:::     :::

ก่อนเกมวูล์ฟ / รูทีน / และทัศนคติในทีมEtH

วันพุธที่ 31 มกราคม 2567 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
737
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
คำตอบเรื่องแรชฟอร์ดจากปากผู้จัดการทีม, อัพเดทก่อนเกมวูล์ฟ และทัศนคติของนักเตะที่จะอยู่กับ EtH ไหว ผ่านระบบการทำทีมที่เน้นเรื่องการลงเล่นต่อเนื่องเพื่อสร้าง "รูทีนการลงเล่น" ให้กับนักเตะตัวหลัก

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเริ่มกลับมาแข่งขันกันแล้วเมื่อคืนนี้อย่างดุเดือด มีทั้งเกมล้มยักษ์ที่ลูตันเชือดไบรท์ตันถล่มทลาย 4-0 และเกมล้าง(แต่ไม่)แค้น ของแอสตัน วิลล่า ที่เจอถล่มมาต้นฤดูกาล กลับมาเปิดบ้านก็ยังโดนนิวคาสเซิลบุกมาถลุงไปอีก 1-3 บรรยากาศของการแข่งขันกลับมาอีกครั้ง

ส่วนแมนยูไนเต็ดเราก็มีคิวจะไปเยือนวูล์ฟในคืนวันพฤหัสบดีนี้ (เช้ามืดวันศุกร์) เวลาตี3.15 ก่อนเกมดังกล่าวจึงมีเพรสคอนของ เอริค เทน ฮาก ที่ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว และประเด็นหลักคงเป็นเรื่องฉาวในหลายวันมานี้ของแรชฟอร์ดที่ทุกๆคนอยากรู้

ทุกๆคำถาม ทั้งเรื่องแรช ความพร้อมทีม นักเตะที่พร้อมลงสนามมีอะไรบ้าง ไปอ่านกันครับ

- อัพเดทความพร้อมของทีมก่อนเกมเจอวูล์ฟ
: ยังเร็วไปที่ เมสัน เมาท์ จะกลับมาลงสนามได้ แต่ส่วนของอังเดร โอนาน่า กลับมาเตรียมพร้อมแล้ว, ลินเดอเลิฟ กลับมาซ้อมแล้ว แต่ระดับความฟิตน่าจะยังไม่พร้อม

- ถูกถามถึงกรณีของ มาร์คัส แรชฟอร์ด
"เขาได้รับผิดชอบไปแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องภายใน แต่เคสมันจบละ อย่างที่บอก"

- ถูกถามว่าแรชฟอร์ดขาดความเคารพใช่ไหม?
"ไม่มีอะไรต้องทำเพิ่มแล้ว ก็อย่างที่ผมบอกว่าเราต้องโฟกัสกับเกม มันต้องมูฟออนเดินหน้า ข้อความประกาศค่อนข้างชัดเจนแล้ว และเราต้องมุ่งเป้าอยู่กับเรื่องการลงแข่งให้ชนะ"

"สำหรับฟุตบอลคุณจะต้องมีระเบียบวินัยทั้งในสนาม และเรื่องนอกสนามด้วย มันมีเส้นแบ่งระหว่างนักเตะทั่วไป กับมืออาชีพทุกๆคนว่าจำเป็นต้องทำอะไรบ้าง และพวกเราต้องโฟกัสอยู่กับการลงแข่งเพื่อชัยชนะ นั่นดีและสำคัญที่สุด"


"เกมพรีเมียร์ลีกสองนัดหลังสุด สองประตูและแอสซิสต์ มันมีการพัฒนาขึ้นระหว่างการเล่นร่วมกันของมาร์คัส แรชฟอร์ดและราสมุส ฮอยลุนด์ และเราต้องการให้สิ่งนั้นดำเนินไปต่อเนื่อง"

"เราค่อนข้างมีความมั่นใจ และเวลาที่มันเป็นวันที่ดีที่สุดของเรา เราก็สามารถชนะใครก็ได้ ในวันที่แย่ที่สุดของเรา เราก็ลงไปถึงเส้นขีดจำกัดในสิ่งที่มันยอมรับไม่ได้ เพราะงั้นเราจำเป็นต้องยกระดับเส้นที่ว่านั้นให้สูงขึ้น เพื่อให้ในวันที่แย่มันยังสามารถเก็บผลการแข่งขันไว้ได้"

"ทุกๆคนในทีมมั่นใจมากในเรื่องนี้ พวกเขารู้กันเองดีว่านักเตะที่กลับมาจากการพักยาวจะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น มันช่วยเรื่องการกระตุ้น ช่วยปรับความรู้สึกและสปิริตของทีมได้"


"ในทุกๆเกมเราต้องทำให้มันเหมือนเป็นเกมสุดท้ายในรอบชิง เราต้องทำผลงานออกมาให้ได้ดีที่สุด ทีมนี้มีประสบการณ์อยู่มากพวกเขาก็รู้เรื่องนั้นดี ผมเองค่อนข้างรู้สึกไปในเชิงบวก และเราก็ได้นักเตะเหล่านี้กลับมาแล้ว"

"นักเตะบางคนยังต้องการเกมลงเล่นเพื่อปรับจังหวะ แต่ว่าไลน์อัพที่จะลงในเกมนี้ค่อนข้างดีแล้ว พวกเขาได้ลงเล่นมาในแมตช์กระชับมิตร ที่ผ่านมาลงบอลถ้วย และก็กำลังจะเข้าสู่พรีเมียร์ลีก การสร้างความฟิตขึ้นมาค่อนข้างดีสำหรับนักเตะเหล่านี้ ตอนนี้เราจึงต้องเข้าสู่สเต็ปต่อไปในการเรียกฟอร์มนักเตะรายบุคคลให้เล่นด้วยฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาให้ได้"

"เรารู้ว่าต้องไล่ตามผู้นำให้ได้ นักเตะรู้เรื่องนั้น ทีมจะแกร่งขึ้นเวลาขาดนักเตะในตำแหน่งสำคัญๆไป มันจะทำให้กระแสของทีมอ่อนแอลง โดยเฉพาะยิ่งถ้าต้องswapนักเตะทุกๆเกม มันมีปัญหากับเรื่อง Routines มากๆ อย่างที่เราได้เห็นความสับสนซึ่งเกิดขึ้นกันแล้ว แต่ตอนนี้การรักษานักเตะให้คงความฟิตเอาไว้ได้เป็นสิ่งแรก และอีกสิ่งก็คือเรียกให้ฟอร์มดีขึ้น ส่วนอย่างที่สามคือต้องพยายามเก็บผลลัพธ์ให้ดีกว่าเดิม"


ทั้งหมดนี้คือเนื้อหาเพรสคอนฯหลักๆของเอริค เทน ฮาก ก่อนเกมวูล์ฟคืนพรุ่งนี้ สิ่งที่หลายๆคนอยากรู้คือเรื่องของ "มาร์คัส แรชฟอร์ด" ที่เอริค เทน ฮาก ให้สัมภาษณ์เอาไว้ ถ้าจับใจความแบบผ่านๆคนอ่านก็อาจจะคิดว่า นัดนี้แรชก็กลับมาลงตัวจริงอีกแน่ๆ

ส่วนตัวผมสนับสนุนให้บอสลงโทษทางวินัยเพิ่มเติมกว่านี้อีกนิดด้วยเพื่อจะปรับพฤติกรรมให้ได้สติบ้าง แต่ถ้าเอริคมีมุมมองในเรื่องที่จัดการไปแล้วหมดทุกอย่างก็ตามนั้น คืออ่านที่แกพูดแกก็เข้าใจแหละว่า นักข่าวคงอยากจะให้ตอบว่า "จะจัดการกับแรชฟอร์ดยังไง" แกก็เลยบอกว่าทุกอย่างมันเรียบร้อยไปแล้วตามนั้น

ผู้เขียนเอนเอียงไปในทางที่อยากให้ปรับพฤติกรรมเพิ่มหน่อย นัดนี้กลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองได้ ก็สมควรแล้ว แต่ยังไม่อยากให้ลงตัวจริง ควรให้ตัวเล่นที่เล่นมานัดที่แล้วอย่าง การ์นาโช่ ฮอยลุนด์ อันโทนี่ ลงสนามก่อน แต่ถ้าบอสจะดึงแรชกลับมาตัวจริงก็ถือว่าแกพิจารณาแล้วตามนั้น ผมก็จะไม่ขัดอะไรและก็จะยอมรับ เคารพการตัดสินใจของแกเหมือนกัน

จะส่งแรชลงหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นหลัก ขอแค่ทำยังไงก็ได้ให้ทีมชนะก็พอ

ต้นฤดูกาลเฉือนมา 1-0 ในนัดเปิดจากราฟาเอล วาราน

ส่วนประเด็นหลังสุดที่อยากให้ได้เห็นชัดอีกครั้ง คือวิธีการทำงานของเฮดโค้ชรายนี้ว่าค่อนข้างชัดเจนว่า นักเตะที่จะอยู่ในทีมเทน ฮากได้ต้องวินัยจัด และทัศนคติดีมากจริงๆถึงจะอยู่ไหว เนื่องจากว่าเอริคมักจะใช้นักเตะตัวหลักที่เขาวางไว้แล้วนั้น เป็นตัวหลักในการลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าคุณยังไม่ดีพอที่จะอยู่ในชุด 11 ตัวจริง โอกาสจะลงเป็น Starting XI จะน้อยมากถ้าคุณไม่ได้ฟอร์มเหนือกว่าผู้เล่นหลัก

เราเห็นวิธีการนี้มานานแล้ว

นึกภาพง่ายๆตอนที่ทุกคนฟิตสมบูรณ์ แมกไกวร์ แม็คโทมิเนย์ พวกนี้เทน ฮาก จับสำรองยาวๆจริงๆ เพราะเหตุผลเดียวกันนี้แหละที่ต้องการจะสร้างการเล่นต่อเนื่องให้นักเตะหลัก ด้วย "รูทีนการลงแข่ง" ที่ลงต่อเนื่องและทำซ้ำๆเพื่อสร้างระดับความฟิตให้คงที่ และสร้างความคุ้นเคยให้กับแผนการเล่นในทีมให้ได้

ตัวที่สำรอง จะต้องสำรองอย่างอดทนจริงๆ ใครที่ทนไม่ไหวก็จะธาตุไฟแตกอย่างที่เห็น แต่ถ้าคนที่ทัศนคติดีจัดๆ ยกตัวอย่างเช่นเคสของ แฮรี่ แมกไกวร์ รอโอกาสบนม้านั่ง เงียบกริบไม่ปริปาก จนกระทั่งได้โอกาสจริงๆเมื่อเวลามันมาถึง คนแบบนั้นถึงจะอยู่ไหวในทีมที่วิธีการพิจารณาตัวสนามเข้มข้นแบบนี้

ดังนั้นคนที่จะอยู่กับเอริค เทน ฮากไหว ต้องทัศนคติดีจัดๆมากๆจริง เพราะเราเข้าใจว่านักบอลเวลาไม่ได้ลงตัวจริงมันอึดอัดมากขนาดไหน ถ้าจะมีคนที่ผลักดันตัวเองย้ายออกเพื่อโอกาสการลงเล่นก็คงไม่แปลกใจ คนที่จะอยู่เป็น Squad Player ตัวหมุนเวียนให้ทีมได้ จะต้องทำมาตรฐานของตัวเองให้ดีมากๆเพื่อรอโอกาสการเป็นตัวเลือก ซึ่งถ้าโอกาสมาถึง คนที่พร้อมก็จะได้ลงเล่นทันที

แฮรี่ แมกไกวร์ เป็นตัวอย่างของ "มืออาชีพ" ที่น่าทึ่งและน่ายกย่องมากๆคนนึงเลย


วิธีการสร้างรูทีนดังกล่าว คือการส่งนักเตะชุดตัวหลักให้ได้ลงเล่นด้วยกันให้มากที่สุด และลงเล่นด้วยรูปแบบที่ทีมวางแนวทางมาด้วยกัน ซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างที่กล่าวมาแล้วว่า ยิ่งชัดเจนว่า EtH วางเกมของเราในปีนี้ด้วยการใช้ บอลเร็วที่ใช้เรื่องของเกมทรานซิชั่น และบอลไดเร็คต์สปีดสูงๆเป็นหลักในการเล่น นั่นคือรูปแบบหลักของวิธีการ เป็นสิ่งสำคัญที่เราต้อง replicate มันซ้ำๆขึ้นมาเพื่อจะสร้าง Routines ในการเล่นให้นักเตะจดจำ และมีร่างกายที่พร้อมเล่นแบบนั้นอัตโนมัติ ไม่ต่างกับระบบอื่นๆที่ต้องฝึกฝนบ่อยๆซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าจะเล่นได้ เช่นรูปแบบเกเก้นเพรสซิ่ง, หรือบอลสายPositional Play เป็นต้น บอลเร็วแบบนี้ก็ต้องฝึกและเล่นซ้ำไปเรื่อยๆจนกว่าจะแม่นและมีประสิทธิภาพเช่นกัน

ส่วนโครงสร้างการเล่นในสนามนั้น ในยามที่นักเตะกลับมาครบๆแล้วคือเล่นด้วยโครงสร้าง 3-2-2-3 ในจังหวะการเป็นฝ่ายครองบอล (จาก formation หลัก 4-3-3)

เซ็ตบอลด้วยฐานเซ็นเตอร์ 3คน + กลางคู่ 2 คน กลางต่ำ1และแบ็คInverted1 + มิดฟิลด์ตัวบน2คน เพลย์เมค1 ตัวเชื่อมตัวเติม1 + แนวรุกฟร้อนท์ทรี 3 คน

จากทั้งหมดทั้งมวลที่เราจะสร้างเกมการเล่นดีๆอย่างที่แฟนบอลต้องการนั้น เรื่องแมตช์การลงเล่นจำเป็นมากๆ เกมนัดเจอนิวพอร์ทส่งตัวจริงลงก็คือทำตามกระบวนการเป๊ะๆ เชื่อว่านัดนี้ ไลน์อัพเจอวูล์ฟน่าจะเป็นชุดเดียวกันเกือบทั้ง 11 คน ยกเว้นตำแหน่งผู้รักษาประตูที่จะกลับมาเป็น อังเดร โอนาน่าแน่นอนเพื่อความต่อเนื่อง ผมยังเชื่ออยู่ว่า ดูจากรูปการณ์ มาร์คัสจะต้องสำรองไปอีกสักหนึ่งนัด

เรื่อง Fitness Level ของทีม ส่วนตัวผมก็มองเห็นตรงกับแกว่าช่วงนี้ build ขึ้นมาได้ดี จากเกมอุ่นเครื่อง(แพ้เบิร์นลีย์) แล้วลงเล่นบอลถ้วยในเกมที่ไม่ถึงกับตึงมาก มันค่อยๆไล่ระดับมาเรื่อยๆ โดยที่นักเตะสามารถโฟกัสกับการเล่นที่ยกระดับ Match Fitness ของตัวเองให้ค่อยดีขึ้นจนมันเสถียรในที่สุด นักเตะที่เพิ่งหายกลับมาอย่างคาเซมิโร่ ลิช่า พวกนี้ได้ประโยชน์เต็มๆ ขณะที่ตัวหลักที่ยืนยิงมายาวๆอย่างบรูโน่ ช่วงนี้เกมก็ไม่หนักเกินไป(บอลยุโรปตกรอบหมดแล้วไง) หลายๆอย่างก็น่าจะดีขึ้นด้วย

เพราะฉะนั้นแล้ว จึงได้แต่หวังว่า ระดับความฟิต และความเข้าขากันของทีมในภาคการเล่น จะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ เกมเจอกับวูล์ฟน่าจะเริ่มเป็นเกมที่สะท้อนให้เห็นแล้วว่า การได้ตัวหลักคนสำคัญอย่าง คาเซมิโร่ และ มาร์ติเนซ กลับมาเป็นตัวหลักให้ทีม เพื่อสร้าง combination การเล่นของเราให้แข็งแกร่ง และลงตัว มันสำคัญยังไง

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตาม Process การทำทีม เราจะต้องเอาชนะและผ่านวูล์ฟไปได้ ยิ่งในเกมเยือนที่มีโอกาสจะเล่น Transition Phase เยอะๆแล้วนั้นก็ยิ่งมีโอกาสสูง ที่เหลือแค่พื้นที่สุดท้ายแล้วที่ต้องคาดหวังให้น้องๆแนวรุกอายุน้อยของเรา เล่นกันให้เฉียบคมมากกว่านี้ ทุกๆอย่างของแมนยูมันจะค่อยๆดีขึ้นแน่นอนในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง

เชียร์กันต่อไปในการทำทีมระยะยาวครับ ภารกิจของเรามีให้เฝ้าจับตามองเรื่อยๆ ปัญหาก็เกิดให้เอริค เทน ฮาก แก้ไม่หยุดหย่อน ก็น่าปวดหัวแทน แต่เชื่อว่าแกคงเอาอยู่ และพาทีมเดินหน้าต่อไปได้ หลังจากนี้ก็รอทีมงานหลังบ้านดึง DOF เข้ามาให้ได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ แมนยูไนเต็ดก็จะยิ่งมีอนาคตที่แข็งแกร่งมากกว่าเดิม

สู้ต่อไปปีศาจแดง

#BELIEVE

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด