้ง่ายอย่างมาก

เรื่องที่ เทน ฮาก และนักเตะทำได้คงมีเพียงการลงไปพิสูจน์ในสนามเท่านั้น เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะพูดอะไรออกมาไม่ได้ต่างจากคำแก้ตัวที่พร้อมโดนสื่อหรือบรรดานักท่อง โซเชียล มีเดีย นำไปตีความต่างๆ นานา

สิ่งสำคัญคือฟอร์มการเล่นที่ต้องพัฒนาให้เห็นผล ก้าวข้ามอุปสรรคและหนีจากวงจรน่าอึดอัดเหล่านี้ไปให้ได้

การทำงานในเรื่องเหล่านั้นอาจไม่ง่าย แต่มันคือสิ่งที่ 'อีทีเอช' ต้องแสดงให้เห็นหากต้องการเดินทางไปกับสโมสรและพิสูจน์ว่าตนเองคือคนที่ใช่ในการเข้ามาเปลี่ยนแปลง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

ขอเน้นย้ำว่าทุกอย่างอยู่ที่ผลงานโดยเฉพาะการเล่นที่ต้องมีเอกลักษณ์หรือรูปแบบของทีมที่ควรจับต้องได้และพร้อมเอาตัวรอดในเกมที่อึดอัดหรือยากลำบาก

ที่กล่าวมาคือช่องว่างของ ปิศาจแดง ที่ยังห่างกับทีมชั้นนำ ซึ่งสามารถเอาตัวรอดในยามคับขันได้เสมอ หรือผลงานที่ดูเป็นทรงการเล่นชัดเจน

แน่นอนบรรดายักษ์ใหญ่มีพลาดท่าบ้าง แต่เรื่องดังกล่าวไม่ต่างจากอุบัติเหตุทางลูกหนัง เพราะจากนั้นพวกเขาสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วและกลับไปทำผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง

กำแพงและเส้นแบ่งดังกล่าวคือสิ่งที่ 'อีทีเอช' ต้องพาลูกทีมก้าวข้ามไปให้ได้ เพราะหากยังอยู่ในวัฏจักรเดิม พวกเราก็คงเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ