ความท้าทายใหม่ๆ และความค้างคาใจในพรีเมียร์ลีก คือเหตุผลที่ทำให้ อูไน เอเมรี่ ตอบรับงาน แอสตัน วิลล่า
การกลับสู่พรีเมียร์ลีกคือเรื่องที่ เอเมรี่ ยากจะปฏิเสธ เขาตัดสินใจแจ้งกับ บียาร์เรอัล เพื่อขอย้ายไปคุมทีม แอสตัน วิลล่า ช่วงปลายเดือนตุลาคม ปี 2022
เอเมรี่ ยังมีบางอย่างติดค้างอยู่ในใจว่าการถูก อาร์เซน่อล ไล่ออกเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมสำหรับเขา
สถานการณ์ในช่วงเวลานั้น แอสตัน วิลล่า หล่นไปอยู่อันดับ 17 ภายใต้การคุมทีมของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่เปิดซีซั่น 2022-23 ด้วยการคว้าชัยชนะเพียง 2 จาก 11 เกมแรก
ดังนั้นเป้าหมายจึงแตกต่างจากตอนมาคุม อาร์เซน่อล ต่อจาก อาร์แซน เวนเกอร์ ที่หากไม่ได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้ว อย่างน้อยก็ต้องเกาะ 4 อันดับแรกที่มีตั๋ว แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นเดิมพัน
เอเมรี่ เริ่มต้นทำงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 2022 พาทีมจากอันดับ 16 (ต่อจาก อารอน ดังค์ส ที่คุมชั่วคราว) กระโดดขึ้นมาจบสูงถึงอันดับ 7 คว้าตั๋วฟุตบอลยุโรปถ้วยเล็ก ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ได้อย่างเหลือเชื่อ
และได้รับความสำเร็จส่วนตัว นั่นคือรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือนเมษายน (ปี 2023) เป็นรางวัลที่ไม่เคยได้สัมผัสตอนคุม เดอะ กันเนอร์ส
เป้าหมายในฤดูกาลถัดไปของ เอเมรี่ กับ แอสตัน วิลล่า คือการยกระดับทีมขึ้นไปอีก แต่การจะก้าวข้ามผ่านอันดับ 7 ขึ้นไปได้นั้น คุณจะต้องแข็งแกร่งพอที่จะลบล้าง 'บิ๊ก 6' ออกไปจากพรีเมียร์ลีก
เกมเปิดซีซั่น 2023-24 แอสตัน วิลล่า บุกแพ้ นิวคาสเซิ่ล เละเทะ 1-5 ทำท่าว่าจะหลับตั้งแต่เกมแรก แต่หลังจากนั้น เอเมรี่ ปลุกลูกทีมกลับมาได้
แอสตัน วิลล่า คว้าชัยชนะได้มากถึง 13 จาก 20 เกมแรกของพรีเมียร์ลีก อยู่ในระดับเดียวกับ ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เช่นเดียวกับจำนวนประตูที่ยิงได้ทะลุหลักสี่ไปแล้ว
และ เอเมรี่ ก็ได้รับรางวัลตอบแทนผลงานในซีซั่นนี้ นั่นคือรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือนธันวาคม จากผลงานที่ลงเล่นมากถึง 7 เกม ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 1
ถึงตอนนี้ เอเมรี่ ไม่ขอยกระดับเป้าหมายทีมไปลุ้นแชมป์แข่งกับ ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซน่อล เพราะดูเหมือนจะไกลตัวเกินไป
เป้าหมายที่จับต้องได้ และถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของ เอเมรี่ และ แอสตัน วิลล่า ในฤดูกาลนี้ก็คือ ตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก หรือการจบ 4 อันดับแรก
