"แมวมองตาเพชร" Sam Jewell หนึ่งในแคนดิเดทหัวหน้าแมวมองผี
"เพื่อนผมคนนี้เขาเป็นชายที่สุดยอดคนนึง เขาทำงานอย่างดีเยี่ยมมากๆในตลาดซื้อขายล่าสุด เขายังหนุ่มยังแน่นแต่มีพรสวรรค์มาก มีPassionสูง เขารู้จักนักเตะทุกคนในโลกเลยล่ะ เหมือนผมเลย!"
Roberto De Zerbi พูดถึง "Sam Jewell" ชายผู้ซึ่งเป็น "หนึ่งในแคนดิเดทที่เป็นไปได้ในอนาคต" สำหรับแมนยูไนเต็ดในการที่อาจจะดึงแซมเข้ามาเป็นผู้ช่วยของ Dan Ashworth ต่อเนื่องหลังจากนี้ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายจัดหา ซึ่งจะทำงานอันเดอร์ Sporting Director อีกที
แซมคือหัวหน้าแมวมองนักเตะของไบรท์ตันในปัจจุบันนี้ (Head of Scouting) ซึ่งทาง แดน แอชเวิร์ธนั้น ก็เคยทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการเทคนิคของทางไบรท์ตันเหมือนกัน
จากประธานเทคนิคของไบรท์ตัน แดน แอชเวิร์ธ ก็ย้ายมาเป็น Sporting Director ของนิวคาสเซิลอย่างที่เราทราบกัน ซึ่งจากกระแสข่าวการทาบทามนั้น มีโอกาสสูงที่แอชเวิร์ธจะย้ายมาแมนยูไนเต็ดอีกต่อ หลังจากทำงานที่เซนต์เจมส์พาร์คมาจะสองปีแล้ว
ดังนั้นทั้ง แซม จีเวลล์ และ แดน แอชเวิร์ธ มีจุดร่วมกันตอนทำงานที่ไบรท์ตัน การจะดึงแซมเข้ามาก็เพื่อที่จะเป็นผู้ช่วยในลำดับรองลงไปของแดนนั่นเอง และก็มี รายงานว่าทั้งเชลซีและแมนยูไนเต็ดนั้นต่างสนใจที่จะดึงเขาไปพัฒนาการทำงานของสโมสร
ปัจจุบัน Sam Jewell อายุแค่ 34 ปี ถือว่าน้อยมากๆ เขาก้าวขึ้นมาจากการทำงานกับไบรท์ตันโดยขึ้นมาทดแทนตำแหน่ง Paul Winstranley ในเดือนพฤศจิกายนปี 2022 ซึ่งพอลย้ายไปร่วมงานกับสิงห์บลูในตำแหน่ง Sporting Director นั่นเอง ซึ่งก็หนีบกันไปพร้อมๆกันกับนายใหญ่อย่างมิสเตอร์พอตเตอร์ นั่นเอง
แซมสร้างความประทับใจให้เดอแซร์บี้อย่างมากในตลาดซื้อขาย โดยเฉพาะในซัมเมอร์ปีที่แล้วที่เซ็นสัญญาอันยอดเยี่ยมเข้ามามากมาย โดยเจ้าตัวนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากในการดึงตัว Alexis Mac Allister และ Moises Caicedo ซึ่งหลังจากนั้นสองคนนี้ก็ถูกขายทำกำไรมหาศาลให้กับสโมสร
(แฟนแมนยูที่นึกย้อนไปแล้วเสียดายดีลไกเซโด้อยู่ตั้งแต่ก่อนน้องย้ายมาอังกฤษ ตอนที่ค่าตัวจริงๆแค่สิบกว่าล้านแต่แมนยูโดนไบรท์ตันเดินเกมเร็วไปปาดแซงคว้าตัวมานั้น ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยที่ตัดหน้าเราในตอนนั้น อีตาแซมกับพรี่แดนนั่นเอง!)
ดีลไกเซโด้ในปี 2021 แซมมีส่วนอย่างมากในตอนนั้น
แซม จีเวลล์ มาร่วมกับสโมสรแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2016 มาพร้อมกับสายเลือดทางฟุตบอลที่ดีด้วย โดยคุณพ่ออย่าง "Paul Jewell" ก็เป็นผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยมซึ่งเคยคุมแบรดฟอร์ด และพาวีแกนขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก โดยพอลนั้นปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลที่สวินดอนทาวน์ และดึงลูกชายเขาเข้ามาสู่อาชีพในวงการฟุตบอลในที่สุด
"เขาคุมทีมในระดับสูงสุดตั้งแต่ผมอายุ 8 ขวบ เพราะงั้นผมเลยโตขึ้นมาอยู่ในวงในของการแข่งขันตั้งแต่เด็ก นั่นคือที่ผมรู้ ผมเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมดังกล่าว เก็บประสบการณ์อย่างใกล้ชิดทั้งเวลาที่ดีและแย่ นั่นทำให้ผมอยู่ในจุดที่ดีอยู่ในทุกวันนี้"
"ผมใกล้ชิดกับเขามากๆ พวกเราคุยกันแทบทุกวัน มันเป็นอะไรที่ดีสำหรับผมมาก ตอนนี้เขาเป็นตัวเดินงานทุกอย่างให้ไบรท์ตัน บทบาทมันกลับกันแล้ว!"
สมัยเด็กๆของแซม จีเวลล์ เคยได้ฝึกฝนอยู่ในอะคาเดมี่ของแบรดฟอร์ดและลีดส์ แต่มีพรสวรรค์ในเกมกอล์ฟด้วย โดยได้เคยแข่งขันเคียงข้าง Rory McIlroy และ Danny Willet แชมป์มาสเตอร์ในเกมระดับชาติมาแล้ว
Paul & Sam Father and Son
แซม จีเวลล์ เริ่มต้นงานบริหารในด้านฟุตบอลและการเป็นแมวมองที่สโมสร นิวพอร์ท เคาน์ตี้ ก่อนจะใช้เวลาราว 1 ปีครึ่ง ในการเป็นหัวหน้าแมวมองที่สวินดอน จากนั้นย้ายมาอยู่ไบรท์ตันในปี 2016 ดูแลการดึงนักเตะเข้าทีมในชุดต่ำกว่า 21 ปี ก่อนจะยกระดับขึ้นมาเป็นผู้จัดการฝ่ายแมวมองในอีกสองปีต่อมา
แซมเรียนสแปนิชมาในช่วงโควิดเพื่อจะสามารถพูดคุยกับนักเตะที่ใช้ภาษานี้ได้ ซึ่งช่วยไบรท์ตันได้เยอะในการหานักเตะสายละตินอเมริกา
การซื้อขายของไบรท์ตันนั้นได้รับการยกย่องในวงการฟุตบอล ซึ่งจีเวลล์ก็ทำงานเป็นส่วนสำคัญดังกล่าวของทีมนกนางนวลจนเป็นเหตุให้เตะตาทั้งเชลซีและแมนยูไนเต็ดอยู่ในขณะนี้
"มันยากมากที่จะลอก(ไบรท์ตัน)ไปได้ เพราะเรามีวิถีของการทำงานที่ค่อนข้างเฉพาะตัว เพราะงั้นผมคิดว่ากุญแจสำคัญคือการไม่เหลิงหรือลดระดับลง เรามีผู้จัดการทีมระดับโลกอยู่ เราได้เล่นในเกมยุโรป เพราะงั้นเราก็เป็นเป้าหมายใหญ่ๆของนักเตะเหมือนกันในตอนนี้"
"เราไม่ได้มีพลังเงินเหมือนสโมสรอื่นๆ แต่เรารู้สึกว่าเรามีวัฒนธรรมที่ยูนีคไม่เหมือนใคร มีปรัชญาเฉพาะทาง และเราได้เห็นนักเตะมากมายที่ปัดข้อเสนอก้อนโตเพื่อจะมาอยู่ที่นี่ ที่ซึ่งผมมั่นใจว่าพวกเขาจะไม่เสียใจในภายหลังอย่างแน่นอน"
นี่คือประวัติและแบ็คกราวน์คร่าวๆของชายผู้มีสายตาการควานหานักเตะประดุจเหยี่ยวมองหาเหยื่อที่เขาต้องการได้อย่างดีเยี่ยม ทุกๆการสรรหานักเตะของแซม จีเวลล์ น่าสนใจมาก และถือเป็นขุนพลที่เป็นขุมกำลังสำคัญของความแข็งแกร่งที่ไบรท์ตันมีในตอนนี้
ดีลของ Sam Jewell ในตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก แรกสุดคือจะต้องลุ้นดีลของ Dan Ashworth ให้สำเร็จจริงๆซะก่อนในเรื่องของการจ่ายเงินชดเชยเพื่อให้พี่แดนมาเริ่มต้นทำงานกับเราได้ แต่ถ้าดีลของแดนเดินหน้าไปในทิศทางที่เราคาดการณ์กันว่า "ได้ตัวแน่ๆ" แบบนี้แล้ว เชื่อว่าแคนดิเดทคนนี้ของไบรท์ตันก็น่าจะอยากยกระดับอาชีพของเขามาอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างแน่นอน เพราะนั่นคือโอกาสที่ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกัน
ในเบื้องต้นแฟนผีจะต้องลุ้นให้ Dan Ashworth ได้ย้ายมาแมนยูให้ได้ก่อน ซึ่งวันนี้มีรายงานจาก Craig Hope แห่ง Daily Mail [Tier2-Newcastle] ระบุมาให้แฟนผีตื่นเต้นเล่นๆว่า มีการตกลงกันได้แบบไม่เป็นทางการแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นแมนยูจะต้องจ่ายค่าชดเชยให้นิวคาสเซิลอีกพอสมควร ต้องดูว่าจะยอม หรือจะดีลกับสาลิกาดงหรือไม่ แต่ถ้าดีลของพี่แดนมาเมื่อไหร่ โอกาสที่ INEOS จะไปดึงเอา Jewell แมวมองตาเพชรผู้นี้มาช่วยแดนทำงานอีกต่อก็มีสูงมากๆ
พูดง่ายๆว่า ถ้าแดนมา แซมก็น่าจะมาแน่ๆ
สองดีลนี้ดูเหมือนจะมาจากคนละสโมสร แต่ผูกกันอยู่พอสมควร และนี่คือมือดีที่อยู่ในสโมสรสเกลไม่ใหญ่มากนัก การจะไปดึงบุคลากรแบบนี้มา ไม่น่าจะยากมาก ยิ่งแมนยูโชว์พาวไปดึงมือดีของทีมระดับแมนซิตี้มาได้แล้ว ไบรท์ตันดูไม่น่าเป็นปัญหาอะไรเลยในตอนนี้ที่ INEOS น่าจะเจรจาและสอยด้วยคอนเน็คชั่นสำเร็จ
ในหมู่นกนางนวล มีเหยี่ยวแอบแฝงอยู่ข้างใน
แซมคือสายตาของเหยี่ยวตัวนั้นนั่นเอง
ความแข็งแกร่งที่แอบแฝงอยู่ในความไม่มีอะไร คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงโดยไม่ต้องมีเปลือกปลอมๆอยู่เบื้องหน้าด้วยชื่อเสียงและสเกลของสโมสร แข็งแกร่งมาจากภายในอย่างไบรท์ตันนี่แหละเป็นอะไรที่น่าสนใจมากจริงๆ
จงไปพาเหยี่ยวตัวนี้มาล่าเหยื่อให้ปีศาจแดงซะ
#BELIEVE
-ศาลาผี-
References
https://www.transfermarkt.com/sam-jewell/profil/trainer/111690