:::     :::

อนาคต "ปาปาส"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การตกรอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงพอสมควร

จบบ๊วยของกลุ่มมี 6 คะแนน แพ้ไปถึง 4 เกม ไม่ใช่เป้าหมาย และไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ในภาพรวม

ไม่ผิดแปลกแต่อย่างใด ที่หลายคนจะตั้งคำถามว่าเก้าอี้ของ อาเธอร์ ปาปาส กุนซือของทีม จะยังมั่นคงหรือไม่ ?

เพราะขนาดคนทำทีมได้ “ทริปเปิลแชมป์” 2 ฤดูกาลติดอย่าง มาซาทาดะ อิชิอิ ยังไม่วายต้องหลุดจากตำแหน่ง

ย้อนกลับไปปีกลาย ในช่วงจบครึ่งฤดูกาลแรกไทยลีก เนวิน ชิดชอบ พ่อใหญ่ปราสาทสายฟ้า กลับมากลางโปรเจกต์ “ท็อป 5 เอเชีย” อีกครั้ง หลังยัดลิ้นชักมาหลายปี

สถานะ บุรีรัมย์ฯ เวลานั้นทิ้งห่างคู่แข่งพอควร เรียกว่ามือข้างหนึ่งจับถ้วยโทรฟี่ไว้แล้ว แค่เล่นประคองก็แชมป์ใส ๆ

เนวิน และ อิชิอิ เวลานั้นเดินเกมข้ามช็อตด้วยการหาผู้เล่นต่างชาติฝีตีนดีเข้าทีม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลนี้




เหตุผลคือ เอเอฟซี มีการปรับเปลี่ยนโควตาผู้เล่นต่างชาติจาก 3+1 (ต่างชาติ 3 เอเชีย 1) มาเป็น 5+1 เพื่อไม่ให้แชมป์ถูกผูกคาดอยู่กับฝั่งเอเชียตะวันออก (เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น) มากจนเกินไป และทำให้ทีมจากฝั่งตะวันตก (โซนอาหรับ) ที่มากด้วยทรัพยากรเงิน ดึงนักเตะชั้นนำมาได้เต็มที่ เพื่อสู้ในรายการนี้

ในมุมของ บุรีรัมย์ มองว่า กฎนี้เข้าทางพวกเขาเต็ม ๆ

เพราะหมายความว่า หากคุณเป็นทีมระดับเล็กถึงกลาง ศักยภาพนักเตะในประเทศวัดกันตัวต่อตัวสู้สโมสรชั้นนำเอเชียไม่ได้ แต่หากมีนักเตะต่างชาติฝีเท้าดี 5 คนมาเพิ่ม มันจะช่วยยกระดับทีมคุณได้แน่

เมื่อเป็นเช่นนี้ บุรีรัมย์ เองก็ไม่จำเป็นต้องกลัวใครในเอเชีย

พวกเขามีเงินถุงเงินถังในระดับหนึ่ง มากพอไปจ้างผู้เล่นต่างชาติเกรดพรีเมียมจากยุโรปมาได้ไม่มีปัญหา

โรด ทู ท็อป 5 เอเชีย จึงเกิดขึ้น โดยมี อิชิอิ เป็นคนคุมทัพ

แต่เมื่อกุนซือถูกเปลี่ยนผ่านจากต้นฤดูกาลเป็น ปาปาส จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่เป้าหมายทีมยังคงเดิม เพียงแต่หนนี้เป็นอีกครั้งที่ บุรีรัมย์ ยัง “ไปไม่ถึงฝัน”




การจัดป้ายแค่รอบแบ่งกลุ่ม จึงน่าสนใจอย่างยิ่งว่าอนาคตของ ปาปาส จะจบลงเร็ว ๆ นี้หรือไม่

อย่างไรก็ตามหากมองอีกมุม ปาปาส เองเพิ่งมาจับงานโค้ชกับ บุรีรัมย์ ได้ไม่นาน เพราะบทบาทของเขาก่อนหน้าใน ช้าง อารีนา คือประธานเทคนิค แม้จะมีประสบการณ์ทำงานโค้ชที่อื่นมากก่อนบ้างก็ตาม

ฟุตบอลบางครั้งอาจต้องใช้เวลาบ่มเพาะ การสร้างทีมให้กลมกล่อมควรมีเวลาให้

คนดู แฟนบอล อาจมองโลกลูกหนังต่างไปจากผู้บริหาร นั่นไม่ใช่เรื่องที่แปลก

แต่เคสของ ปาปาส ก็ต้องอยู่ที่ความ “พึงพอใจ” จากเจ้าของทีมเช่นกัน

หากผู้บริหารเห็นชอบว่าควรอยู่ต่อ คุณก็ได้ทำงานต่อ ในกรอบที่ว่าจากนี้เป้าหมายระยะสั้น กลาง ยาว จากนี้ต้องไปได้ไกลแค่ไหน

แต่หากมุมมองผู้บริหารเห็นว่า ปาปาส ไม่น่าจะพาทีมดีขึ้นมากกว่านี้ได้ การแยกทางก็อาจจะเกิดขึ้นเช่นกัน

ในโลกลูกหนัง “ความพอใจ” ของเราต่างไม่มีวันเท่ากัน

สุดท้ายอยู่ที่คนจ้างงานจะเป็นผู้ตัดสินเอง…   


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด