แมน : หวัดดีครับน้องต๋อง พี่ติดตามผลงานเราอยู่ เห็นฟอร์มดีมาก ก็เลยอยากจะพูดคุยเอาไปเขียนเป็นคอลัมน์แนวถามตอบหน่อยครับ

นรงค์ฤทธิ์ : อ๋อได้ครับพี่แมน เคยอ่านคอลัมน์พี่อยู่ครับ

แมน : ช่วยเล่าให้พี่ฟังก่อนแล้วกันนะ ว่าเส้นทางอาชีพนักเตะของเราเป็นมายังไงบ้าง นี่เป็นปีแรกในไทยลีกอย่างเต็มตัวเลยมั้ย

นรงค์ฤทธิ์ : ตอนมัธยมผมเรียนที่อัสสัมชัญกรุงเทพครับ แล้วก็ย้ายไปอยู่ทีมเยาวชนของ พัทยา ยูไนเต็ด อยู่ได้ปีเดียวยังไม่ได้ขึ้นชุดใหญ่ พอปี 2554 ตอนนั้นผมอายุประมาณ 19 ก็ไปอยู่กับ ศรีสะเกษ เป็นปีแรกที่ได้เล่นไทยลีกเลยครับ 

แมน : อืมๆ พี่คุ้นๆ แฮะ ตอนนั้นยอมรับว่าจำชื่อไม่ได้ แต่คุ้นว่าปลายๆ ฤดูกาลนั้นมีกองหลังศรีสะเกษอยู่คนนึงอายุยังน้อย ตัวสูงๆ แต่ผอมบางมาก คนนั้นน่าจะเป็นต๋องล่ะมั้ง

นรงค์ฤทธิ์ : ใช่แหละพี่ ผมอยากจะขอบคุณ รอยส์เตอร์ โมไรร่า มากๆ เขาเป็นคนที่ให้โอกาสผมลงเล่นไทยลีกครั้งแรกเลย ผมได้ลง 10  เกมสุดท้ายของฤดูกาล ตอนนั้นเป็นช่วงก่อนที่ศรีสะเกษจะเปลี่ยนเป็นทีมอีสาน ยูไนเต็ด ชุดนั้นก็มีพวก พี่กอล์ฟ วุฒิชัย ทาทอง, พี่เอี่ยว หัฐพร สุวรรณ, พี่ตั๊ก เอกพันธ์ จันดากรณ์ ปีต่อมาผมมีปัญหาอาการบาดเจ็บหนักต้องผ่าตัดหัวเข่า สโมสรตอนนั้นเปลี่ยนผู้บริหารแล้วอยู่ๆ เขายกเลิกสัญญาผมเฉยเลย ผมต้องรักษาตัวอยู่ครึ่งปีกว่า จนมาปี 58 อ.พยงค์ ขุนเณร แกชวนผมให้ไปอยู่ พีทีที ระยอง กับแก ผมก็อยู่กับ ปตท. มาจนถึงปีที่แล้ว พี่เขต (เขตพงษ์ กุลนารถศิริ) แล้วก็พี่เบ๊ (ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก) ก็ชวนให้มาร่วมทีม สุโขทัย ด้วยครับผม

สมัยร่วมงานกับ อ.พยงค์ ขุนเณร ในทีม พีทีที ระยอง

แมน : ต๋องสูง 187 ซม. ใช่มั้ย แต่ก่อนดูผอมมากแล้วตอนนี้ไปเล่นเวทยังไงถึงได้รูปร่างกำยำขึ้นแบบนี้ ทางสุโขทัยเขาสั่งให้เราเข้าคอร์สพิเศษหรือเปล่า

นรงค์ฤทธิ์ : ผมเริ่มกินโปรตีนแล้วก็เล่นฟิตเนสมาตั้งแต่ตอนอยู่ ปตท. แล้วครับ พี่โจ ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ตอนนั้นแกเข้ามาเป็นโค้ชแล้วก็แนะนำผมว่าต้องสร้างกล้ามเนื้้อเพิ่มน้ำหนักให้มันสัมพันธ์กับส่วนสูง เพราะตำแหน่งกองหลังเรื่องความแข็งแกร่งและรูปร่างมันมีผลมากๆ ครับ ตอนนี้ทางสโมสรก็มีโปรแกรมฟิตเนสให้ผมซ้อมอยู่ตามปกติครับ

แมน : ต๋องเล่นกองหลังสไตล์แบบไหนนะ เป็นตัวชนหรือตัวซ้อน

นรงค์ฤทธิ์ : ผมเป็นตัวชนครับ สไตล์บู๊ๆ ดุดันนี่แหละพี่ ที่สุโขทัยผมเล่นคู่กับพี่ปรัชญ์ (สมัครราษฎร์) ส่วนใหญ่ผมก็จะชนให้ก่อน แล้วพี่ปรัชญ์ จะคอยอ่านทางบอลคอยซ้อนอีกที แต่ก็แล้วแต่จังหวะด้วยครับ เพราะระบบกองหลังคู่ต้องเล่นได้ทั้งสองแบบ พี่ปรัชญ์เขาก็จะเป็นเหมือนผู้นำในแนวรับ คอยเช็คไลน์ให้แผงหลังขยับขึ้นขยับลง แต่ละตำแหน่งก็จะมีลีดเดอร์ กองกลาง กองหน้าก็มีเหมือนกัน

แมน : พี่เบ๊เป็นคนกำหนดหรอว่าใครต้องเป็นบอสในตำแหน่งไหน หรือนักเตะมอบหน้าที่ให้กันเอง 

นรงค์ฤทธิ์ : นักเตะคุยกันเองครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่มีประสบการณ์มีอาวุโสมากกว่า แต่เราก็จะคอยช่วยให้เสียงกันตลอดอยู่แล้ว 

ปรัชญ์ สมัครราษฎร์ กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งที่สุโขทัย

แมน : ต๋องเคยมีดีกรีติดทีมชาติไทยชุดไหนมาบ้างหรือยัง

นรงค์ฺฤทธิ์ : เคยติดทีมยู-16รุ่นเดียวกับ ตัง สารัช (อยู่เย็น), แบ็ค อาทิตย์ (ดาวสว่าง) คนอื่นๆ ก็หายหน้าหายตาไปเยอะแล้ว ตอนนั้นเป็นทีมนักเรียนไทยครับ รอบชิงเราไปแพ้อิหร่าน แล้วก็อีกชุดนึงเป็นชุดยู-22 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกที่ลาว ตอนนั้น มาโน่ โพลกิ้ง เป็นคนคุมทีมไปแล้วเราตกรอบแรกครับ ผมก็เล่นในชุดนั้นด้วย

แมน : ใช่ปี2013 ที่จัดยู-22 ชิงแชมป์เอเชียครั้งแรกเลยรึเปล่า จำได้แระเป็นครั้งต่อจากซีเกมส์ที่เราไปตกรอบแรกที่อินโดนีเซีย แล้วในปีนั้นเราก็กลับมาเป็นแชมป์ซีเกมส์ที่พม่า ที่พี่ซิโก้เข้ามาคุม

นรงค์ฤทธิ์ : ใช่ครับครั้งนั้นแหละพี่ ทีมชาติไทยชุดปัจจุบันก็มีมาจากรุ่นนั้นหลายคนเลย

แมน : ฤดูกาลนี้เราได้ลงตัวจริงให้ สุโขทัย อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เพิ่งขึ้นชั้นมาจาก พีทีที ระยอง ในT2จนมีแฟนบอลและสื่อตั้งฉายาให้ว่า ต๋อง จะเป็น พรรษา เหมวิบูลย์ คนต่อไป เพราะ "โย่ง" ก่อนมาโด่งดังกับ บุรีรัมย์ ก็เป็นแข้งโนเนมจากลีกล่างจากทีม จามจุรี ยูไนเต็ด มาก่อน ต๋องรู้เรื่องนี้มั้ยว่าเขานำมาเปรียบเทียบกัน

นรงค์ฤทธิ์ : ทราบครับ ผมชอบการเล่นของแก ผมก็อยากเป็นเหมือนพี่โย่งเหมือนกัน ที่ประสบความสำเร็จ ได้เล่นในถ้วยสโมสรเอเชีย และติดทีมชาติไทย การติดทีมชาติมันคือความฝันของนักเตะทุกคนอยู่แล้วครับ

"โย่ง" พรรษา ไอดอลของ "ต๋อง" ที่อยากเดินตามรอยเส้นทางนักเตะ

แมน : มิโลวาน ราเยวัช หรือสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติเขาเคยมาดูฟอร์มเราบ้างมั้ย หรือมาดูทีมสุโขทัยเตะ

นรงค์ฤทธิ์ : ไม่เคยเห็นเลยนะครับ น่าจะยังไม่เคยมา

แมน : ถ้าเกิดโค้ชทีมชาติมานั่งดู คิดว่าจะตื่นเต้นมั้ย เพราะมีหลายคนแล้วนะ ที่ฟอร์มกำลังดีๆ พอเห็น ราเยวัช มานั่งดู กลายเป็นว่าเล่นไม่เป็นตัวของตัวเองเลย  

นรงค์ฤทธิ์ : ผมคงไม่นะพี่ ก็คงเล่นให้เต็มที่เหมือนที่เคยทำมาตลอด สมาธิผมน่าจะอยู่ในเกมมากกว่า

แมน : ปลายปีนี้มี ซูซูกิ คัพ แล้วนโยบายของสมาคมคือจะให้โอกาสผู้เล่นหน้าใหม่ คิดว่าด้วยผลงานตอนนี้ น่าจะช่วยให้เราก้าวไปใกล้การติดทีมชาติไทยมากน้อยแค่ไหนแล้ว

นรงค์ฤทธิ์ : ผมคิดว่าก็น่าจะมีโอกาสนะ เพราะด้วยสไตล์ของ ราเยวัช ด้วยที่เขาจะเน้นเกมรับ และชอบกองหลังที่ตัวสูงใหญ่ ในเมืองไทยก็ไม่ได้มีเยอะเท่าไหร่ ถ้าวันนึงโอกาสเป็นของเรา ผมคงดีใจมาก และจะพยายามไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังให้ได้ครับ

แมน : ถามถึง สุโขทัย บ้างดีกว่า ตอนนี้ขึ้นมาอยู่กลุ่มหัวตารางแล้ว เหนือความคาดหมายของตัวเองมั้ย ทั้งที่ก่อนจะเริ่มฤดูกาลหลายคนมองว่าเป็นทีมหนีตกชั้น

นรงค์ฤทธิ์ : ถ้าตอนนี้ผมคิดว่าเราไม่ใช่ทีมหนีตกชั้นแล้วนะ เราดีกว่านั้นมากแล้ว กองหน้าเราก็ดีสามารถพลิกเกมได้ตลอด ถ้าไม่โชคร้ายเจ็บพร้อมกันหมดทั้ง 3 คน (เนลสัน โบนีญ่า, มาร์ติน เอ็นจีว่า, จอห์น บาจโจ้) ผมว่าเราดีพอที่จะอยู่ในอันดับเลขตัวเดียวได้เลย

แมน : กองหน้าต่างชาติ 3 คนนี้ ส่วนตัวต๋องชอบใครมากที่สุด

นรงค์ฤทธิ์ : นิสัยดีกันทั้ง 3 คนเลยครับพี่ ถ้าชอบที่สุดผมชอบ เอ็นจีว่า นะเพราะเขาเร็วและแข็งแกร่งมาก เวลาเสียบอลในแนวรุกเขาจะลงมาช่วยเกมรับด้วยตลอด ส่วน โบนี่ ก็เก่งมากผมยังไม่เคยเห็นกองหน้าคนไหนในลีกเราเก่งขนาดนี้มาก่อนเลย คลาสของเขามันเหนือชั้นมากอะพี่

3หัวหอกฟอร์มเทพของ "ค้างคาวไฟ"

แมน : ลูกจุดโทษที่ โบนี่ ไปยิงชิพชนคานช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ที่ยิงแบบ "ปาเนนก้า" อะ แล้วกลายเป็นแพ้ ราชนาวี 2-3 เกมนั้นเขาโดนเพื่อนร่วมทีมหรือโค้ชเบ๊บ่นบ้างมั้ย 

นรงค์ฤทธิ์ : เขาก็พูดขอโทษในห้องแต่งตัวนะครับ แต่ไม่มีใครต่อว่าอะไรเขาเลย เพราะไม่มีใครอยากจะยิงไม่เข้าหรอก เกมนั้นเขาก็ยิงไปแล้วคนเดียว 2 ลูก แต่เอาจริงๆ นะตอนที่เห็นเขายิงชิพไปกลางประตูแบบนั้น ผมนี่แทบล้มทั้งยืนเลย 

แมน : โค้ชเบ๊ เป็นโค้ชแบบไหนในสายตาของลูกทีมอย่างต๋อง แกดุมั้ย

นรงค์ฤทธิ์ : พี่เบ๊ไม่ดุนะครับ แกเป็นโค้ชที่เก่งเลยแหละ ในเรื่องแท็กติกการวางเกม อธิบายให้พวกเราเข้าใจได้ง่าย แกมีจิตวิทยาที่ดีมากในการกระุตุ้นนักเตะครับ

แมน : นี่ขนาดไม่ดุนะ ปีนี้โดนกรรมการเชิญออกไป 2 ครั้งแระ 555

นรงค์ฤทธิ์ : 555 นั่นสิครับ

โค้ชเบ๊ไม่ดุจริงๆนะ

แมน : ต๋องมีนักเตะที่เป็นไอดอลมั้ย ไทยหรือต่างชาติก็ได้

นรงค์ฤทธิ์ : ถ้าเป็นคนไทย ผมชอบ พี่โย่ง ครับ เพราะแกเป็นแบบอย่างให้รุ่นน้องได้ทั้งการเล่นและเรื่องนอกสนามที่ขยันฝึกซ้อมวางตัวดี และผมเองก็อยากติดทีมชาติได้เข้าไปเล่นร่วมกับแก ตอนคิงส์คัพ ผมดูอยู่ทางทีวีก็มีลองจินตนาการไปบ้างว่าถ้าเราได้ใส่เสื้อทีมชาติไทย ลงเล่นอยู่ตรงนั้นล่ะความรู้สึกมันจะเป็นยังไงบ้างนะ 

แมน : แล้วต่างชาติล่ะ

นรงค์ฤทธิ์ : ผมชอบ เซร์คิโอ รามอส ครับ (รูปโปรไฟล์เฟซบุ๊คของต๋องก็ใช้เป็นรูปรามอส) 

แมน : สไตล์ุบู๊ๆ เกาะติดไม่ยอมปล่อย มีลูกตุกติก เติมขึ้นไปทำประตูเก่ง อะไรประมาณนี้มั้ย คนนี้ทำสถิิติโดนไล่ออกมากที่สุดใน ลาลีกา สเปน เลยนะ

นรงค์ฤทธิ์ : ใช่พี่ ผมชอบเขาเพราะเขาขึ้นไปยิงประตูได้เยอะกว่ากองหน้าบางคนอีก เขามีความยังไงดีล่ะ เหมือนกับว่าเขาเป็นตัวแทนของมาดริด ตัวแทนของสเปน แล้วเขาเล่นเหมือนกับว่ายอมตายในสนามให้กับทีมของเขาได้ ยิ่งถ้าเจอ บาร์เซโลน่า นะยิ่งใส่เกินร้อยเข้าไปอีก อีกคนที่ผมชอบก็ เคราร์ด ปิเก้ เพราะเขาจ่ายบอลดีมาก เบสิกเขาดีเพราะเล่นกองกลางมาก่อน

"เฮ้! ปิเก้ น้องต๋องชอบเขาเรา 2 คนว่ะ" รามอสไม่ได้กล่าว

แมน : ต๋องดูแล้วได้ลองนำมาปรับใช้ฝึกกับตัวเองบ้างรึเปล่าครับ คิดว่าตอนนี้จุดอ่อนที่ต้องปรับปรุงตัวเองคืออะไร บอกได้มั้ย

นรงค์ฤทธิ์ : ได้อยู่แล้วพี่ ผมก็พยายามฝึกเรื่องการออกบอลจากแดนหลัง เพราะเดี๋ยวนี้ถ้ากองหลังจ่ายบอลจากแนวลึกแม่นๆ มันสามารถทะลุขึ้นไปทำให้ทีมยิงประตูได้เลย กลายเป็นทีเด็ดให้ทีมได้ แล้วก็เรื่องการเติมขึ้นไปทำประตู ผมก็อยากทำให้ได้บ่อยๆ เพราะตอนนี้ยิงไป 1 ลูกแล้วครับ อีกอย่างที่ผมพยายามฝึกอยู่คือเรื่องการอ่านทางบอลเวลาถูกครอสจากด้านข้าง ต้องคอยสังเกตผู้เล่นคนที่ 3 ที่จะสอดเข้ามาชาร์จ ไม่ใช่มองแต่บอล หรือมองแค่กองหน้าที่เราประกบ 

แมน : แล้วอะไรที่คิดว่าเป็นจุดเด่นของต๋องครับ

นรงค์ฤทธิ์ : ก็น่าจะเป็นลูกกลางอากาศครับ เพราะเราได้เรื่องส่วนสูง แล้วก็การเล่นสไตล์แบบบู๊ดุดันครับ   

แมน : เกมหน้าต้องไปเยือน พีที ประจวบ ที่ฟอร์มกำลังแรงเหมือนกัน คิดว่าจะบุกไปชนะถึงสามอ่าวได้มั้ย

นรงค์ฤทธิ์ : ผมมั่นใจว่าเราต้องมีแต้มกลับออกมาได้ครับ อย่างน้อยอาจจะ 1 คะแนน ต้องไม่แพ้ไว้ก่อน ไปเยือนประจวบไม่ง่ายแน่ๆ แต่ถ้าเราเล่นได้เหมือนในเกมที่ชนะ อุบลฯ นัดที่แล้ว ผมก็เชื่อว่าเราลุ้นถึง 3 คะแนนได้เลยครับ

แมน : ต๋องมองว่าจุดไหนที่ สุโขทัย ดีกว่าประจวบในตอนนี้บ้าง

นรงค์ฤทธิ์ : ผมว่าเป็นเรื่องทีมเวิร์คนะครับ เพราะทีมเราช่วยกันเล่นไม่มีหวงบอลกันเอง ตัวต่างชาติก็นิสัยดี ไม่เล่นเห็นแก่ตัว อีกอย่างการที่ทีมของเราแทบจะเป็นทีมเดียวที่แนวรับใช้นักเตะไทยทั้งหมด มันก็มีข้อดีในเรื่องการสื่อสาร ที่พอคิดอะไรได้ก็บอกกันได้ทันที ไม่ต้องมาคอยคิดคำพูดให้เสียจังหวะ ส่วนประจวบ ผมมองว่ากองหน้าต่างชาติเขายังไม่ค่อยประสานกันเท่าไหร่ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติของผู้เล่นต่างชาติส่วนใหญ่อยู่แล้วที่อยากจะทำประตูให้ได้เอง 

"ค้างคาวไฟ" พร้อมบุกเยือน "ต่อพิฆาต"

แมน : โอเคครับต๋อง ขอให้ความฝันในการติดทีมชาติไทยเป็นจริงเร็วๆ นะ พี่คอยเชียร์อีกแรง เดี๋ยวไว้มีอะไรเพิ่มเติมค่อยคุยกัน ขอบคุณมาก

นรงค์ฤทธิ์ : ขอบคุณมากครับพี่แมน ลงเมื่อไหร่บอกผมด้วยนะพี่ ผมจะบอกพ่อผมให้ติดตามครับ

แมน : ได้เลยครับน้อง 

ถ้าชอบก็กดไลค์ถ้าใช่ก็กดแชร์ แล้วอย่าลืมให้เครดิตกันด้วยนะ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)