เอาจากอันดับที่เป็นตอนนี้ก่อนเกมวันอังคารที่ 5 ธ.ค. ดูหน่อยว่าโหราเขาฟันธงอย่างไร

อาร์เซน่อล : (จบลำดับที่ : 2) 

อาร์เซน่อล เป็นจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้ แล้วจะรักษามันไว้ได้จนเข้าช่วงคริสต์มาส 

ลูกทีมของเฮดโค้ม มิเกล อาร์เตต้า ออกตัวแรง เหมือนฤดูกาลที่แล้ว บวกความเก๋าขึ้นที่ดูแล้วผลงานน่าประทับใจไปหมด พร้อมก้าวขึ้นลุ้นแชมป์ลีกเต็มตัว อย่างไรก็ดีคู่แข่งที่ดูสมน้ำสมเนื้อสุดคงเป็น แมนฯ ซิตี้ 

อนึ่งการเป็นจ่าฝูงลีกจนเข้าเดือนมกราคม 2024 ไม่ได้มีความหมายอะไรมากมาย เพราะอย่าลืมว่าช่วงเวลาเดียวกันของฤดูกาลก่อน ยังทำแต้มได้มากกว่าปัจจุบัน 4 คะแนน แต่สุดท้ายก็ถูก ซิตี้ แซงเอาแชมป์ 

ปัจจัยที่จะทำให้หน้าประวัติศาสตร์เปลี่ยนคือการเสริมทัพในตลาดเดือนมกราคม 

หาก ‘ปืนใหญ่’ สามารถเติมหอกเกรดการันตี 20 ประตู-ต่อ-ฤดูกาลเข้ามา จะเป็นปัจจัยสำคัญให้บ่อนรับพนันถูกกฎหมายของอังกฤษเชื่อใจได้บ้างว่าถึงแชมป์  

ลิเวอร์พูล : (จบลำดับที่ : 3)

ยังคงเป็นทีมดูเมื่อไหร่ก็เร้าใจไปจนสุดทั้งฤดูกาล เพราะในวันที่เข้าทาง ลิเวอร์พูล อาวุธเต็มมือแถมเปี่ยมด้วยวิญญาณนักสู้ 

อย่างที่เราเห็นจากเกมแซงชนะ ฟูแล่ม 4-3 หรือก่อนหน้านั้นเสมอ แมนฯ ซิตี้ ได้ 1-1 สะท้อนถึงคุณภาพกระบวนการสร้างทีมใหม่ 

ทว่าจุดบกพร่องอีกหลายประการทำให้ดูเหมือนว่ายังเร็วไปสำหรับ ‘หงส์แดง’หากคิดเอาแชมป์ลีกเลย 

พวกเขาเพิ่งเริ่มต้นสร้างขุมกำลังใหม่อย่างช้าๆจากความน่าผิดหวังฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งการเร่งเครื่องมาขนาดนี้ได้ก็น่าจะประทับใจมากๆ 

มองว่าทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะค่อยๆผลงานแผ่วในเดือนหน้า แต่ก็สบายตัวพอจบ 4 อันดับแรกตาราง 

ไว้ฤดูกาลหน้าพวกเขาจะแข็งแกร่งพอท้าทายแชมป์ลีกแหงๆ 

แมนฯ ซิตี้ : (จบลำดับที่ : 1)

แมนฯ ซิตี้ ยังไม่ได้เร่งเครื่องให้ได้รอบเพื่อเข้าเกียร์สูงๆด้วยซ้ำ กระทั่งเจอเกมเจ๊า สเปอร์ส 3-3 เข้าไปคงเป็นเครื่องเตือนใจได้เวลาเอาจริง 

ด้วยผลงานปัจจุบัน ซิตี้ ดูไม่น่าไปถึงตำแหน่งแชมป์ลีกได้ แต่ก็อย่างที่เราเห็นมาหลายปีว่ามักเครื่องร้อนช้า

ทีมของผจก.ทีม โจเซป กวาร์ดิโอล่า ไม่เคยลนลานต่อแต้มที่ตามหลังคู่แข่งต้นฤดูกาลแบบนี้ 

‘เรือใบสีฟ้า’ยังเหลืออีกหลายเกียร์ให้เปลี่ยนเพื่อเหยียบเต็มคันเร่งค้นปีหน้า แล้วมันก็เป็นความท้าทายสำหรับทีมอื่นๆเพื่อรักษาอัตราเร่งของตัวเองไว้ 

แชมป์เก่ายังเป็นเต็งหามป้องกันตำแหน่ง 

แอสตัน วิลล่า : (จบลำดับที่ : 6)

เป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่แฟนบอล แอสตัน วิลล่า จะฝันไปต่างๆนานา 

เมื่อพวกเขาเป็นผู้นำกลุ่ม ยูโรปา ลีก รวมถึงลำดับสี่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

ต้องยกความดีความชอบให้เฮดโค้ช อูไน เอเมรี่ ที่ทำงานอย่างโดดเด่นนับแต่เข้ารับตำแหน่ง 

แม้จะเห็นความต่างทางศักยภาพเมื่อแพ้เละต่อ ลิเวอร์พูล และ นิวคาสเซิ่ล เมื่อต้นฤดูกาล แต่ทีมจากมิดแลนด์ก็พัฒนาขึ้นมากจากบทเรียนวันนั้น 

จากนี้คืออีกบททดสอบสำคัญว่าพวกเขาดีพอเข้ามาลุ้นโควตาชปล.หรือไม่เพราะคู่แข่งอย่าง แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล คอยท่า 

จบสี่อันดับแรกในฤดูกาลนี้คงเป็นไปได้ลำบาก แต่ถือว่าปั้นทีมมาถูกทาง 

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ : (จบลำดับที่ : 4)

ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บกองเป็นภูเขาแต่ สเปอร์ส ยังห้าวพอแบ่งแต้มจาก แมนฯ ซิตี้ ได้ถึงเอติฮัด สเตเดี้ยม มันยิ่งกว่าน่าประทับใจ 

การออกตัวฤดูกาลนี้ของเฮดโค้ช แอนจ์ พอสเตโคกลู จุดประกายความหวังใหม่แก่แฟนบอล สเปอร์ส แทบจะทุกคน 

ทีมยังสามารถเล่นอย่างน่าประทับใจแม้ผู้เล่นเจ็บบานหรือขาดอดีตตัวแบกทำประตู แฮร์รี่ เคน 

ผ่านมากว่า 1-ส่วน-3 ฤดูกาล เห็นความจริงตรงหน้า ‘ไก่เดือยทอง’ เป้าหมายคงเอาท็อป 4 ก็น่าจะพอใจ 

แมตช์ดวล นิวคาสเซิ่ล (7 ธ.ค.) ทีมในกลุ่มหัวตารางด้วยกัน จะมีผลแน่นอนต่อบทสรุปปลายซีซั่น 

นิวคาสเซิ่ล : (จบลำดับที่ : 5)

หลังจากระเบิดผลงานขึ้นมาเมื่อฤดูกาลก่อน มันก็ชัดเจนว่าปีนี้ยังต้องการจบ 4 อันดับแรกให้ได้อย่างเดิม 

จุดเด่นคือเกมเหย้าพวกเขาอาศัยเสียงเชียร์จาก ‘ทูน อาร์มี่’ แปลงมันให้เหมือนป้อมปราการ แต่เวลาเตะเกมเยือนแต้มหล่นเรี่ยราดแบบไม่สมควร 

ยกตัวอย่างเกมพบ เวสต์แฮม หรือ วูล์ฟส์ 

ก็คงต้องกระเสือกกระสนอย่างหนักเพื่อเอาอันดับ 4 แบบมีคู่ปะทะโดยตรงนั่นคือ สเปอร์ส