แพ้เกมลีก 5 นัดติด จมอยู่รองบ๊วย โดยมีแต้มห่างจากทีมอันดับสุดท้ายอย่าง พีที ประจวบ เพียง 1 คะแนนเท่านั้น
หากจะบอกว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ย้ำแย่สุดของทีมคงไม่ผิดแปลก เพราะผลลัพธ์มันปรากฏให้เห็นชัดจริง ๆ
การประกาศลาออกเพื่อรับผิดชอบผลงานของ มาโกโตะ เทงุระโมริ หลายคนเชื่อว่าทีมจะมี “จุดเปลี่ยน” ไปในทิศทางที่ดีขึ้น
แม้ ณัฐวุฒิ วิจิตรเวชการ เฮดโค้ชขัดตาทัพ จะไม่มีประสบการณ์จับงานทีมชุดใหญ่ระดับไทยลีก แต่การรับบทบาทผู้ช่วย และขลุกอยู่กับอคาเดมีฉลามชลมานาน น่าจะทำให้เขามองเห็นปัญหาของทีมที่เกิดขึ้น และช่วยให้ฉลามตัวนี้อาการทุเลาลงได้
แต่ความเป็นจริงที่พบกลับตรงข้าม ภาพรวมถึงยังคงแย่ “ออกอ่าวไทย” เหมือนเดิม แพ้ 2 เกมติด
แถมเป็นความพ่ายแพ้ที่ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าสามารถ “ต่อกร” กับคู่แข่งได้อย่างสมน้ำสมเนื้อเลย ไม่ว่าจะเป็ยนเกมพบ การท่าเรือ เอฟซี หรือ พีที ประจวบ ล่าสุด
บอลพื้นที่สุดท้ายยังคงมีปัญหา ผู้เล่นต่างชาติทั้ง วิลเลียน ลิรา, มูริโล หรือ อมาดู อ็อตตารา ยังไม่สามารถสร้างความแตกต่างในเกมรุกได้ดีพอ
ขณะที่แนวรับเองก็พร้อมที่จะผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ตลอด ตัวเลขสถิติตอบได้ดี 9 เกมติดต่อกันแล้วที่พวกเขาไม่สามารถรักษาคลีนชีตไว้ได้
แม้แฟนบอลจะยังซัพพอร์ตทีมเช่นเดิม แต่ก็อดตั้งพ้อไม่ได้กับฟอร์มการเล่นทีม หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน ลงไป “ทบทวนตัวเอง” ในไทยลีก 2 เถอะ หากยังเล่นกันเช่นนี้
แน่นอนสิ่งสำคัญที่สุดของ ชลบุรี เวลานี้ คือการหาโค้ชใหม่เข้ามาให้ได้ไวที่สุด เพื่อกระชากโมเมนตั้มของทีมกลับมาจากจุดที่เลวร้ายก่อน
โดยเฉพาะกุนซือที่มีประสบการณ์คุมทีมระดับกลางกึ่งล่าง และเคยพาทีมหนีรอดตกชั้นได้
เพราะโค้ชกลุ่มนี้มีสิ่งที่แตกต่างจากโค้ชชั้นนำคือ เขาสามารถเมเนจทีม หรือดึงศักยภาพสโมสรที่ทรัพยากรลูกหนังไม่ได้ดีเด่ดีขึ้นกว่าเดิมได้
ไม่ได้มีโปรไฟล์สวยหรู เคยคุมทีมลีกดังต่างประเทศ หรือทีมใหญ่ ๆ ไม่มีทฤษฎีฟุตบอลชวนเข้าใจยาก เป็นโค้ชที่แฟนบอลมองว่าเกรดธรรมดา ๆ เน้นความตรงไปตรงมา ผิดตรงไหนอธิบายตรงนั้น แก้ปัญหาทันที
ที่สำคัญโค้ชเหล่านี้จะรู้จักนักเตะ และรู้ว่าจะใช้งานแข้งเหล่านี้เช่นไร ทั้งแบบแผน และการปลุกใจ
กล่าวคือโค้ชเหล่านี้มีคู่มือพาหนีตกชั้นได้ ไม่ว่าทีมคุณจะอยู่ในสถานการณ์ที่บัดซบแค่ไหน
ให้ยกตัวอย่างก็ “โค้ชเบ๊” ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก หรือ “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น (ลูกหม้อเก่าฉลามชล)
ในเมื่อลองของอิมพอร์ตจากญี่ปุ่นมากปรสบการณ์แล้วไม่ดี ใช่โค้ชดาวรุ่งในครอบครัวก็ดูจะไม่ไหว ลองเสี่ยงกับโค้ชบ้าน ๆ แต่มีประสบการณ์ในไทยลีกจะเป็นไรไป
โลกฟุตบอลบางครั้งไม่ได้หมุนรอเราขนาดนั้น เห็นปัญหาก็รีบแก้ไขดีกว่า
ก่อนจะ “ออกทะเล” ไปมากกว่านี้
