:::     :::

"โค้ชอ้น" กับการอำลาที่แฟนบอล "โปลิศ เทโร" ใจหาย

วันอังคารที่ 07 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
477
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เรียกว่าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกจริงๆ สำหรับ "มังกรโล่เงิน" โปลิศ เทโร อดีตยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย หลังจากได้รับข่าวดีไม่นาน

เมื่อกลุ่มทุนจากกัมพูชา พระองค์เจ้านโรดม อัมฤทธิวงศ์, สมเด็จพระนโรดม นรินทรพงษ์ และ เจ้าชายนโรดม รวิจักร์ ตบเท้าเข้ามาบริหารงานสโมสร พร้อมตั้งเป้าจะพาทีมกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากได้แชมป์ครั้งสุดท้ายคือ โตโยต้าลีก คัพ เมื่อปี 2014 


หลายปีที่ผ่านมา โปลิศ เทโร มีปัญหาการเงินอย่างหนัก ทำให้ต้องขายนักเตะตัวหลักออกจากทีมทุกตลาดซื้อขาย เพื่อนำเงินมาประคองทีมให้อยู่รอด แต่ก็ไม่เพียงพอต้องค้างค่าเหนื่อยนักเตะและทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชหลายเดือน

การได้กลุ่มทุนใหม่ที่ประกาศ “ชำระหนี้” เดิมทั้งหมด รวมทั้งสะสางค่าเหนื่อยที่ค้างนักเตะและสต๊าฟฟ์โค้ช ก่อนที่จะทุ่มเงินซื้อนักเตะเข้ามาล่าความสำเร็จ ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีของทีม 

แฟนบอลคิดไปไกลว่า หากทีมมีนักเตะฝีเท้าดีอยู่ในมือของ “โค้ชอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กุนซือหน้าหยก เชื่อว่า “มังกรโล่เงิน” พร้อมบวกทุกทีม 


ขนาดทีมสถานะการเงินฝืดเคือง มีกลุ่มนักเตะโนเนม และรวมแข้งดาวกระจาย “โค้ชอ้น” ยังพาทีมจบอันดับกลางตารางสวยๆ ได้เลย 

แต่ฟ้าผ่ากลางสนามบุญยะจินดาหลังจบเกมรีโวไทยลีก นัดมันเดย์ไนท์ ที่ โปลิศ เทโร เปิดบ้านเสมอกับ ลำพูน วอร์ริเออร์ สุดมัน 2-2 เมื่อหลังเกม “โค้ชอ้น” ได้ระดมพลนักเตะในห้องแต่งตัวก่อนประกาศดังเปรี้ยงว่า “ขออำลาทีม” 

แน่นอนว่าไม่มีใครได้เตรียมใจกับการแยกทางครั้งนี้ เพราะหาก ไบรอัน มาคาร์ คือตัวตนของ โปลิศ เทโร ฝั่ง “โค้ชอ้น” เองก็ไม่ต่างจาก “หัวใจ” ของทีม


เพราะในยามที่ทีมลำบาก “โค้ชอ้น” ยืนอยู่เคียงข้างทีมเสมอ คอยปรับแต่ง จูนเครื่องจากทีมหนีตกชั้นให้กลายเป็นทีมกลางตารางได้อย่างสบายๆ เมื่อเทียบกับงบประมาณแบบจำกัดจำเขี่ย 

เท่านั้นยังไม่พอ “โค้ชอ้น” ยังปั้นนักเตะโนเนมอย่าง เจนภพ โพธิ์ขี และ ชานุกูล ก๋ารินทร์ ให้ก้าวไปติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มาแล้ว ซึ่ง ณ เวลานั้นต้องยอมรับว่าทั้งคู่ฟอร์มการเล่นร้อนแรงและเหมาะสมกับการติดหมวกทีมชาติจริงๆ ไม่ใช่เด็กเส้นอย่างแน่นอน

ขนาด สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูจอมเก๋า ที่เกือบจะแขวนถุงมือก็ได้ “โค้ชอ้น” กวักมือเรียกให้กลับมาหาความท้าทายใหม่กับ โปลิศ เทโร ชนิดที่ “ซูเปอร์ตี๋” เองยอมรับเลยว่าถ้าไม่ใช่ พี่อ้น ตัวเองคงแขวนถุงมือไปนานแล้ว


สถานการณ์ตอนนี้ของ โปลิศ เทโร ไม่ต่างจากเรือที่ลอยอ้างว้างอยู่กลางทะเล ไม่รู้ว่าอนาคตของทีมจะไปทางไหน เมื่อไม่มีหัวเรือใหญ่ในการนำพาทีมฝ่ามรสุมลูกใหม่ เพราะมีรายงานว่าทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชอาจจะลาออกยกทีมด้วยเช่นกัน

ขณะที่ “โค้ชอ้น” เองมีข่าวลือออกมา 2 ทางเกี่ยวกับเส้นทางต่อไปของเขานั่นคือ เมืองทอง ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี 

ตอนนี้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังไม่มีกุนซือตัวจริง ยังคงใช้ อุทัย บุญเหมาะ ขัดตาทัพอยู่ แน่นอนว่า “โค้ชอ้น” เองมีข่าวเชื่อมโยงกับ “กิเลนผยอง” มานานแล้ว 

ว่ากันว่าดีลนี้มีน้ำหนักไม่น้อย แถมได้แรงสนับสนุนจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่มีความสนิทสนมกับกับทางฝั่ง เมืองทอง ยูไนเต็ด และ “โค้ชอ้น” ด้วย


ตอนนี้อดีตแชมป์ไทยลีก 4 สมัยกำลังสร้างทีมใหม่ การได้กุนซือหน้าหยกไปคุมทัพน่าจะเป็นอะไรที่ลงตัว 

ส่วน “การท่าเรือ” ตอนนี้กุนซือคู่อย่าง “โค้ชอั๋น” สุรพงษ์ คงเทพ กับ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ สถานการณ์ไม่ดี หลังพาทีมแพ้ 3 นัดติดต่อกันทุกรายการ

 “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร ชื่นชอบฝีมือและคาร์แรกเตอร์ของ “โค้ชอ้น” อยู่แล้ว 

หากจะด่วนเปลี่ยนกุนซือตอนนี้ดูจะเร่งรีบเกินไปหน่อย แถม “โค้ชอ้น” ไม่ใช่สไตล์ที่มาแล้วจะเปลี่ยนทีมได้ทันที เขาต้องใช้เวลาสร้างทีม แถมวัฒนธรรมอยู่แบบ “ครอบครัว” จะถูกใจ “โค้ชอ้น” หรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ 

อย่างไรก็ตามไม่ว่าฉากต่อไปของ “โค้ชอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค จะไปที่ไหน ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาคือหนึ่งในสุภาพบุรุษลูกหนังทั้งในและนอกสนาม 


นี่คือตำนานของทีมตัวจริง เสียงจริง ที่น่านับถือเป็นอย่างยิ่งสำหรับชาว โปลิศ เทโร แม้การอำลาทีมครั้งนี้จะขยี้ใจเพียงใด แต่อย่างน้อยทุกวินาทีที่อยู่กับทีม ผู้ชายคนนี้ก็ทุ่มเทให้กับทีมมากจริงๆ  

นี่แหละเขาเรียก อยู่ให้รัก จากไปให้เขาคิดถึง ขอให้โชคดีกับเส้นทางใหม่ครับ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด