นอกจากนักเตะของ “เดอะ กันเนอร์ส” ที่รวมพลังสามัคคี และช่วยกันเล่น จนทีมทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม
หนึ่งคนที่ต้องมอบเครดิตให้เป็นอย่างมาก นั่นคือกุนซือชาวสแปนิช อย่าง “มิเกล อาร์เตต้า” ที่เข้ารับงานคุมทีมอาร์เซน่อล ในช่วงปลายปี 2019
จากทีมที่เต็มไปด้วยปัญหา และผลงานการเล่นที่หาความแน่นอนไม่ได้ อาร์เตต้า สร้างสรรค์ทีมอาร์เซน่อล ให้มีความกล่มกล่อมมากขึ้นเรื่อยๆ เราอาจพูดได้อย่างเต็มปากว่า อาร์เซน่อล กลายมาเป็นหนึ่งในทีมผู้ท้าชิงทีมสำคัญ ในการขับเคี่ยวแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก
ช่วงนี้ เราลองไปดูหนึ่งเคล็ดลับ ในการพาอาร์เซน่อล ทะยานสู่ความสำเร็จกับอาร์เตต้า ลองไปดูกันหน่อยว่ากุนซือชาวสแปนิช มีหลักการอย่างไรบ้าง ในการกุมบังเหียนทีม “เดอะ กันเนอร์ส” จนได้รับคำชื่นชมจากบรรดาแฟนบอล และผู้ที่อยู่ในวงการฟุตบอล
อาร์เตต้า ถือเป็นคนที่ตื่นนอนเร็ว เพราะหมายถึงการมีเวลามากกว่าคนอื่น และเริ่มต้นลงมือทำเร็วกว่าคนอื่นเช่นเดียวกัน อาร์เตต้า เริ่มต้นวัน ด้วยการใช้เวลากับครอบครัว ซึ่งถือเป็นการเพิ่มพลังในยามเช้า ถือเป็นสิ่งที่อดีตเจ้านายอย่างเป็ป กวาร์ดิโอล่า เลือกทำเช่นกัน
อาร์เตต้า กล่าวว่า “ก่อนอื่นเลย ผมพยายามนอนหลับให้สบายมากที่สุด ผมคิดว่าการพักผ่อน ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก นอกจากนี้ ผมพยายามควบคุมอาหารของตัวเองด้วย เพราะผมไม่ค่อยจะได้ออกกำลังกายมากเท่าไหร่”
“จากนั้น ผมต้องมีจิตใจที่ชัดเจน การใช้เวลาร่วมกับคนที่ผมรัก ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือผมได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นภรรยา และลูก สำหรับผมแล้ว การนั่งคิด, การทำสมาธิ อะไรประมาณนั้น ช่วยเหลือคุณได้จริงๆ ส่วนชีวิตประจำวันของผม เริ่มต้นด้วยการตื่นนอนประมาณ ก่อน 7 โมงเช้า”
“จากนั้น ผมจะเดินไปปลุกลูกๆ เพื่อไปเรียนหนังสือ ผมสวมกอดพวกเขา และช่วยพวกเขาแต่งตัวด้วย ก่อนที่เวลา 07.30 น. ผมจะออกจากบ้าน” นั่นคือภารกิจยามเช้าที่อาร์เตต้า เลือกจะทำอยู่เสมอ เขาเชื่อมั่นมากด้วยว่า การชาร์จพลังที่สดใส ช่วยเปลี่ยนเป็นพลังงานที่ต้องใช้ตลอดวันที่เหลือได้
อาร์เตต้า ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เพื่อขับรถมายังที่สนามซ้อมของอาร์เซน่อล เข็มนาฬิกาชี้ว่า 08.00 น. รถของเขาก็มาจอดเทียบแล้ว เวลาดังกล่าว เราอาจเรียกว่า “เช้าตรู่” มันเป็นเวลาที่ล่วงหน้ากว่ากำหนดการซ้อมจริงนานเป็นชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม อาร์เตต้า ทำทั้งหมด เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และการเตรียมความพร้อมของเขา มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร อาร์เตต้า ชอบนั่งนิ่งๆอยู่ในรถยนต์ของตัวเอง เพื่อเป็นการฝึกฝนสมาธิ และทบทวนสิ่งต่างๆ ก่อนลงไปคุมลูกทีมลงฝึกซ้อม
อาร์เตต้า กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมมาถึงสนามซ้อม ตอน 8.00 น. สิ่งสำคัญคือผมต้องการช่วงเวลาที่เงียบสงบ สักราว 1 ชั่วโมง ภายในรถยนต์ ผมกำลังนั่งคิดถึงสิ่งที่ผมต้องทำในวันนั้น รวมถึงสิ่งต่างๆที่ผมวางแผนเอาไว้ ผมมองภาพกว้างๆว่า สัปดาห์ของผมจะเป็นอย่างไร”
เมื่อคิดทบทวน และทำการรีเฟรชสมองแล้ว อาร์เตต้า ก็จะลงจากรถยนต์ พร้อมกับเริ่มขั้นตอนต่อไป นั่นคือการประชุมกับทีมงานโค้ชของเขา ตามปกติแล้ว อาร์เตต้า มีแนวความคิดในการทำทีม รวมถึงการฝึกซ้อมอยู่อย่างมากมาย จากนั้น เขาจะถ่ายทอดมันออกมา ผ่านการเขียน
กุนซือสแปนิช กล่าวว่า “ตามปกติแล้ว ผมจะเริ่มเขียน พร้อมกับคอยทำตามขั้นตอนต่างๆ ที่ผมจะดำเนินการ เพื่อให้บรรลุผลในวันที่เราต้องทำ จากนั้นโค้ชทุกคนก็เดินทางมาถึงสนามซ้อม ผมเริ่มด้วยการปรึกษาหารือกับผู้จัดการฝ่ายสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงแพทย์ประจำสโมสร”
“จากนั้น ทุกคนในทีมก็จะมาพบกันตอนช่วง 9.00 น. ซึ่งโค้ชทุกคน, ทีมแพทย์ และนักวิทยาศาสตร์การกีฬา เราพูดคุย และวางแผนเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่เราเคยคุยกันไปแล้ว รวมถึงการตัดสินใจของเราว่า มันจะเป็นอย่างไร”
“เราต้องทำแบบนั้น เพราะเราอาจมีปัญหาที่ต้องถกกับผู้เล่น, ทีมงาน หรือนักเตะที่ต้องการเข้ามาคุยกับคุณ ผมมองว่า หลายสิ่งหลายอย่างอาจเกิดขึ้นได้ ก่อนการฝึกซ้อมประจำวัน โดยปกติแล้ว เราจะมีการประชุม ก่อนเซสชั่นการฝึกซ้อม”
“เพื่อเป็นการระดมสมอง เพื่ออธิบายเหตุผลว่า ทำไมเราถึงต้องซ้อมแบบนี้, สิ่งที่คนอื่นอยากทำคืออะไร, หรือการทบทวนการแข่งขันที่เพิ่งผ่านพ้นไป นอกจากนี้ เรายังพูดคุยเกี่ยวกับอะไรก็ตาม ที่มีความจำเป็นต่อทีม จากนั้น เราถึงจัดให้มีการฝึกซ้อมประจำวัน”
นี่คือเรื่องของการเตรียมความพร้อมของอาร์เตต้า เราจะสังเกตเห็นเลยว่า เขาเน้นเรื่องของการสื่อสาร และพูดคุยเป็นอย่างมาก นักเตะคนไหนยังได้รับบาดเจ็บ, นักเตะคนไหนไม่ฟิต หรือนักเตะคนไหนมีดัชนีมวลกายที่เกินเกณฑ์ นี่คือข้อมูลที่อาร์เตต้า ต้องอัพเดทแบบวันต่อวัน
นอกจากนี้ อาร์เตต้า ยังเสริมเรื่องจิตวิทยา ด้วยการนำ “เจ้าวิน” มาเป็นสุนัขแห่งการบำบัดจิตใจ เพื่อให้คนในทีมมีจิตใจผ่องใสในสนามซ้อม อาร์เตต้า มองว่า การแข่งขันในฤดูกาลปกติ เต็มไปด้วยความเครียด และความกดดัน ที่ถาโถมเข้ามายังนักเตะ, ทีมโค้ช และเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น การเติมเต็มความสดใสในชีวิตประจำวัน ด้วยการเล่นกับ “เจ้าวิน” น้องหมาสายพันธุ์ “ลาบราดอร์” ถือเป็นสิ่งที่เขาทำเป็นปกติในทุกวันการเล่น และทักทายกับสุนัขบำบัดนั้น ช่วยเหลือเรื่องสภาพจิตใจได้มาก แน่นอนว่า ผลงานในสนาม ถือเป็นคำตอบได้แล้ว
อาร์เตต้า ออกมาบอกว่า เขาทำการฝึกซ้อม แต่ละครั้งผ่านการทำการบ้านอย่างหนักหน่วง แท็คติกการซ้อมอิงไปตามคู่แข่งที่พวกเขากำลังต้องเจอว่า คู่แข่งมีจุดแข็งที่พวกเขาต้องรับมืออย่างไร และมีจุดอ่อนที่พวกเขาใช้โจมตีอะไรบ้าง
นอกจากนี้ อาร์เตต้า ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของจิตวิทยาในการฝึกซ้อม เขามองว่านี่คือกุญแจสำคัญ ในการพาอาร์เซน่อล เอาชนะในการแข่งขันจริง หากใครไปสนามซ้อมของอาร์เซน่อล ก็จะพบคำว่า “Train to win” หรือแปลเป็นไทยว่า “ฝึกซ้อมเพื่อชนะ” ถูกเขียนอยู่ที่พื้นด้วย
สิ่งเหล่านี้ สะท้อนออกมาให้เราเห็นแล้วว่า อาร์เตต้า มองการซ้อมว่าเป็นเรื่องสำคัญ และสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้น คือเรื่องของสภาพจิตใจ จิตวิทยาในการซ้อมแบบนั้น ทำให้นักเตะอาร์เซน่อล มีความแข็งแกร่งด้านจิตใจ พร้อมกับเอาชนะสถานการณ์ที่ยากลำบาก ในการแข่งขันจริงได้บ่อยๆ
อาร์เตต้า บอกว่า การซ้อมของเขาแต่ละครั้ง นักเตะต้องใส่ความมุ่งมั่นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเหมือนกับสิ่งที่ต้องทำในสนามแข่งขัน โดยที่สนามซ้อม เขาจะคอยสังเกตว่า นักเตะทำตามกฎ และปรัชญาการคุมทีม ที่เขาตั้งเอาไว้หรือไม่
กฎสำคัญที่ว่า ประกอบไปด้วย การเคารพผู้อื่น, การมุ่งมั่นแบบสุดพลัง และการมีอารมณ์ร่วมอย่างแรงกล้า หลังจากเสร็จการคุมทีมฝึกซ้อมแบบเข้มข้น ที่เคลือบไปด้วยสภาพจิตใจที่ยอดเยี่ยมแล้ว หน้าที่ประจำวันของเขายังไม่หมด ขณะที่นักเตะในทีมทยอยกันกลับบ้าน งานของเขายังคงเดินหน้าต่อไป ถึงช่วงมืดค่ำเลยทีเดียว
อาร์เตต้า กล่าวว่า “เราฝึกซ้อมกันอย่างหนัก จากนั้น เราจะออกมาจากสนามซ้อม เพื่อมารับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน จากนั้น ในช่วงบ่ายๆ ผมจัดให้มีการประชุมเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อเป็นการเตรียมเกม และดูข้อมูลคู่แข่ง”
“การประชุมช่วงบ่าย ยังควบรวมถึงสิ่งที่เราทำในเกมที่ผ่านมา พร้อมกับทบทวนเกม นอกจากนี้ เรายังทบทวนข้อดี และข้อผิดพลาด ที่เราได้จากช่วงฝึกซ้อม พร้อมกับวางแผนสิ่งต่างๆ สำหรับสัปดาห์ต่อไป ถ้ามันมีเรื่องของระบบแมวมอง ผมก็จะทำงานร่วมกับเอดู ส่วนเป็นเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้อง เราก็จะดำเนินต่อไป จนถึงดึกดื่นเลยทีเดียว”
นี่คือกิจวัตรประจำวันของอาร์เตต้า ในการลงคุมทีมอาร์เซน่อล ลงฝึกซ้อม การมาแต่เช้า และกลับตอนดึก คือสิ่งที่ทำซ้ำไปซ้ำมา
