:::     :::

กว่าจะมาเป็น "ดีแคลน ไรซ์"

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
407
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
กลายเป็นนักเตะอังกฤษ ที่มีความเนื้อหอมมากสุดในช่วงซัมเมอร์นี้

สำหรับ “ดีแคลน ไรซ์” กองกลางกัปตันทีมของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ผลสุดท้าย เขาตอบตกลง ด้วยการย้ายไปร่วมทีมคู่ปรับแห่งกรุงลอนดอนอย่างอาร์เซน่อล 


นอกจากฝีเท้าที่โดดเด่นแล้ว หนึ่งสิ่งที่ทำให้ไรซ์ ถูกประเมินค่าตัวเอาไว้อย่างมหาศาล นั่นคือเขาเพิ่งอายุเพียง 24 ปี นั่นหมายความว่า ระยะการใช้งาน และเส้นทางลูกหนังของเขายังคงเหลืออีกยาวไกล 

อย่างที่เราทราบกันแล้ว ไรซ์ เติบโตกับระบบเยาวชนของสโมสรเชลซี ก่อนโดนปล่อยตัวออกจากทีม


จากนั้น กลายเป็นเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่มารับช่วงต่อ ก่อนจะปลุกปั้นจนกลายเป็นสุดยอดมิดฟิลด์ ที่ครบเครื่องเหมือนทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อน เกี่ยวกับตัวไรซ์ นั่นคือเขาเกือบไม่ได้ไปต่อ ในระบบอะคาเดมี่ของ “ขุนค้อน” เช่นกัน 


เหตุผลที่น่าตกใจคือ ทีมงานของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เกิดความลังเลว่า ไรซ์ จะพิสูจน์ตัวเองได้หรือไม่ ? เพราะท่าวิ่งของเขาแปลกเกินไป ช่วงนี้ เราลองไปย้อนความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน พร้อมกับไปดูกันหน่อยว่าไรซ์ สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาดังกล่าวมาได้ยังไง ? 

ไรซ์​ เกิด และเติบโตที่กรุงลอนดอน เมืองหลวงประเทศอังกฤษ ในวัยเพียง 7 ขวบ เขาตบเท้าเข้าระบบอะคาเดมี่ของเชลซี เขาใช้เวลากับพลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม จูเนียร์” จนถึงอายุราว 14 ปี เขาก็โดนปล่อยตัวออกจากทีม 


นอกจากเชลซี มอบเหตุผลในการปล่อยตัวครั้งนั้นว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโครงสร้างทางร่างกายของไรซ์ ที่ถูกมองว่าแข็งแกร่งน้อยเกินไป ส่วนอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญ ที่ถูกนำมากล่าวอ้าง นั่นคือไรซ์ มีความเชื่องช้า โดยเฉพาะเท้าทั้งสองข้างของเขา 


ความเชื่องช้าของเท้า เกิดขึ้นทั้งตอนครองบอล และการวิ่งแบบเต็มสปีด ทำให้เขาไม่ได้ไปต่อกับเชลซี ประกอบกับเชลซี เป็นแหล่งรวมนักเตะเยาวชนฝีเท้าดีเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่า นักเตะกองกลางหลายคนมีแววมากกว่าไรซ์


ส่งผลให้ไรซ์ จำเป็นต้องเก็บข้าวของออกจากถิ่น “สแตมฟอร์ด บริดจ์” พร้อมกับคราบน้ำตาแห่งความผิดหวัง โดยเวสต์แฮม ยูไนเต็ด คือสโมสรที่เข้ามารับช่วงต่อ ด้วยการรับไรซ์ เข้าร่วมทีม อะคาเดมี่ พร้อมกับเปิดโอกาส และมอบทุนการศึกษา


ไรซ์ เริ่มฉายแววที่เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มากขึ้นเรื่อยๆ พรสวรรค์ของเขาเริ่มถูกพูดถึงในวงกว้าง กระนั้น “ขุนค้อน” กลับพบปัญหาบางอย่างในตัวของไรซ์ ก่อให้เกิดความลังเลว่า เด็กคนนี้จะต่อยอดกับสโมสรได้หรือไม่ 


โดยปัญหาที่ว่านั้นคือ “ท่าทางการวิ่ง” นำมาซึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่สโมสรต้องนำมาขบคิด เพื่อกำหนดอนาคตของนักเตะคนนี้ 

ไรซ์​ ย้อนความทรงจำว่า ช่วงตอนเป็นนักเตะดาวรุ่งของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด เขามีท่าทางการวิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นๆ โดยบอกว่า “สไตล์การวิ่งของผมแตกต่างออกไป นั่นเพราะร่างกายของผมไม่ได้เชื่อมต่อกันอย่างเป็นธรรมชาติ” 


“ทำให้รูปแบบการวิ่งของผมแปลกประหลาดมาก ดังนั้น ผมจึงวิ่งตามเด็กคนอื่นไม่ค่อยทันเลย“ หากเราจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ขณะที่ทำการวิ่ง รวมถึงการเร่งฝีเท้านั้น ไรซ์ มีการจัดระเบียบร่างกายที่ไม่ถูกต้อง อาจเป็นเพราะความเคยชินวัยเด็ก


เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไม่รอช้า ด้วยการยื่นมือมาช่วยเหลือไรซ์ ในทันที .... ความคิดที่ว่าไรซ์ อาจไปไม่รอด ถูกแทนด้วยความคิดว่า อยากลองเสี่ยงดู หากเจาะลึกไปที่ระบบการทำงาน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มีแผนพัฒนานักเตะ ทั้งในนามทีมชุดใหญ่ และเยาวชน แบบเป็นรายบุคคล 


เมื่อไรซ์ ถูกประเมินอย่างละเอียดแล้วว่า โครงสร้างสร้างกายมีปัญหา และท่าทางการวิ่งผิดธรรมชาติสโมสรจึงเข้ามาซัพพอร์ทในเรื่องการจัดหาโค้ชส่วนตัว เพื่อมาเพิ่มเติมความแข็งแกร่ง และปรับการเคลื่อนไหวของร่างกาย 


สโมสรตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่า หากโครงสร้างร่างกาย และสไตล์การวิ่งของนักเตะมีปัญหา การขับเคลื่อนเกมในสนามก็จะมีปัญหาตามไปด้วย ดังนั้น ไรซ์ จึงมอบเวลาหลังจากการฝึกซ้อม หรือลงแข่งขันแบบตามปกติ เพื่อเข้าคอร์สปรับปรุงการวิ่งแบบส่วนตัว ที่สโมสรจัดเตรียมเอาไว้ให้ 


โค้ชจะดำเนินการ และเก็บรวบรวมสถิติ จนเกิดความแน่ใจว่า ปัญหาของนักเตะคนนั้นๆ ได้รับการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ไรซ์ ออกมายอมรับว่า ช่วงเวลาที่เขาเป็นนักเตะเยาวชน ทีมงานของสโมสรเวสตแฮม ยูไนเต็ด มีความกังวลเรื่องท่าทางการวิ่งของเขาพอสมควร กระนั้น ตัวเขาเองกลับมีความคิดว่า ทุกอย่างสามารถปรับปรุง และพัฒนาให้ดีขึ้นได้ 


ผลสุดท้าย ไรซ์ ทำงานกับโค้ชส่วนตัวอย่างหนัก การจัดระเบียบร่างกายถูกลบจุดด้อยทีละเล็กทีละน้อย ปัจจุบัน ไรซ์ มีเอกลักษณ์ และประสิทธิภาพในการวิ่งที่ยอดเยี่ยมเอามากๆ โดยเฉพาะสถิติในพรีเมียร์ลีก 


จากการจดบันทึกการวิ่งในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ไรซ์ ก้าวมาติด 1 ใน 3 ของนักเตะที่โดดเด่นในเรื่องของการวิ่ง โดยเป็นการคำนวนจากการเฉลี่ยการวิ่ง 3 รูปแบบ นั่นคือการวิ่งแบบทำความเร็ว, การวิ่งแบบออกตัวสปรินท์ และการวิ่งแบบระยะทางรวม


สื่อต่างประเทศ ทำการวิเคราะห์มาอย่างละเอียดว่า ท่าทางการวิ่งของไรซ์ ถูกต้องหรือไม่ ? ก่อนจะพบว่า มันมีประสิทธิภาพอย่างมีนัยยะสำคัญ เริ่มจากการดูแลร่างกาย ไรซ์ มีกล้ามเนื้อที่ลีนเอามากๆ ดังนั้น มันจึงช่วยให้เขาออกตัววิ่ง และพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว 


เรามาต่อกันที่ส่วนต่อขยายของสะโพก และข้อเท้า ทำให้เขาสามาระระเบิดพลังได้มากขึ้น เมื่อมันถูกเชื่อมต่อกับการทำงานของบริเวณกล้ามเนื้อขา จากนั้น ไรซ์ มีการจัดระเบียบ ในส่วนของสะโพกที่ยอดเยี่ยมมาก การงออยู่ในระดับที่เหมาะสม 


ประกอบกับการวางตำแหน่งหัวเข่าให้สูงขึ้น ทำให้ช่วยเพิ่มความยาวในการก้าวขา จนทะยานไปข้างหน้าได้ไกลกว่าเดิม นอกจากนี้ ไรซ์ ยังไม่ได้เป็นนักเตะที่ก้มหน้าก้มตาวิ่ง หรือเลี้ยงฟุตบอลเพียงอย่างเดียว 


ระหว่างทำการวิ่ง เขาจะเงยหน้า เพื่อประเมินสถานการณ์รอบตัวไปด้วย ทำให้เขาสามารถระบุตำแหน่ง และเปลี่ยนทิศทางการวิ่งได้อย่างฉับพลัน หากสังเกตกันดีๆ ไรซ์ เป็นนักเตะที่ชอบวิ่ง และให้ลูกฟุตบอลอยู่ในรัศมีของสายตาเสมอ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ ในจังหวะการเล่นครั้งต่อไป


ปิดท้ายกันที่อีกหนึ่งปัจจัยอย่างคือ ไรซ์ ออกกำลังกายในส่วนของกล้ามเนื้อแกนกลาง ส่งผลให้การเปลี่ยนทิศทางการวิ่ง เป็นไปได้อย่างมีเสถียรภาพ ไม่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บ เทอร์รี่ เวสท์ลี่ย์ อดีตนายใหญ่อะคาเดมี่ของ “ขุนค้อน” ย้อนความทรงจำว่า ไรซ์ พัฒนาการวิ่งของตัวเองได้อย่างน่าชื่นชม 


โดยกล่าวว่า “ผมมองไม่เห็นความเชื่องช้าในขาทั้งสองข้างของไรซ์ เลย เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมมาก เขาจัดการกับลูกฟุตบอลได้เร็วมาก โดยเฉพาะแถวกรอบ 18 หลา ภายใต้ความกดดันมหาศาล เขายังส่งบอลต่อให้เพื่อนร่วมทีมได้”


“ไรซ์ พัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว นั่นส่งผลต่อพัฒนาการของเขาเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ตอนที่ไรซ์ ต้องมาปรับปรุงเรื่องการวิ่งของตัวเอง เขาทีทัศนคติเป็นอาวุธ เขามีความคิดแค่ว่า ต้องทำงานให้หนักที่สุด เพื่อเปลี่ยนแปลงมันให้ได้”


ผลสุดท้าย ทีมงานทุกคนคงอดภาคภูมิใจไม่ได้ว่า การเดิมพันของพวกเขา ช่วยสร้างให้ไรซ์ กลายเป็นสุดยอดมิดฟิลด์ที่ครบเครื่องเหมือนในทุกวันนี้  ทั้งในแง่ของความสามารถ, เทคนิค, โครงสร้างร่างกาย, มุมมองต่อเกม และที่สำคัญคือสิ่งที่เรียกว่าคาแร็คเตอร์


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด