ความปราชัยต่อ ปอร์โต้ ในเกมที่ไม่สามารถยิงบอลเข้ากรอบได้เลย ทำให้ อาร์เซน่อล ถูกจับตามองว่าจะตอบสนองออกมาด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีอีกครั้งได้ทันควันหรือไม่

มิเกล อาร์เตต้า เลือกปรับแดนกลางส่ง จอร์จินโญ่ กลับมาลงตัวจริงอีกครั้งพร้อมดัน ไค ฮาแวร์ตซ์ ไปเล่น false 9 ทำให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ หลุดเป็นสำรอง

ส่วน นิวคาสเซิ่ล ของ เอ็ดดี้ ฮาว ได้ อเล็กซานเดอร์ อีซัค ฟิตทันเวลาลงยืนหน้าเป้า แต่ตำแหน่งผู้รักษาประตูมีปัญหาเพิ่มเมื่อ มาร์ติน ดูบราฟก้า เกิดอาการป่วยเล่นไม่ได้ ลอริส คาริอุส จึงได้เฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในสีเสื้อสาลิกา

อาร์เซน่อล เริ่มต้นเกมได้ดุดันอย่างที่แฟนบอลอยากเห็นด้วยสองแรงกระตุ้นสำคัญคือ แพ้แบบคาใจจากปัญหาวีเออาร์ในเกมแรกที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ค รวมถึงเพิ่งปราชัยจากเกมยุโรปเมื่อกลางสัปดาห์

แข้งปืนคอนโทรลเกมได้ตั้งแต่ออกสตาร์ท และสามารถพาบอลเข้าเขตโทษสาลิกาได้อย่างต่อเนื่อง สาลิกาถูกต้อนหลังพิงฝากางตำรารับแทบไม่ทัน 

จอร์จินโญ่ โดดเด่นมากในการเซตบอลจากแดนกลางที่เป็นคนคอยออกบอลซ้าย-ขวา และยังตัดบอลปิดโอกาสโต้กลับของทีมเยือนได้หลายครั้ง

ประตูแรกมาจากทีเด็ดลูกเซตพีซอีกครั้ง แม้สุดท้ายเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ สเวน บ็อตมัน แต่ก็ต้องให้เครดิต บูคาโย่ ซาก้า เปิดให้ กาเบรียล มากัลเญส โหม่งติดเซฟในจังหวะแรก

อาร์เซน่อล เดินหน้านวดเข้าใส่ไม่เปิดโอกาสให้ นิวคาสเซิ่ล ได้หายใจหายคอ แดนบนไล่เพรสขยันขันแข็ง บีบให้แนวรับผู้มาเยือนออกบอลลำบากจนผิดพลาดกันหลายครั้ง

บอลแถวสองเก็บได้หมด การตัดสินใจส่ง จอร์จินโญ่ ลงเล่นแดนกลางช่วยงาน เดแคลน ไรซ์ ได้อย่างมาก และกลายเป็นว่า ไรซ์ สามารถขยับขึ้นไปเล่นในบทบาทหมายเลข 8 ได้แบบไม่กังวล

ประตู 2-0 จากจังหวะที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ตวัดให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ชาร์จจ่อๆ ก็เป็น จอร์จินโญ่ ที่หยอดบอลเขตโทษให้อย่างสุดยอด แนวรับของนิวคาสเซิ่ลหลุดตำแหน่งกันหลายคน และไม่สามารถป้องกันได้ 

เป็นครึ่งแรกที่ยอดเยี่ยมสุดๆ สำหรับ อาร์เซน่อล เพราะนอกจากเกมรุกสร้างโอกาสได้เพียบและนำสองลูกแล้ว เกมรับก็ยอดเยี่ยมจัดการเกมรุกนิวคาสเซิ่ลได้อยู่หมัด ไม่เปิดโอกาสให้ได้ลุ้นยิงแม้แต่ครั้งเดียว 

นิวคาสเซิ่ล ไม่สามารถต่อบอลเข้าพื้นที่อันตรายของ อาร์เซน่อล ได้เลย แค่ผ่านกลางสนามยังยาก บรูโน่ กิมาไรส์, ลูอิส ไมลี่ย์ และ ฌอง ลองสตาฟฟ์ แทบไม่มีบทบาทในเกมรุกนอกจากวิ่งหัวหมุนหน้าเขตโทษตัวเอง

ไค ฮาแวร์ตซ์ มีโอกาสทองเพื่อปิดเกมตั้งแต่ต้นครึ่งหลังจากการหลุดเดี่ยวไปยิง แต่หักข้อเท้ามากไปหน่อยทำให้บอลถากเสาออกหลัง

การพลาดโอกาสนี้ทำให้ นิวคาสเซิ่ล ยังพอมีความหวังในการคัมแบ็ก และสามารถต่อบอลในแดน อาร์เซน่อล ได้ดีกว่าตลอดครึ่งแรกชัดเจน โอกาสลุ้นยิงครั้งแรกของเกมก็เกิดขึ้นในช่วงนี้

ส่วนหนึ่งเพราะแท็กติกของ อาร์เซน่อล ด้วยที่ลดระดับการไล่เพรสลงในครึ่งหลัง เลือกจังหวะในการไล่หรือรอดักบอลมากกว่า และก็กลายเป็นที่มาของประตูที่สาม 

อาร์เซน่อล ตัดบอลได้กลางสนาม ไค ฮาแวร์ตซ์ ป้ายต่อให้ บูคาโย่ ซาก้า จี้เข้าเขตโทษก่อนโยกหลบ ตีโน่ ลีฟราเมนโต้ แล้วยิงด้วยซ้ายผ่านบล็อกผู้เล่นสาลิกาถึง 3 คนเข้าประตู

เกมจบใน 4 นาทีถัดมาที่ลูกเตะมุมได้ผลอีกครั้ง เดแคลน ไรซ์ เปิดให้ ยาคุบ คีวออร์ โหม่งแฉลบมือ ลูอิส ไมลี่ย์ ขณะที่ คาริอุส ก็เสียจังหวะไปด้วยจึงไม่สามารถป้องกันได้

ท้ายเกม นิวคาสเซิ่ล ได้ประตูปลอบใจจาก โจ วิลล็อค ที่โหม่งทีมเก่าสุดสวย แต่การเปลี่ยนตัวก่อนหน้านี้ของ เอ็ดดี้ ฮาว ก็เหมือนยอมรับสภาพไปแล้ว เช่นเดียวกับ มิเกล อาร์เตต้า ที่ได้พักตัวหลักก่อนเกมจบทั้ง ซาก้า, มาร์ติเนลลี่, โอเดการ์ด รวมถึง จอร์จินโญ่ ที่วิ่งทั้งเกมจนเป็นตะคริว

แม้พลาดโอกาสทำคลีนชีตในลีกเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันซึ่งอาจเป็นจุดเดียวที่ต้องแก้ไขกับสมาธิช่วงท้ายเกมเหมือนที่เพิ่งเกิดขึ้นในเกมยุโรป แต่การชนะได้หลังจากมาคือสิ่งสำคัญสุด

ฟอร์มการเล่นที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพโดยเฉพาะครึ่งแรก แสดงให้เห็นว่า อาร์เซน่อล ยังมีศักยภาพล้นเหลือที่จะเดินหน้าได้ทันทีหลังเกิดอาการสะดุด แบบนี้ลุ้นแชมป์ยาวๆ