:::     :::

ไขรหัสความปังของ จีโรน่า (ตอนจบ)

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นอกจากมี CITY FOOTBALL GROUP คอยเป็นแบ็กอัพให้อย่างดีแล้ว ในส่วนการทำงานที่ จีโรน่า เองก็มีอีกบุคคลที่มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อผลงานอันน่าฮือฮานี้เช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ กีเก้ การ์เซล ผ.อ.กีฬา

สำหรับบุคคลทั่วไป การ์เซล ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่กับ จีโรน่า และคนในวงการ การ์เซล ได้รับคำชมอย่างมาก AS.COM หนึ่งในสื่อใหญ่ของสเปน เคยเขียนสกู๊ปถึง ผ.อ.กีฬาวัย 49 คนนี้ โดยยกให้เป็น มันสมอง ของจีโรน่า 


จุดเด่นของ การ์เซล คือการมองนักฟุตบอล อย่างที่เขียนถึงไว้ข้างต้นว่านอกจากมี CITY FOOTBALL GROUP เป็นแบ็กอัพให้แล้ว การ์เซล เองก็ยังทำหน้าที่เฟ้นหานักเตะเข้าสู่ทีมอีกด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอกจากนักเตะคนนั้นจะต้องมีฝีเท้าที่ดีแล้ว ยังต้องสอดรับกับแท็กติกการเล่นของ มิเชล อีกทั้งยังต้องมีราคาที่จับต้องได้ อยู่ในงบประมาณที่สโมสรจ่ายไหว




ผลงานชิ้นโบว์แดงในการเฟ้นหานักเตะเข้าสู่ทีมของ การ์เซล ปัจจุบันก็เช่น อาร์เต็ม ดอฟบิค กองหน้ายูเครนที่กำลังระเบิดฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในเวลานี้ ซึ่งก่อนหน้าแทบไม่มีใครรู้จัก และตระเวนเล่นกับทีมอย่าง ดนีโปร เปตรอฟ และ มิดทิลลันด์ 


หรืออย่าง วิคเตอร์ ซีกานคอฟ ที่ย้ายมาในช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า การ์เซล มีสายตาที่เฉียบแหลมแค่ไหน เพราะ ซีกานคอฟ ย้ายมาแล้วเล่นได้อย่างโดดเด่นทันที แทบไม่ต้องปรับตัวอะไร 



นอกจากนี้การดึงนักเตะอย่าง ดาลีย์ บลินด์ กับ เอริก การ์เซีย ที่ดูเหมือนจะหมดอนาคตไปแล้วเข้าสู่ทีม ก็คืออีกข้อมพิสูจน์ว่า การ์เซล นั้นไม่ธรรมดา ใครจะคิดว่านักเตะที่ไม่เป็นที่ต้องการกับแข้งที่เหมือนจะเลยจุดสูงสุดของอาชีพไปแล้วจะจับคู่ปราการหลังกันแล้วเล่นออกมาได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ 

อีกรายนึงที่ การ์เซล ดึงเข้ามาแล้วผลงานปังมากๆ ถึงขนาดว่า บาร์ซ่า ต้องซื้อไปเป็นตัวแทนของ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ก็คือ โอริโอล โรเมว 

……………………………

ถัดจากการเลือกเฟ้นตัวนักเตะที่ดีแล้ว ก็คงต้องยกความดีความชอบให้การทำงานในสนามของ มิเชล กุนซือหนุ่มไฟแรงวัย 48 ปี 

มิเชล มีชื่อเต็มๆว่า มิเกล อังเคล ซานเชซ มูนญอซ เป็นคนมาดริดโดยกำเนิด ก่อนจะโด่งดังกับ จีโรน่า เคยจับงานเทรนเนอร์ที่ ราโย บาเยกาโน่ มาก่อน ซึ่งเป็นสโมสรแห่งชีวิตของเขา เพราะเริ่มเล่นฟุตบอลที่นั่นจนกระทั่งแขวนสตั๊ดในปี 2012 อีก 4 ปีต่อมาก็เริ่มทำงานคุมทีมชุดเยาวชนทันที 



มิเชล ชื่นชอบระบบการเล่นอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ 4-2-3-1 ที่เขาใช้เป็นหลัก กับ 4-14-1 ที่จะปรับใช้ในบางครั้ง ขึ้นอยู่กับเขาต้องการให้การเล่นออกมาแบบไหน และคู่ต่อสู้เป็นใคร ถ้าต้องการเน้นเกมรุก เขาจะเลือกใช้ pivot เพียงคนเดียว แต่โดยมาตราฐานเขาจะเล่นแบบ double pivot 

……………………………

สไตล์การเล่นของ จีโรน่า โดดเด่นที่การเติมเกมรุกจากแบ็กทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งขวา ยาน กูโต้ ฝั่งซ้าย มิเกล กูเตียร์เรซ ซึ่งกุญแจสำคัญของการเล่นเกมริมเส้นนั้นอยู่ที่ความเข้าใจระหว่างตัวริมเส้นข้างบน

กูโต้ กับ ซีกานคอฟ , มิเกล กูเตียร์เรซ กับ ซาวินโญ่ ทั้ง 2 คู่จะต้องมีความเข้าใจกันสูงมาก ในจังหวะขึ้นเกมรุกในหลายสถานการณ์ 

เช่นเมื่อ กูโต้ ขึ้นสุด ซีกานคอฟ จะ invert เข้าเข้าใน เช่นเดียวกับเมื่อ มิเกล ขึ้นสุด ซาวินโญ่ จะ invert เข้าข้างใน หรือจะไม่ขยับเข้าไป และรอ combination กันตรงริมเส้น ซึ่งนักเตะจะต้องตัดสินใจกันเอง


จีโรน่า มีวิธีการเล่นที่ทันสมัย ทีมเน้นการ build up เกมจากแดนหลังโดยอาศัยประสบการณ์ และความเนี๊ยบในการออกบอลของ บลินด์ กับ เอริก การ์เซีย เป็นหลัก 

ส่วนแดนกลางมีหน้าที่ขับเคลื่อนเกมตามแท็คติก โคเวอร์พื้นที่ สนับสนุนการเล่นของตัวรุก รวมถึงสอดเข้าไปในพื้นที่สุดท้าย 



เมื่อบอลถูกเปิดจากด้านข้าง โดยส่วนใหญ่ ดอฟบิค หรือ กริสเตียน สตูอานี่ จะรอที่เสาสอง ส่วนตัวสอดไม่ว่าจะเป็น ซาวินโญ่,ซีกานคอฟ,ยานเกล เอร์เรร่า หรือ อีบัน มาร์ติน หรือคนอื่นๆตามแต่สถานการณ์โดยมากจะพุ่งเข้าที่เสาแรก เหตุผลเพราะ ดอฟบิค กับ สตูอานี่ จะมีชอยส์ในการเล่นมากขึ้นว่าจะทำประตูด้วยตัวเอง หรือจ่ายย้อนกลับมาให้ตัวสอดจากแถวสอง (ตรงนี้เป็นการกำหนดหน้าที่เฉพาะตัวของ มิเชล )


มิเชล ไม่ชอบวางบล็อคเกมรับของเขาต่ำหรือสูงเกินไป ดังนั้นเขาจึงมักเลือกการเล่นแบบ mid-block ไม่เสี่ยงให้ลูกทีมยืนสูงจนเกินไปจนเปิดพื้นที่ด้านหลังให้คู่ต่อสู้โจมตีได้ง่าย แต่ก็ไม่ให้ลูกทีมยืนต่ำจนไม่สามารถโจมตีโต้กลับอย่างทันท่วงที


ข้อสำคัญของการเล่นแบบ mid-block คือ compact หรือความกระชับ ระยะห่างระหว่างผู้เล่นด้านข้างกับตรงกลาง จะรักษาให้น้อยที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเจาะผ่านได้ง่ายๆ 

mid-block ของ มิเชล ประกอบด้วย 3 ยูนิต (หน้า-กลาง-หลัง) ผู้เล่นทุกคนจะควบคุมและการยับยั้งชั่งใจไม่ขยับออกจากพื้นที่ของตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างที่ฝ่ายตรงข้ามสามารถใช้ประโยชน์ได้ ในทำนองเดียวกัน เพื่อการเล่นโต้กลับที่มีประสิทธิภาพ ผู้เล่นจะไม่ถอยลึกเกินไป 



ถึงแม้ จีโรน่า จะมีเปอร์เซนต์การครองบอลเฉลี่ยอยู่ที่ 57.6 % ซึ่งถือว่าไม่น้อยสำหรับทีมเล็ก ทว่าตามแนวทาง มิเชล ไม่เน้นการครองบอลมากนัก แต่จะให้ลูกทีมคิดเร็วทำเร็วมื่อมีบอลอยู่กับตัว ซึ่งโดยมากทีมมักโจมตีเร็วเมื่อเพรสซิ่งแย่งบอลกลับมา 

……………………………

จีโรน่า ยิงประตูได้มากที่สุดใน ลา ลีกา ที่ 42 ลูกจากการยิง 237 ครั้ง แบ่งเป็นเข้ากรอบ 89 ครั้ง ซึ่งการแย่งบอลกลับมาครองบอลที่มากถึง 924 จาก 18 นัด (51.3 ครั้ง/เกม) ที่ผ่านมาครั้งมีส่วนอย่างมาก 

นอกจากการเพรสซิ่งแย่งบอลแล้ว การ Overload ผู้เล่นเข้าไปในแดนกลางตรงก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกมรุกของ จีโรน่า เล่นได้อย่างต่อเนื่อง เมื่ออัดผู้เล่นเข้าไปในพื้นที่ระหว่างไลน์ของคู่แข่ง และคอยสลับหมุนเวียนกันหาพื้นที่ว่างเพื่อรับบอลแนวลึก


กระนั้น การเล่นในลักษณะนี้ผู้เล่นจะต้องมีความเข้าใจในแท็คติกสูง ไม่เพลินหรือเผลอไผลไปกับเกมการเล่น ซึ่งจนถึงตอนนี้นักเตะทุกคนของ จีโรน่า เล่นภายในแท็คติกนี้ได้อย่างไหลลื่นลงตัว จนเป็นที่มาของสถิติที่น่าทึ่ง ยิงมากที่สุดใน ลา ลีกา 42 ประตู และเก็บชัยชนะในลีกได้มากที่สุดในบรรดา 5 ลีกใหญ่ของยุโรปที่ 14 เกมเท่ากับ เรอัล มาดริด และ อินเตอร์ มิลาน 



ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะครับ จีโรน่า ชนะในลีกมากกว่าทีมอย่าง บาร์เซโลน่า,บาเยิร์น มิวนิค,อาร์เซน่อล,แมนฯซิตี้,ลิเวอร์พูล และ เปแอสเช แต่มันเกิดขึ้นแล้ว เป็นความจริงที่พิสูจน์ให้เห็นว่าผลงานอันยอดเยี่ยมนี้ไม่ได้มาเพราะอาศัยการตั้งรับและสวนกลับแบบที่ทีมเล็กหลายทีมนิยม แต่มาจากแนวทางการเล่นที่กล้าหาญ เป็นฟุตบอลที่ดูสนุก และยังเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ซึ่งยากจะพบพานได้จากทีมเล็กๆที่มีงบประมาณจำกัดเช่นนี้


เจมส์ ลา ลีกา 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด