ในบรรดานักเตะดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่กำลังปั้นกันอยู่ในระยะยาวเพื่อที่จะดึงขึ้นมาใช้งานกับแผนการทีมในอนาคนนั้น แฟนบอลหลายๆคนคงจะได้เห็นหน้าค่าตาของเด็กดาวรุ่งเรากันมาบ้างแล้ว
หลายๆคนขึ้นมาได้ถึงระดับตัวจริงในทีมชุดใหญ่ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องน่าทึ่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อเลฮันโดร การ์นาโช่ และ ค็อบบี้ ไมนู คือนักเตะที่อยู่ในระดับดาวรุ่งของเรา แต่ฝีเท้าดีพอที่จะยึดตัวจริงได้ แถมโชว์ฟอร์มดีกว่ารุ่นพี่ในทีมซะอีก อย่างที่คำกล่าวว่าเอาไว้
"ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอ" ทั้งไมนูและการ์นาโช่ จึงคู่ควรกับการได้รับโอกาสเช่นนี้แล้ว
ส่วนคนอื่นๆในทีม แฟนบอลก็อาจจะได้เห็นบ้างว่ามีใครที่สามารถดึงขึ้นมาเล่นได้ ช่วงที่ผ่านมาก็มี Willy Kambwala กองหลังเด็กยักษ์อายุ 19ปี ที่ได้ลงเดบิวต์แล้วเรียบร้อย หลังจากถูกส่งลงสนามมาเป็นตัวจริงในเกมเยือนเวสต์แฮม รวมถึงบางเกมที่ต้องการปรับแทคติกเพิ่มกองหลังเป็นระบบหลังสามช่วงท้ายเกม ก็สามารถส่งน้องลงสนามมาได้
Joe Hugill เพิ่งจะถูกส่งตัวไปยืมอยู่กับทีมคนต้มเหล้า Burton Albion ในระดับลีกวัน เพื่อเก็บกระดูกสั่งสมประสบการณ์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากเกมจริงที่เขาจะได้ลงไปไล่ล่าประตูให้ต้นสังกัดใหม่ ซึ่งเหล่านักเตะในยุคนี้บางคนที่โด่งดังขึ้นมา ก็เคยอยู่ในระดับลีกรองๆแบบนี้กันมาหมดแล้ว ตัวอย่างในอังกฤษง่ายๆก็อย่างเช่นเคสของ แฮรี่ เคน และ เจมี่ วาร์ดี้ เองเช่นกัน
แต่อีกหนึ่งนักเตะดาวรุ่งของเราที่แฟนบอลได้เห็นชื่อกันมาสักพักใหญ่ๆแล้ว ซึ่งก็อยู่ในรุ่นราว Generation เดียวกันกับผู้เล่นเหล่านี้เป๊ะๆ นั่นก็คือ เด็กหนุ่มที่ขยันและมุ่งมั่นในการซ้อมมากๆอย่าง "Daniel Gore" เป็นอีกหนึ่งคนที่แฟนบอลสนใจติดตามดูว่า นักเตะรายนี้จะได้มีบทบาทอย่างไรบ้าง
ไมนู 18 / การ์นาโช่ 19 / คัมวาล่า 19 / กอร์ 19 / ชอล่า 19 / ฮิวกิลล์ 20 / ฮอยลุนด์ 20
เซ็ตนี้น่าสนใจมาก อาจจะไม่ถึงกับติดตัวจริงทั้งหมด แต่เป็นนักเตะในgenที่สโมสรเราฟาร์มเอาไว้เยอะจริงๆ
จริงๆ ไมนู กับ กอร์ นี่ถือว่าซี้กันมากในบรรดาเพื่อนนักเตะเยาวชนด้วยกัน หลังจากที่เขาถูกเลือกให้ขึ้นมาซ้อมร่วมกันกับทีมชุดใหญ่อยู่สักพักแล้ว เพื่อที่จะได้สัมผัสกับผู้เล่นมีประสบการณ์สูงในระดับชั้นนำจริงๆ มันส่งผลต่อพัฒนาการของดาวรุ่ง แดเนียล กอร์ น่าจะได้ซึมซับอะไรเหล่านี้หลายๆอย่างไปแล้ว (รวมถึงข่าวที่ว่าน้องเหมือนจะเคยมีเรื่องกันในสนามซ้อมกับมาร์กซิยาลด้วย ฮา)
ได้อยู่กับทีมชุดใหญ่มาสักระยะ อยู่ในสถานะดาวรุ่งเด็กฝึกที่ได้มีส่วนร่วมกับเหล่านักเตะตัวจริง เจ้าตัวก็มีชื่อติดมาบนม้านั่งสำรองอยู่เรื่อยๆในทีมของเอริค เทน ฮาก ตอนนี้คิดว่าน่าจะได้เวลาแล้วสำหรับการก้าวหน้าไปอีกขั้น จากการเดินทางในเส้นทางฟุตบอลที่จะต้องออกจากเซฟโซนตรงนี้ เพื่อไปพัฒนาฝีเท้ามากกว่าเดิม
การปล่อยยืมแดเนียล กอร์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงเล่น เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับพัฒนาการของดาวรุ่งที่เราเฝ้ามองอยู่รายนี้
Daniel Gore ได้รับความสนใจจากหลายๆสโมสรในระดับลีกรอง เพื่อจะยืมตัวไปใช้งานในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังนี้ โดยมีบางสโมสรจากเดอะแชมเปี้ยนชิพที่สนใจมิดฟิลด์รายนี้ด้วย แต่ที่แน่ๆมีความสนใจจากเอเย่นต์ของสี่สโมสรในลีกวันที่อยากดึงตัวน้องไปลงสนาม ได้แก่ Bolton Wanderers, Blackpool, Shrewsbury Town และสโมสร Fleetwood ซึ่งอยู่ในระดับลีกวันทั้งสิ้น
โดยปีที่แล้ว Shola Shoretire เคยถูกปล่อยไปอยู่กับโบลตันมาแล้วและลงสนามไป 16 เกม ถ้าจะเอาแบบได้ลงเล่นชัวร์ๆแน่ ทีมในลีกวันเหล่านี้เหมาะกับการไปเก็บประสบการณ์มากๆ "
โบลตัน" ในอันดับ3ของตารางลีกวันขณะนี้ ดูเหมาะสมที่สุดที่น้องแดนจะย้ายไปเพื่อลงเล่นในเกมจริง
กอร์ ได้เดบิวต์กับแมนยูไนเต็ดแล้วเรียบร้อยเมื่อช่วงที่ผ่านมา ในวันเกิดครบรอบ 19 ปีของเขา และเอริค เทน ฮาก ก็ยืนยันแล้วว่าสิ่งที่เขาได้รับนั้นไม่ได้เป็นเพราะว่าตัวเขาให้โอกาสเอง แต่มันเกิดขึ้นมาจากการทำงานหนักของตัวนักเตะเองต่างหาก
"มันเป็นวันเกิดที่น่าประทับใจสำหรับเขา แต่จริงๆตัวผมไม่ได้เป็นคนที่อยู่ดีๆจะให้โอกาสใครแบบไม่มีเหตุผล เขาต้องพยายาม และถ้าทำได้ พวกเขาถึงจะได้โอกาส"
"พวกเขาต้องพยายามในทุกๆวันที่ซ้อม ผมจะไม่เป็นคนที่ไปหยิบยื่นโอกาสให้กับนักเตะเอง แต่พวกเขาจะต้องพิสูจน์คุณค่าของตนในการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอจริงๆเท่านั้น เพราะถ้าเขาไม่ได้ทำแบบนั้น แล้วให้โอกาส มันจะส่งผลต่อทีม"
"เราดุเดือดกันมาก พวกเขาต้องเต็มที่ในทุกๆวันซ้อม เมื่อไหร่ที่มาตรฐานต่ำลงไป มันทำร้ายเราได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเราจะไม่ส่งเขาลง เพราะทุกวันๆมันต้องซ้อมให้ถึงขีดสุดจริงๆ"
แดเนียล กอร์ เป็นนักเตะที่บอกได้ว่า ความสามารถสูง และเล่นได้หลากหลายมากๆ อเนกประสงค์ในเรื่องบทบาทและตำแหน่งในสนาม
แฟนผีหลายๆคนอาจจะเข้าใจจากที่เห็นภาพความดุเดือดของน้องตอนลงมาในช่วงพรีซีซั่นว่าเป็นมิดฟิลด์เบอร์8สายพลังงาน แต่จริงๆแล้ว แดน กอร์ เป็น "มิดฟิลด์เชิงรุก" โดยธรรมชาติที่น้องขึ้นมาสมัยเป็นดาวรุ่งในช่วงก่อนหน้านี้
"เบอร์ 8 กึ่งเบอร์ 10" สามารถใช้ระบุการเล่นของ แดน กอร์ ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น น้องมันก็ดันสามารถลงมาเล่นในมิติเบอร์ 6 ได้ด้วยเหมือนกันถ้าจำเป็น แต่หลักๆจะเป็น 8 กึ่ง 10 ค่อนข้างชัด
ตำแหน่งที่สามารถเล่นได้คือ CM และ AM เป็นหลัก สไตล์การเล่นของ แดน กอร์ เป็นมิดฟิลด์กลางสนามแบบธรรมชาติที่สามารถทำเกมรุก เติมเกมรุกขึ้นหน้าได้ ตอนเล่นทีมสำรองและชุดเยาวชนก็เป็นตัววิ่งที่แล่บขึ้นไปรับบอลในแดนบน เป็นตัวจบสกอร์เองก็มีให้เห็นบ่อยๆ รวมถึงมิติการออกบอลในลักษณะของการจ่ายบอลฆ่า, คิลเลอร์พาสให้เพื่อนที่เป็นหน้าเป้าหลุดขึ้นไปยิงก็มีให้เห็น
ดังนั้น ถ้าจะระบุสไตล์การเล่นของ แดน กอร์ สิ่งที่น่าจะครอบคลุมที่สุดคือ การเป็น "มิดฟิลด์สายบัญชาการ" มีการเล่นในเชิงรุกที่สามารถขึงเกมคุมเกมในแดนกลางได้ น่าจะอธิบายฝีเท้าการเล่นของเขาได้ดีที่สุด
Attacking Midfielder สามารถใช้คำนี้ก็ได้แบบที่ครอบคลุม คือเป็นมิดฟิลด์กลางสนามที่มีการเล่นในเชิงรุกอยู่ในตัว หรือถ้าจะให้ละเอียดลงมาอีก หากว่าเป็นการเล่นเกมรุกเน้นๆ เขาก็จะเป็นพวก Enganche หรือที่เรียกว่าเป็น แกนกลางแนวรุกจากพื้นที่มิดฟิลด์ ประมาณว่าเป็นเบอร์สิบโบราณที่จะคุมเกมรุกอยู่ตรงกลางนั่นเอง (ในชุดสำรอง น้องใส่เสื้อเบอร์ 10 เบอร์ 8 ตลอด)
ปัจจุบันนี้ แดน กอร์ เล่นในบทบาทที่เป็นสำรองของตำแหน่ง CM ให้กับทีมเรา ด้วยคาแรคเตอร์ที่ค่อนข้างดุดัน เอาจริงเอาจังในการเล่น และอย่างที่เรารู้กันว่าน้องเป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งใจเข้าขั้นซ้อมแบบบ้าเลือดมากๆคนหนึ่ง ทำให้เขาค่อยๆพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในช่วงพรีซีซั่นเจ้าตัวได้ลงมาเล่นต่ำมากขึ้น ด้วยตำแหน่ง 6 กึ่ง 8 ที่ต้องเล่น "โฮลดิ้ง" เพิ่มขึ้นมาอีกมิติ ก็ทำได้ไม่เลวเลย น้องมีเหลี่ยมบอลที่ดี มีความเข้าใจเกม ชั้นเชิงของการเอาตัวรอดในพื้นที่ตรงกลางที่ดีมากๆในเกมที่ลงมาเล่นบทบาทดังกล่าว
และยังไม่ทิ้งลายความเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกด้วยการลุยขึ้นหน้าจนกระทั่งเปิดแอสซิสต์ให้ฟานเดอเบคยิงได้สำเร็จในเกมเจอลียง
ดังนั้นแล้ว น้องแดนสามารถเล่นได้หมดเลยตั้งแต่ตำแหน่งเบอร์ 6 / 8 / 10 ได้หมดในมิติหน้าที่ของคนเป็นมิดฟิลด์ เอาจริงๆลูกบ้าแบบนี้จะตัดต่อพันธุกรรมให้ลงมาเล่นกลางรับตัวตัดเกมเน้นๆยังได้เลยด้วยซ้ำ นี่คือพัฒนาการที่น่าสนใจมาก จากมิดฟิลด์ตัวบน เพิ่มความสามารถในการถอยต่ำลงมาคุมเกมให้ทีมได้ มันจะทำให้อนาคตของน้องแดนสามารถเล่นได้หลากหลาย และมีประโยชน์กับทีมได้อีกเยอะไม่ว่าจะอยู่กับแมนยูหรือที่ไหนก็ตาม
ยุคนี้ นักฟุตบอลต้องมีความสามารถแบบ All around จริงๆ พวกเล่นได้ตำแหน่งเดียว หน้าที่เดียว สมัยนี้อยู่ไม่ได้แล้ว แดเนียล กอร์ คือตัวอย่างที่น่าสนใจของนวัตกรรมฟุตบอลในยุคนี้
ต้องตามดูกันต่อไปสำหรับอนาคตของเขาว่าจะเป็นยังไงต่อในช่วงที่เหลือนี้ของซีซั่น ประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การปล่อยนักเตะในตำแหน่งมิดฟิลด์เบอร์8อีกคนหนึ่งออกไปอย่าง ฮันนิบาล เมจบรี ที่ไปยืมตัวอยู่กับเซบีญ่า อาจจะทำให้เอริค เทน ฮาก เลือกที่จะดึงตัวน้องแดนเอาไว้ใช้งานเพื่อเป็นขุมกำลังสำรองให้ทีมในตำแหน่งมิดฟิลด์
ด้วยสไตล์และบทบาทในทีมที่ค่อนข้างใกล้กัน กอร์อาจจะได้เป็นส่วนหนึ่งของตัวแบ็คอัพ เมสัน เมาท์ ในอนาคตอันใกล้นี้ที่เมาท์กำลังจะหายเจ็บกลับมาแล้ว ในบทบาท 8 กึ่ง 10 ของเมสัน เมาท์ นั่นคือสิ่งที่ตรงกับสไตล์การเล่นหลักของ แดน กอร์ ที่สุด
หรือถ้าค็อบบี้ ไมนู, คาเซมิโร่ มีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้น กอร์จะสามารถอยู่สแตนด์บายเป็นกลางต่ำในระบบ double pivot ต่อจากโซฟียาน อัมราบัต และ คริสเตียน เอริคเซ่น ได้อีกต่อ ซึ่งส่วนมาก EtH น่าจะให้เขาเล่นใน role นี้ มากกว่าที่จะให้ไปเป็นตัวสำรองของผู้เล่นแนวรุกอย่าง บรูโน่ โดยตรง
สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนเชื่อก็คือ นักฟุตบอลคนหนึ่งอาจจะไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรเหนือชั้นมากมาย แต่ถ้าเขามีระเบียบวินัย มีความมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมอย่างยิ่งยวด เขาก็จะสามารถสั่งสมฝีเท้าและก้าวขึ้นมาสู่แนวหน้าได้ในอนาคต นักเตะอย่าง แดเนียล กอร์ มีคุณสมบัติของความพยายามและการพัฒนาตัวเช่นนี้อยู่
เชื่อและมั่นใจมากๆว่า ในอนาคต เขาจะต้องเป็นมิดฟิลด์อีกคนหนึ่งที่ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะชั้นนำของวงการฟุตบอลได้แน่ๆ อย่างน้อยๆต้องเป็นตัวหลักของสโมสรในลีกหลักของยุโรปสักแห่งหนึ่งแน่นอน
คนนี้น่าติดตามดูพัฒนาการจริงๆ
#BELIEVE
-ศาลาผี-
References
https://www.transfermarkt.com/daniel-gore/leistungsdaten/spieler/747153/plus/0?saison=2023
